ตรวจนับจำนวนเซลล์เม็ดเลือดแดง (RBC-Red Blood Cell)

อะไรคือการตรวจนับจำนวนเซลล์เม็ดเลือดแดง (RBC)

การตรวจสอบ RBCs เป็นการทดสอบเพื่อหาว่าในร่างกายมีจำนวนเม็ดเลือดแดงอยู่เท่าไร หรือเรียกง่ายๆ ว่าการนับเม็ดเลือดแดง การทดสอบนี้มีความสำคัญเนื่องจากเม็ดเลือดแดงมีฮีโมโกลบินซึ่งนำออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อของร่างกาย จำนวน RBCs ที่ร่างกายมีสามารถบ่งบอกปริมาณออกซิเจนที่เนื้อเยื่อของได้รับ เพราะเนื้อเยื่อต้องการออกซิเจนในการทำงาน 

อาการจากจำนวนเม็ดเลือดแดงที่ผิดปกติ

ถ้ามีเม็ดเลือดแดงในระดับสูงหรือต่ำเกินไปจะทำให้เกิดอาการผิดปกติ หรือภาวะแทรกซ้อนได้ อาการผิดปกติจากเม็ดเลือดแดงที่ต่ำเกินไปได้แก่ อาการผิดปกติจากเม็ดเลือดแดงสูงเกินไปได้แก่
  • ความเหนื่อยล้า
  • หายใจถี่
  • ปวดข้อ
  • ฝ่ามือฝ่าเท้าเจ็บช้ำ
  • คันผิวระหว่างอาบน้ำหรือหลังอาบน้ำ
  • นอนหลับไม่สนิท
หากมีอาการดังต่อไปนี้ควรที่จะพบแพทย์ เพื่อทำการทดสอบ RBC อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ อาการนอนไม่หลับ 

RBC-Red Blood Cell

การตรวจสอบ RBC แสดงผลอย่างไร

การตรวจสอบ ABC เป็นการตรวจสอบคุณสมบัติของเลือดขั้นพื้นฐาน แพทย์จะทำการเจาะเลือด มักจะเจาะที่บริเวณข้อพับแขน โดยการตรวจสอบนี้จะมีขั้นตอนดังนี้
  • พยาบาลจะทำความสะอาดบริเวณที่เจาะด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
  • จากนั้นจะพันแถบยางยืดรอบต้นแขนเพื่อให้เส้นเลือดบวมขึ้นมา
  • ค่อยๆ สอดเข็มเข้าไปในเส้นเลือดของคุณและเก็บเลือดในขวดหรือหลอด
  • เมื่อเสร็จสิ้นพยาบาลจะถอดเข็ม และยางรัดออกจากแขน
  • ส่งตัวอย่างเลือดของคุณไปที่ห้องปฏิบัติการเพื่อทำการวิเคราะห์

 จำนวนเม็ดเลือดแดงที่เป็นปกติคือเท่าไร

จำนวนเม็ดเลือดแดง (RBC) ที่ปกติ คือดังนี้
  • ช่วง RBC ปกติสำหรับผู้ชายคือ 4.7- 6.1 ล้านเซลล์ต่อไมโครลิตร (mcL)
  • ช่วง RBC ปกติสำหรับผู้หญิงที่ไม่ได้ตั้งครรภ์คือ 4.2 – 5.4 ล้านต่อไมโครลิตร (mcL)
  • ช่วง RBC ปกติสำหรับเด็กคือ 4.0 – 5.5 ล้านต่อไมโครลิตร (mcL)
แต่ทั้งนี้ช่วง RBC ที่เหมาะสมนั้นจะขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่สถาบันสุขภาพนั้นๆ ใช้ด้วย

จำนวนเม็ดเลือดแดงที่ผิดปกติเป็นอย่างไร

หากแพทย์พบว่า RBC มีผลผิดปกติจะทำการแจ้งกับผู้ที่มาเจาะเลือด และขอทดสอบซ้ำอีกครั้ง อาจจะทดสอบซ้ำด้วยการตรวจฟิล์มเลือดภายใต้กล้องจุลทรรศน์  วิธีนี้สามารถช่วยตรวจหาความผิดปกติในเซลล์เม็ดเลือด (เช่น โรคโลหิตจางชนิดเคียว) ความผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือดขาว (เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว) และปรสิตในเลือด (เช่น มาลาเรีย) ภาวะโลหิตจางเป็นภาวะที่มีเซลล์เม็ดเลือดแดงที่แข็งแรงไม่เพียงพอที่จะพาออกซิเจนไปทั่วร่างกาย ประเภทของโรคโลหิตจาง ได้แก่ :
  • ภาวะขาดแคลนธาตุเหล็ก ซึ่งง่ายต่อการรักษา
  • โรคโลหิตจางชนิดเคียว ซึ่งส่งผลให้เซลล์เม็ดเลือดแดงมีรูปร่างผิดปกติ และเซลล์จะตายอย่างรวดเร็ว 
  • โลหิตจางจากการขาดแคลนวิตามิน ส่วนมากจะเป็นการขาดวิตามิน B-12
โรคโลหิตจางทุกประเภทต้องได้รับการรักษา ผู้ที่เป็นโรคโลหิตจางมักรู้สึกเหนื่อย และอ่อนแอได้ง่าย รวมทั้งมีอาการปวดศีรษะ มือ และเท้าเย็น เวียนศีรษะ และหัวใจเต้นผิดปกติ การตรวจเนื้อเยื่อจากไขกระดูกสามารถแสดงให้เห็นว่า เซลล์ต่างๆ ในเลือดของถูกสร้างขึ้นภายในไขกระดูกได้อย่างไร ในขณะที่การตรวจวินิจฉัย เช่น อัลตราซาวด์ หรือคลื่นไฟฟ้าหัวใจ สามารถตรวจหาสภาวะที่ส่งผลต่อไต หรือหัวใจได้

การเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์

ไลฟ์สไตล์หรือวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปสามารถส่งผลกับ RBC ได้
  • รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และหลีกเลี่ยงการขาดวิตามิน
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำให้ร่างกายต้องใช้ออกซิเจนมากขึ้น
  • หลีกเลี่ยงแอสไพริน
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
การลดจำนวนเม็ดเลือดแดงสามารถทำได้ดังนี้
  • ลดการบริโภคธาตุเหล็ก หรือเนื้อสัตว์จำพวกเนื้อแดง
  • ดื่มน้ำมากๆ
  • หลีกเลี่ยงการดื่มคาเฟอีน และแอลกอฮอล์
  • เลิกสูบบุหรี่

เปลี่ยนแปลงการรับประทานอาหาร

การเปลี่ยนแปลงอาหารมีส่วนสำคัญในการรักษาด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มหรือลดจำนวน RBC โดยสามารถเพิ่ม RBC ได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงอาหารดังต่อไปนี้
  • เพิ่มอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก (เช่น เนื้อ ปลา เนื้อไก่) รวมทั้งถั่ว และผักใบเขียว (เช่น ผักโขม) ในอาหาร
  • เพิ่มทองแดงในอาหาร ด้วยอาหารจำพวกหอย สัตว์ปีก และถั่วต่างๆ
  • บริโภควิตามินบี 12 มากขึ้น ด้วยอาหารเช่น ไข่ เนื้อสัตว์ และซีเรียลเสริม
อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติม ประโยชน์ของไข่

คำถามที่พบบ่อย

  • จำนวนเม็ดเลือดแดงปกติคืออะไร?
      • คำตอบ:จำนวนเม็ดเลือดแดงปกติอาจแตกต่างกันเล็กน้อยระหว่างห้องปฏิบัติการต่างๆ แต่ช่วงปกติสำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 4.5 ถึง 5.5 ล้านเซลล์เม็ดเลือดแดงต่อไมโครลิตร (ล้าน/mcL) ของเลือดสำหรับผู้ชาย และ 4.0 ถึง 5.0 ล้าน/mcL สำหรับผู้หญิง
  • ทำไมจำนวนเม็ดเลือดแดงจึงมีความสำคัญ?
      • คำตอบ:เซลล์เม็ดเลือดแดงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการลำเลียงออกซิเจนจากปอดไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย และนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กลับไปยังปอดเพื่อหายใจออก จำนวนเม็ดเลือดแดงเป็นองค์ประกอบสำคัญของการนับเม็ดเลือด (CBC) และให้ข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถในการรับออกซิเจน
  • อะไรทำให้จำนวนเม็ดเลือดแดงต่ำ (โรคโลหิตจาง)?
      • คำตอบ:โรคโลหิตจางหรือจำนวนเม็ดเลือดแดงต่ำอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ รวมถึงการขาดสารอาหาร (เช่น การขาดธาตุเหล็ก วิตามินบี 12 หรือโฟเลต) โรคเรื้อรัง การสูญเสียเลือด ความผิดปกติของไขกระดูก และภาวะทางพันธุกรรม
  • จำนวนเม็ดเลือดแดงวัดได้อย่างไร?
      • คำตอบ:โดยทั่วไปการนับเม็ดเลือดแดงจะเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจนับเม็ดเลือด (CBC) เลือดจะถูกดึงออกจากหลอดเลือดดำ และจำนวนเซลล์เม็ดเลือดแดงจะถูกนับโดยใช้เครื่องอัตโนมัติในห้องปฏิบัติการ
  • ภาวะขาดน้ำส่งผลต่อจำนวนเม็ดเลือดแดงหรือไม่?
      • คำตอบ:ภาวะขาดน้ำอาจทำให้ความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดงในเลือดเพิ่มขึ้นชั่วคราว ส่งผลให้จำนวนเม็ดเลือดแดงสูงเกินจริง การให้ความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอก่อนการตรวจเลือดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ
  • ภาวะโพลีไซเธเมียคืออะไร?
      • คำตอบ: โพลีไซเธเมีย คือภาวะที่มีจำนวนเม็ดเลือดแดงสูงผิดปกติ อาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น ภาวะขาดน้ำ การสูบบุหรี่ โรคปอด หรือความผิดปกติของไขกระดูก โพลีไซเธเมียสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือด
  • ฉันจะเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดแดงตามธรรมชาติได้อย่างไร?
      • คำตอบ:การรับประทานอาหารที่สมดุลซึ่งอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก วิตามินบี 12 และโฟเลต เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาระดับเม็ดเลือดแดงให้แข็งแรง อาหารต่างๆ เช่น เนื้อแดง ผักใบเขียว ถั่ว และธัญพืชเสริมอาหารสามารถให้สารอาหารเหล่านี้ได้
  • ยาบางชนิดสามารถส่งผลต่อจำนวนเม็ดเลือดแดงได้หรือไม่?
    • คำตอบ:ใช่ ยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัด อาจส่งผลต่อการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงได้ แจ้งผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณเสมอเกี่ยวกับยาหรืออาหารเสริมที่คุณกำลังใช้
หากคุณมีข้อกังวลเกี่ยวกับจำนวนเม็ดเลือดแดงหรือปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้อง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อการประเมิน การวินิจฉัย และคำแนะนำที่เหมาะสม
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด