โลน (Pubic lice) คือ แมลงขนาดเล็กมาก ที่เข้ามาทำลายอวัยวะเพศได้ โลนเป็นหนึ่งในสามประเภทของเหาที่รบกวนมนุษย์:
- เหาบนหัว Pediculus humanus capitis
- เหาบนร่างกาย Pediculus humanus corporis
- เหาในอวัยวะเพศ หรือ โลน
เราจะติดโลนได้อย่างไร?
โดยปกติโลนจะส่งผ่านการสัมผัสอย่างใกล้ชิด รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่าจะติดต่อผ่านการใช้ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว ผ้าปูที่นอนหรือเสื้อผ้าของผู้ที่เป็นโลน เหาหรือโลนตัวเต็มไวจะวางไข่บนผมใกล้ผิวหนัง ไข่เหล่านี้เรียกว่า Nits ภายใน 7 – 10 วันต่อ ไข่เหล่านี้จะกลายเป็นตัวอ่อน และเริ่มกินเลือด เหาสามารถอยู่ได้โดยปราศจากแหล่งอาหารเป็นเวลานาน 1-2 เดือน คุณไม่สามารถติดโลนผ่านการใช้เฟอร์นิเจอร์หรือโซฟาใดๆ โลนจะไม่ออกจากโฮสต์ เว้นแต่ว่าจะตายไป และยังไม่สามารถกระโดดจากที่หนึ่งไปยังอีกที่ได้เหมือนกับหมัด อย่าให้เด็กๆ นอนบนเตียงเดียวกับผู้ที่เป็นโลน เด็ก ๆ อาจติดโลนหลังจากนอนบนเตียงเดียวกัน โลนในเด็กมักอาศัยอยู่ในขนตาหรือคิ้ว การพบโลนในเด็กอาจบอกถึงการได้รับทารุณกรรมทางเพศสัญญาณอาการติดโลน
คนที่เป็นโลนจะมีอาการคันบริเวณอวัยวะเพศ หรือทวารหนักประมาณ 5 วันหลังจากได้รับโลน อาการคันจะรุนแรงมากในเวลากลางคืน อาการทั่วไปอื่น ๆ ของโลนได้แก่: อาการคันมาก สามารถนำไปสู่การเกิดบาดแผลหรือการติดเชื้อ เด็กที่มีโลนบนขนตา มีความเสี่ยงต่อการเกิดเยื่อบุตาอักเสบการป้องกันโลน
การป้องกันโลนสามารถทำได้โดยหลีกเลี่ยงการแบ่งปันเสื้อผ้า เครื่องนอน หรือผ้าขนหนู สำหรับผู้ที่มีปัญหาโลน ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ เมื่อทราบว่ามีอาการติดโลน ควรแจ้งคู่นอน เพื่อหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์การกำจัดโลน
การรักษาโลนเกิดจากการปนเปื้อนโดยการสัมผัสโดยตรง เสื้อผ้าและผ้าปูที่นอน โลชั่นและแชมพูกำจัดเหาที่ขายตามร้านขายยาทั่วไปสามารถใช้กำจัดโลนได้ ได้แก่โลชั่น Permethrin และ A-200 โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนใช้งานหากกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร หรืออยู่ระหว่างกำลังรักษาทารก คุณอาจจำเป็นต้องใช้ยาสระดังกล่าวในบริเวณขนที่อวัยวะเพศ โปรดสังเกตฉลากว่าควรใช้ผลิตภัณฑ์ปริมาณเท่าใด และคุณจะต้องแช่ไว้บนผิวหนังนานแค่ไหน หากไม่สามารถรักษาด้วยตนเองได้ จำเป็นต้องได้รับยาจากใบสั่งแพทย์ แม้จะรักษาโลนสำเร็จแล้วก็ตาม อาจจะมีไข่ที่ยังเกาะติดกับเส้นขน ให้ทำการกำจัดไข่โลนออกด้วย หรืออาจจะเยียวยาด้วยตนเองที่บ้าน เช่น การโกนหนวดและแช่อ่างน้ำร้อน เป็นต้น โลนไม่สามารถตายด้วยน้ำสบู่หรือน้ำธรรมดาได้ หากสมาชิกในครอบครัวเป็นโลนจำนวนหลายคน ให้ทำการรักษาพร้อมกัน เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ และจำเป็นที่ต้องลดการปนเปื้อนในบ้านด้วยการดูดฝุ่นทั้งบ้าน และทำความสะอาดห้องน้ำด้วยน้ำยาซักล้าง แช่ผ้าเช็ดตัวเครื่องนอนและเสื้อผ้าในน้ำร้อนแล้วใช้วิธีการซักแห้งด้วยเครื่อง หากไม่สามารถทำได้ให้นำเสื้อผ้าไปใส่ในกระสอบพลาสติกที่ปิดผนึกและเป็นระบบสุญญากาศนานเวลา 72 ชั่วโมง ยารักษาโลนที่มีประสิทธิภาพมีดังนี้:- Malathion (Ovide) โลชั่นทาเฉพาะจุดในบริเวณที่มีอาการเป็นเวลา 8 – 12 ชั่วโมง
- Ivermectin (Stromectol) ใช้ต่อเนื่อง 10 วันในการรักษา
- Lindane ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์กำจัดโลน ลังจากชะโลมแล้วทิ้งไว้ประมาณสี่นาทีก่อนล้างออก ห้ามใช้ยานี้ในสตรีตั้งครรภ์ หรือใช้กับทารก
คำถามที่พบบ่อบเกี่ยวกับโลน
- 1. โลน ติดต่อได้อย่างไร
-
- โลนมักจะติดต่อผ่านการสัมผัสส่วนตัวอย่างใกล้ชิดกับบุคคลที่ติดเชื้อ สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้ระหว่างกิจกรรมทางเพศ แต่ก็สามารถแพร่กระจายผ่านเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว หรือเครื่องนอนที่มีเชื้อโรครบกวนได้เช่นกัน สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าเหาไม่ได้บ่งบอกถึงสุขอนามัยที่ไม่ดี ทุกคนสามารถรับได้
- 2. อาการเบื้องต้นของการติดโลนคืออะไร
-
- อาการคันในบริเวณหัวหน่าว
- 3. โลนกับเหาเหมือนกันหรือไม่
-
- ไม่ โลนกับเหาเป็นเหาคนละสายพันธุ์กัน โลนจะระบาดเฉพาะบริเวณหัวหน่าวและขนหยาบอื่นๆ ในขณะที่เหาจะอาศัยอยู่ที่หนังศีรษะและเส้นผมบนศีรษะ
- 4. เราสามารถติดโลนจากห้องน้ำสาธารณะได้หรือไม่
-
- เป็นไปได้น้อยมากที่จะติดเหาจากที่นั่งในห้องน้ำ โลนไม่มีความสามารถในการอยู่รอดเป็นเวลานานจากความอบอุ่นของร่างกายมนุษย์ ดังนั้นโอกาสในการแพร่เชื้อจากที่นั่งในห้องน้ำจึงน้อยมาก
- 5. รักษาโลนได้อย่างไร
-
- สามารถรักษาได้ด้วยครีม โลชั่น หรือแชมพูที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์หรือยาตามใบสั่งแพทย์ที่มีสูตรเฉพาะเพื่อฆ่าโลน สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำบนผลิตภัณฑ์และใช้ตามคำแนะนำ
- 6. โลนสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้หรือไม่
- แม้ว่าโลนจะพบได้บ่อยในบริเวณอวัยวะเพศ แต่ก็สามารถรบกวนขนหยาบอื่นๆ ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามพวกมันไม่แพร่กระจายไปยังหนังศีรษะหรือผมส่วนอื่นบนศีรษะเหมือนเหา
นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.nhs.uk/conditions/pubic-lice/
- https://www.cdc.gov/parasites/lice/pubic/index.html
เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น