วิธีรักษาเกาต์ที่บ้านด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ (Natural Home Remedies for Gout)

โรคเกาต์ คือ

โรคเกาต์คือโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดคล้ายกับโรคข้อเข่าเสื่อม แต่ก็มีข้อแตกต่างกันอยู่บางประการ สาเหตุจากการสะสมของกรดยูริกในเลือดสูง กรดยูริกจะสะสมในข้อต่อทำให้เกิดการอักเสบ ทำให้รู้สึกไม่สบาย และเจ็บปวด การรักษาตามธรรมชาติสามารถบรรเทาอาการได้ อย่างไรก็ตาม หากอาการปวดเกาต์เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน หรือรุนแรงมาก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและกำหนดแนวทางการรักษาทางการแพทย์ โรคเกาต์มีสาเหตุจากอะไรอ่านได้ที่นี่

สมุนไพรรักษาโรคเกาต์

เชอร์รี่หรือน้ำเชอร์รี่ทาร์ต

เชอร์รี่ทั้งชนิดเปรี้ยว หวาน แดง หรือดำ ที่แปรรูปในแบบสารสกัด เป็นน้ำผลไม้ หรือผลสดสามารถใช้เป็นยาพื้นบ้านที่ได้รับความนิยม และสามารถบรรเทาอาการของผู้ป่วยได้หลายคน โดยเชอร์รี่เป็นอาหารโรคเก๊าท์ โดยแนะนำให้รับประทานเชอร์รี่หลาย ๆ แบบ ทุก ๆ 2 วัน เพื่อประสิทธิภาพทางการแพทย์ที่ดีที่สุด

แมกนีเซียม

แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุในอาหาร เป็นยาแก้โรคเก๊าที่เกิดจากภาวะที่ร่างกายขาดแมกนีเซียมจนทำให้ความเครียดจากการอักเสบเรื้อรังในร่างกายแย่ลง ดังนั้นแมกนีเซียมที่เพียงพอจึงส่งผลต่อระดับกรดยูริกที่ลดลง และดีต่อสุขภาพ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงโรคเกาต์ได้ และส่งผลดีในกรณีของผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ลองทานอาหารเสริมแมกนีเซียม แต่อ่านตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด หรือกินอาหารที่มีแมกนีเซียมสูงทุกวัน เพื่อลดความเสี่ยงของโรคเกาต์ หรือการเกิดโรคเกาต์แบบเรื้อรัง จัดการกับโรคเครียดด้วยการคิดบวกได้อย่างไรดี อ่านที่นี่

ขิง

ขิงเป็นอาหารและสมุนไพรแก้เก๊าเพราะช่วยบรรเทาอาการอักเสบ จึงสามารถช่วยบรรเทาอาการของโรคเกาต์ได้ ขิงช่วยลดอาการปวดที่เกิดจากระดับกรดยูริกที่สูงผิดปกติของโรคเกาต์ มีผลการศึกษาพบว่าผู้ที่มีระดับกรดยูริกสูง (ภาวะกรดยูริกในเลือดสูง) จะลดลงได้เมื่อรับประทานขิง วิธีรักษาโรคเก๊าท์ด้วยสมุนไพรยังสามารถนำขิงมาทำเป็นลูกประคบ หรือแปะลงบนผิวหนัง โดยนำขิงมาต้มในน้ำเดือด ใช้ขิงสดขูดประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ เมื่อส่วนผสมเย็นแล้ว ให้แช่ผ้าขนหนูลงในส่วนผสม แล้วนำผ้ามาชุบบริเวณที่มีอาการปวดอย่างน้อยวันละครั้งเป็นเวลา 15 ถึง 30 นาที แต่บางคนอาจรู้สึกระคายเคืองที่ผิวหนังได้ นำขิงมาต้มในน้ำเดือด โดยใช้ขิง 2 ช้อนชาเป็นเวลา 10 นาที เพื่อกินวันละ 3 ถ้วย การนำขิงมารับประทานควรขอคำแนะนำจากแพทย์ก่อนรับประทานขิงในปริมาณมาก Natural Home Remedy for Gout

น้ำอุ่นผสมกับน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล น้ำมะนาว และขมิ้น

น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ น้ำมะนาว และขมิ้นสามารถรักษาโรคเกาต์ได้ และเมื่อนำมาผสมรวมกันยังกลายเป็นเครื่องดื่มที่รสชาติดี โดยน้ำมะนาวและขมิ้นเป็นสมุนไพรรักษาเก๊าท์ที่ช่วยลดระดับของกรดยูริก ผสมน้ำมะนาวครึ่งลูกที่คั้นแล้วลงในน้ำอุ่น ผสมกับขมิ้น 2 ช้อนชา และน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนชา เพื่อดื่มวันละ 2 – 3 ครั้ง

คื่นฉ่าย หรือเมล็ดคื่นฉ่าย

คื่นฉ่ายเป็นอาหารที่ใช้รักษาอาการปัสสาวะผิดปกติ และสมุนไพรรักษาเก๊าท์ สารสกัดของคื่นฉ่ายและเมล็ดคื่นฉ่ายได้กลายเป็นยารักษาที่ได้รับความนิยม และคื่นฉ่ายยังช่วยลดการอักเสบได้ ปริมาณคื่นฉ่ายที่เพียงพอสำหรับการรักษาโรคเกาต์ไม่ได้กำหนดไว้ชัดเจน แต่แนะนำให้พยายามรับประทานคื่นฉ่ายวันละหลาย ๆ ครั้ง โดยเฉพาะคื่นฉ่ายดิบ น้ำคื่นฉ่าย สารสกัด หรือเมล็ดคื่นฉ่าย กรณีรับประทานเป็นสารสกัดหรืออาหารเสริม ต้องปฏิบัติตามฉลากอย่างเคร่งครัด

ชาตำแย

ตำแย (Urtica dioica) เป็นยาสมุนไพรสำหรับโรคเกาต์ที่ลดการอักเสบ และความเจ็บปวดได้ สามารถปกป้องไต คล้ายกับฤทธิ์ของยา gentamicin ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะ วิธีชงชาคือต้มน้ำให้เดือด 1 ถ้วย ใส่ตำแยแห้ง 1 ถึง 2 ช้อนชาต่อน้ำหนึ่งถ้วย ควรดื่มให้มากกว่า 3 ถ้วยต่อวัน

ดอกแดนดิไลอัน

สามารถรับประทานในรูปแบบชาดอกแดนดิไลอัน สารสกัด และอาหารเสริมเพื่อบำรุงสุขภาพตับและไต และสามารถลดระดับกรดยูริกได้ การรับประทานชาดอกแดนดิไลอัน สารสกัด หรืออาหารเสริม ควรปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด

มิลค์ ทิสเซิล

Milk thistle เป็นสมุนไพรที่ดีต่อตับ และสามารถลดกรดยูริกที่มากจนสามารถทำร้ายไตได้ การรักษาโรคเก๊าท์ด้วยสมุนไพรนี้ควรรับประทานตามคำแนะนำในการใช้ในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างระมัดระวัง หรือขอคำปรึกษาจากแพทย์ก่อน

ดอกชบา

ดอกชบาเป็นดอกไม้ที่สวยงาม และสามารถนำมาทำเป็นอาหาร ชา และยาสมุนไพรพื้นบ้าน ดอกชบาเป็นยารักษาโรคเก๊าท์ เพราะสามารถลดระดับกรดยูริกในเลือดได้  การใช้อาหารเสริม ชา หรือสารสกัด ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด

ข้อแนะนำการเยียวยาแบบธรรมชาติ

การเยียวยาตามธรรมชาติมีประโยชน์ในการจัดการอาการของโรคเกาต์และลดความถี่ในการเกิดโรคเกาต์ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรทราบก็คือการเยียวยาตามธรรมชาติควรเสริม ไม่ใช่ทดแทนการรักษาพยาบาลที่แพทย์สั่งจ่าย ต่อไปนี้เป็นวิธีการรักษาตามธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตที่อาจช่วยบรรเทาอาการโรคเกาต์ได้:
  • การเปลี่ยนแปลงด้านอาหาร:การปรับเปลี่ยนอาหารบางอย่างสามารถช่วยลดระดับกรดยูริกและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกาต์ได้ ซึ่งรวมถึง:
    • การจำกัดอาหารที่อุดมด้วยพิวรีน: อาหารที่มีพิวรีนสูง เช่น เนื้อเครื่องใน เนื้อแดง อาหารทะเล และถั่วบางชนิด สามารถเพิ่มระดับกรดยูริกและกระตุ้นให้เกิดโรคเกาต์ได้ การจำกัดการบริโภคอาหารเหล่านี้อาจช่วยลดอาการของโรคเกาต์ได้
    • การบริโภคอาหารที่มีพิวรีนต่ำเพิ่มขึ้น: เน้นการรับประทานผลไม้ ผัก ธัญพืช และผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำในปริมาณมาก ซึ่งมีพิวรีนต่ำและอาจช่วยลดระดับกรดยูริกได้
    • การรักษาภาวะขาดน้ำ: การดื่มน้ำปริมาณมากจะช่วยล้างกรดยูริกออกจากร่างกาย และอาจลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกาต์ได้ ตั้งเป้าดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวัน
  • การควบคุมน้ำหนัก:การรักษาน้ำหนักให้แข็งแรงสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคเกาต์ได้ เนื่องจากน้ำหนักส่วนเกินสัมพันธ์กับระดับกรดยูริกที่สูงขึ้น ออกกำลังกายสม่ำเสมอและรับประทานอาหารที่สมดุลเพื่อให้ได้และรักษาน้ำหนักให้แข็งแรง
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด