การล้างหน้าคือบางสิ่งที่คุณทำเป็นประจำทุกวัน แต่แน่ใจหรือยังว่าทำความสะอาดได้ถูกต้อง
การล้างหน้าไม่ใช่เรื่องที่ต้องมานั่งคิดใช่หรือไม่ ไม่จริงเอาซะเลย จากการสำรวจพบว่าคนอเมริกันกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ได้ทำผิดพลาดอย่างน้อยหนึ่งหรือมากว่าในการล้างหน้าที่ผิดพลาด และมากกว่าครึ่งละเลยการทำความสะอาดก่อนเข้านอน
ในขณะเดียวกัน การล้างหน้าที่มากเกินไปก็ส่งผลเสียไม่ต่างอะไรกับการไม่ล้างหน้า “เมื่อล้างหน้านั้นเท่ากับต้องการกำจัดน้ำมันส่วนเกินออกไป รวมถึงสิ่งสกปรก มลภาวะและเครื่องสำอางค์ออกโดยไม่ทำลายกำแพงผิว”
ประโยชน์ที่ได้จากการล้างหน้าถูกวิธีนั้นมีมากมาย การกำจัดสิ่งสกปรกและสิ่งอุดตันจะช่วยป้องกันการเกิดสิวได้ การล้างหน้าคือกุญแจสำคัญในการกำจัดเซลล์ตายที่สะสมอยู่บนผิวออกและช่วยเรื่องความหมองคล้ำ – เมื่อคราบเหล่านี้หลุดลอกออกก็จะทำให้ผิวดูมีสุขภาพดี เปล่งปลั่ง
อย่างที่กล่าวไว้การวุ่นวายมากเกินไปเกี่ยวกับการล้างหน้าเช่นการล้างหน้ามากเกินไปและการขัดถูที่มากไปอาจทำให้รู้สึกสะอาดสะอ้าน แต่จริงๆแล้วมันคือความเสียหาย เพราะเป็นการสร้างความเสียหายต่อกำแพงผิว คือโครงข่ายเซลล์ผิวและไขมันของผิวชั้นชั้นนอกที่ช่วยปกป้องผิวของเราจากสิ่งแวดล้อม ดังนั้นการล้างหน้าอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน โดยเฉพาะในคนที่มีภาวะโรคผิวหนังอักเสบและโรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย โรคดังกล่าวนี้จะทำให้กำแพงผิวอ่อนแอ เพื่มความเสี่ยงในการอักเสบ
ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในการล้างหน้าอย่างเหมาะสม
5ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับวิธีล้างเครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตาเพื่อล้างเครื่องสำอางที่ติดแน่น
สิ่งที่สำคัญคือการล้างเครื่องสำอางออกให้สะอาดหมดจดก่อนเข้านอน เพื่อลดความเสี่ยงให้ผิวระคายเคืองจากเครื่องสำอาง
หากใช้เครื่องสำอางบางๆ ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าปกติทั่วไปอาจพอเพียงในการนำมาใช้ล้างหน้า แต่ลองใช้ชนิด “ล้างลึกซึ้งสองเท่า” ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือไมเซล่า วอเตอร์เพื่อล้างเครื่องสำอางค์ออก (ไมเซล่าวอเตอร์มีโมเลกุลไมเซลล์ที่จับตัวได้ทั้งน้ำและน้ำมันเพื่อเกิดประสิทธิผลในการล้างสิ่งสกปรกและเครื่องสำอาง) สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับใช้กับการใช้เครื่งสำอางค์ที่เข้มหนา เช่นเมื่อต้องแต่งหน้าในวันแต่งงานหรือโอกาสพิเศษ
6อย่าถูผิวของคุณอย่างผิดวิธี
สำหรับการทำความสะอาดหน้าที่นุ่มนวลแต่สะอาด เครื่องมือที่ดีที่สุดก็คือปลายนิ้วของคุณเอง -ปลายนิ้วของเราจะทำงานได้อย่างเยี่ยมยอดและสามารถทำการนวดเบาๆในระหว่างการทำความสะอาด ซึ่งสามารถกระตุ้นการไหลเวียนและช่วยเป็นการนวดระบายน้ำเหลือง
สำหรับการทำความสะอาดที่ลึกซึ้ง โซนิคคลีนซิ่งมีประสิทธิภาพนการกำจัดน้ำจากผิวได้มากกว่า เมื่อเทียบกับคลีนซิ่งธรรมดา
7ใช้ผ้าขนหนูสะอาดสำหรับใบหน้าเท่านั้น
การคลีนซิ่งมีอะไรมากกว่าแค่ล้างหน้าล้สงมือให้สะอาดก่อนการล้างหน้า และเช็ดใบหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กที่นุ่มนวล สะอาดที่ใช้สำหรับใบหน้าเท่านั้น
8อย่าลืมใช้มอยส์เจอไรเซอร์หลังลทำความสะอาดใบหน้า
ในขณะที่ต้องการให้ใบหน้าสะอาด คุณคงไม่ต้องการให้ผิวของคุณเปลือยเปล่า หลังการล้างหน้าควรเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยทอยส์เจอไรเซอร์บางๆ หากใช้ยาทาสิวหรือผลิตภัณฑ์ชะลอวัยให้ใช้หลังทามอยส์เจอไรเซอร์ เพราะมอยส์เจอไรเซอร์จะทำหน้าที่จะช่วยลดอาการระคายเคืองได้
กฎ 8 ข้อสำหรับการล้างหน้า
1เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวให้ถูก ต้องกับผิวของคุณ การใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ถูกต้องสำหรับผิวคุณอาจแตกต่างกับสิ่งที่ดีที่สุดที่เพื่อนของคุณใช้ หากมีผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย ให้เลือกโฟมล้างหน้าหน้าแห้งที่ให้ความชุ่มชื้น ชนิดไม่เกิดฟองเพราะมีสารที่ทำให้เกิดฟองที่ทำให้ผิวยิ่งแห้งมากขึ้น ส่วนผลิตภัณฑ์ล้างหน้าชนิดมีฟองหรือมีส่วนประกอบของกรดซาลิซิลิกอาจจะดีที่สุดสำหรับคนผิวมันที่ต้องการการทำความสะอาดที่ล้ำลึก และกรดซาลิซิลิกคือสารประกอบที่มีฤทธิ์เป็นกรดที่ช่วยขจัดน้ำมันออกจากผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันนี้มีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้ามากมายแตกต่างกันไปหลายประเภท จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์อย่างระวัง ระวังการล้างหน้าที่มากเกินไป หากเกิดอาการแดง ลอกหรือตกสะเก็ดหรือรู้สึกคันอาจเกิดจากการขัดถูหน้ามากเกินไป 2อย่าล้างหน้าด้วยน้ำร้อน ควรล้างหน้าด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุ่นในการล้างหน้า โดยเฉพาะหากคุณมีผิวแพ้ง่ายหรือเป็นผิวหนังอักเสบโรชาเชีย น้ำร้อนอาจทำให้หน้าแดงและขึ้นผื่นแดง 3ล้างหน้าวันละสองครั้ง ควรล้างหน้าวันละสองครั้งในตอนเช้าและก่อนเข้านอน ถ้าล้างหน้าได้แค่วันละครั้งเท่านั้นให้ล้างหน้าในช่วงเย็นเพื่อกำจัดทุกสิ่งที่สะสมไว้ในระหว่างวัน เพื่อการนอนหลับด้วยใบหน้าที่สะอาดบนหมอนหนุน 4อย่าคิดเองเองว่าจำเป็นต้องใช้โทนเนอร์หรือสารสมานผิว ปัจจุบันนี้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้ามีประสิทธิภาพมากกว่าสมัยก่อน ดังนั้นโทนเนอร์หรือสารสมานผิวจึงไม่จำเป็นเสมอไปในการกำจัดสิ่งสกปรกและน้ำมัน
5ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับวิธีล้างเครื่องสำอางบริเวณรอบดวงตาเพื่อล้างเครื่องสำอางที่ติดแน่น
สิ่งที่สำคัญคือการล้างเครื่องสำอางออกให้สะอาดหมดจดก่อนเข้านอน เพื่อลดความเสี่ยงให้ผิวระคายเคืองจากเครื่องสำอาง
หากใช้เครื่องสำอางบางๆ ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าปกติทั่วไปอาจพอเพียงในการนำมาใช้ล้างหน้า แต่ลองใช้ชนิด “ล้างลึกซึ้งสองเท่า” ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือไมเซล่า วอเตอร์เพื่อล้างเครื่องสำอางค์ออก (ไมเซล่าวอเตอร์มีโมเลกุลไมเซลล์ที่จับตัวได้ทั้งน้ำและน้ำมันเพื่อเกิดประสิทธิผลในการล้างสิ่งสกปรกและเครื่องสำอาง) สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับใช้กับการใช้เครื่งสำอางค์ที่เข้มหนา เช่นเมื่อต้องแต่งหน้าในวันแต่งงานหรือโอกาสพิเศษ
6อย่าถูผิวของคุณอย่างผิดวิธี
สำหรับการทำความสะอาดหน้าที่นุ่มนวลแต่สะอาด เครื่องมือที่ดีที่สุดก็คือปลายนิ้วของคุณเอง -ปลายนิ้วของเราจะทำงานได้อย่างเยี่ยมยอดและสามารถทำการนวดเบาๆในระหว่างการทำความสะอาด ซึ่งสามารถกระตุ้นการไหลเวียนและช่วยเป็นการนวดระบายน้ำเหลือง
สำหรับการทำความสะอาดที่ลึกซึ้ง โซนิคคลีนซิ่งมีประสิทธิภาพนการกำจัดน้ำจากผิวได้มากกว่า เมื่อเทียบกับคลีนซิ่งธรรมดา
7ใช้ผ้าขนหนูสะอาดสำหรับใบหน้าเท่านั้น
การคลีนซิ่งมีอะไรมากกว่าแค่ล้างหน้าล้สงมือให้สะอาดก่อนการล้างหน้า และเช็ดใบหน้าให้แห้งด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กที่นุ่มนวล สะอาดที่ใช้สำหรับใบหน้าเท่านั้น
8อย่าลืมใช้มอยส์เจอไรเซอร์หลังลทำความสะอาดใบหน้า
ในขณะที่ต้องการให้ใบหน้าสะอาด คุณคงไม่ต้องการให้ผิวของคุณเปลือยเปล่า หลังการล้างหน้าควรเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยทอยส์เจอไรเซอร์บางๆ หากใช้ยาทาสิวหรือผลิตภัณฑ์ชะลอวัยให้ใช้หลังทามอยส์เจอไรเซอร์ เพราะมอยส์เจอไรเซอร์จะทำหน้าที่จะช่วยลดอาการระคายเคืองได้
เทคนิคหลักที่เหมาะสม
- ใช้น้ำอุ่น: หลีกเลี่ยงน้ำร้อน เนื่องจากจะทำให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้น และนำไปสู่ความแห้งและระคายเคืองได้ ให้เลือกน้ำอุ่นเพื่อทำความสะอาดใบหน้าอย่างอ่อนโยนแทน
- นวดเบาๆ: ใช้น้ำยาทำความสะอาดเล็กน้อยบนปลายนิ้วของคุณแล้วนวดลงบนผิวที่เปียกชื้นโดยใช้เป็นวงกลม อ่อนโยนและหลีกเลี่ยงการขัดถูแรงเกินไป เพราะอาจทำลายเกราะป้องกันของผิวหนังได้
- ล้างออกให้สะอาด: ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำอุ่นเพื่อขจัดคราบของน้ำยาทำความสะอาด สิ่งสกปรก และสิ่งสกปรก ใช้ผ้าสะอาดซับผิวให้แห้ง หลีกเลี่ยงการถู เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตีบ (Phimosis)
สาเหตุของผิวแห้งกร้านและวิธีบำรุงผิว
เนื้องอกต่อมหมวกไตฟีโอโครโมไซโตมา (Pheochromocytoma)
ภาวะปวดหลอน (Phantom Pain)
โรคปริทันต์ (Periodontitis) : อาการ สาเหตุ การรักษา
โรคอกบุ๋ม (Pectus Excavatum)
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น