การคุมกำเนิดตามธรรมชาติ ความหมาย และข้อเท็จจริง
การคุมกำเนิดหมายถึง การใช้แนวปฏิบัติ ยารักษาหรืออุปกรณ์เพื่อช่วยในการป้องกันการตั้งครรภ์- การคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติ หรือการวางแผนครอบครัวแบบธรรมชาติ คือชนิดการคุมกำเนิดที่เป็นการเฝ้าติดตามดูจากร่างกายของผู้หญิง และดูจากวงจรของรอบเดือน
- การคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติซึ่งรวมไปถึงวิธีการนับระยะปลอดภัย
- ตัวอย่างของวิธีการการคุมกำเนิดแบบธรรมชาติเช่น
- การนับวันปลอดภัย
- การวัดอุณหภูมิร่างกาย
- การตรวจมูกที่ปากมดลูก
- ข้อได้เปรียบจากวิธีธรรมชาติคือ
- ประหยัดเงิน
- ไม่ต้องมีใบสั่งยา หรือการไปพบแพทย์
- ไม่ต้องใช้ยา หรือการปฏิบัติทางการแพทย์
- ข้อเสียเปรียบของวิธีตามธรรมชาติ คือความจริงที่ว่ามีความยากในเลือกที่ถูกต้องแม่นยำ และการมีเพศสัมพันธ์ต้องมีการหลีกเลี่ยงบางช่วงเวลาของเดือน
การคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติคืออะไร
การคุมกำเนิดด้วยวิธีธรรมชาติที่ถูกจัดว่าเป็น “ธรรมชาติ” เพราะว่าเป็นวิธีที่ไม่ใช้เครื่องจักร และไม่ส่งผลในการควบคุมฮอร์โมน สิ่งนี้เป็นวิธีในการป้องกันการตั้งครรภ์ที่กำหนดให้ทั้งหญิง และชายต้องไม่มีเพศสัมพันธ์ในระหว่างช่วงเวลาไข่ตกพร้อมจะปฏิสนธิกับสเปิร์ม วิธีการนับระยะปลอดภัย (FAMs) คือการรู้ช่วงเวลาที่ผู้หญิงมีไข่ตกในแต่ละเดือน เมื่อใช้วิธีการนับระยะปลอดภัย สิ่งที่จำเป็นคือการเฝ้าดูสัญญาน และอาการที่บ่งบอกถึงการตกไข่ เฉลี่ยแล้วไข่จะถูกปล่อยออกมาราว 14 วัน (บวกลบสองวัน) ก่อนรอบเดือนรอบถัดไปของผู้หญิง แต่เพราะว่าไข่สามารถมีชีวิตอย๋ได้ 3 ถึง 4 วัน (6 ถึง 24 ชั่วโมงหลังตกไข่) และอสุจิสามารถมีชีวิตอยู่ได้ 48 ถึง 72 ชั่วโมง (มากถึง 5 วันในมูกไข่ตก) การดูเวลาที่แม่นยำที่ผู้หญิงอาจตั้งครรภ์ต้องคำนวนไม่ใช่เพียงแค่เป็นชั่วโมง หรือวัน แต่เป็นสัปดาห์ FAMS สามารถเกิดประสิทธิภาพได้สูงถึง 98% แต่ก็ต้องการการต่อเนื่องและความตั้งใจจริงมีสติที่มาพร้อมกับการเฝ้าติดตาม และควบคุมตัวเองข้อดีและข้อเสียในการคุมกำเนิดแบบธรรมชาติคืออะไร
วิธีตามธรรมชาติคือ วิธีที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับวิธีการคุมกำเนิดอื่นๆนอกเสียจากผู้หญิงเลือกที่จะซื้ออุปกรณ์ตรวจหาวันไข่ตกข้อดีของการคุมกำเนิดตามธรรมชาติ
- ผู้หญิงไม่ต้องการรับประทานยา หรือใช้การจัดการกับฮอร์โมน
- ไม่ต้องปฏิบัติทางการแพทย์
ข้อเสียของการคุมกำเนิดตามธรรมชาติคือ
- เป็นเรื่องยากในการคาดคะเน หรือรู้ล่วงหน้าว่า เมื่อไรคือช่วงเวลาที่สมบูรณ์ที่สุด ทำให้เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจ
- วิธีธรรมชาติไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับการคุมกำเนิดบางชนิด
- อุปกรณ์ตรวจหาวันไข่ตกคือสิ่งที่คู่รักมักใช้เป็นวิธีคุมกำเนิดตามธรรมชาติ และราคาของอุปกรณ์นี้ก็คือข้อเสียอีกอย่างหนึ่ง
- การไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ในบางช่วงเวลาของเดือนคือข้อเสียสำหรับผู้หญิงบางคน
การนับวันปลอดภัย
การนับวันปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์โดยคำนวนช่วงเวลาไข่สุกของผู้หญิงด้วยการนับวัน โดยยึดหลักการมีรอบเดือน 12 เดือนก่อน ผู้หญิงจะใช้หลักการลบ 18 วันจากรอบเดือนที่สั้นที่สุดเพื่อหาวันแรกของไข่ตก และใช้ 11 วันจากรอบเดือนที่ยาวนานที่สุดเพื่อหาวันสุดท้ายของไข่ตก เพื่อสามารถคำนวนจำนวนวันทั้งหมดในช่วงระหว่างที่มีการตกไข่ หากผู้หญิงมีรอบเดือนที่สม่ำเสมอในทุกๆเดือนก็จะทำให้รู้จำนวนวันได้ดีขึ้นว่าในระหว่างช่วงไหนที่อาจทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ การนับวันมีความปลอดภัยเพียง 80% เท่านั้นในการป้องกันการตั้งครรภ์ และเมื่อนำมาใช้แต่เพียงวิธีเดียวจะถือว่าเป็นวิธีที่ล้าสมัย และไม่มีประสิทธิภาพวิธีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย
วิธีตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย (BBT) คือยึดหลักการข้อเท็ขจริงที่ว่าอุณหภูมิของผู้หญิงจะลดลง 12-24 ชั่วโมงก่อนไข่จะถูกปล่อยออกมาจากรังไข่ และอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อไข่ถูกปล่อยออกมาแล้ว โชคร้ายคืออุณหภูมิมีความแตกต่างกันไม่มากนัก อาจจะน้อยกว่า 0.5 องศาเซลเซียส เมื่อร่างกายพักผ่อน วิธีตรวจวัดอุณหภูมิของร่างกายต้องการการวัดอุณหภูมิในทุกๆเช้าก่อนลุกออกจากที่นอน โดยต้องใช้เทอร์โมมิเตอร์พิเศษที่มีความแม่นยำกว่า และไวกว่าชนิดที่วัดอุณหภูมิทางปาก และต้องจดบันทึกอุณหภูมิเป็นประจำทุกวัน และต้องทำทุกเดือน เครื่องคิดคำนวนออนไลน์สามารถช่วยผู้หญิงทำชาร์จการวัดอุณหภูมิของร่างกายได้ การนำวิธีวัดอุณหภูมิของร่างกายมาใช้ในการคุมกำเนิด ผู้หญิงละเว้นการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลายับตั้งแต่อุณหภูมิลดลงไปอย่างน้อย 48-72 ชั่วโมงหลังจากอุณหภูมิเพิ่มขึ้นอีกครั้งการตรวจมูกที่ปากมดลูก
การตรวจมูกที่ปากมดลูกขึ้นอนู่กับการมีหรือไม่มีในชนิดของมูกที่ปากมดลูกซึ่งผู้หญิงจะสร้างออกมาเพื่อตอบสนองต่อเอสโตรเจน ผู้หญิงจะสร้างมูกออกมาเป็นปริมาณมากกว่าปกติ (เหมือนไข่ขาวดิบ) ในช่วงก่อนการปล่อยไข่ออกมาจากรังไข่ ซึ่งเราเรียกว่า มูกไข่ตก ซึ่งสามารถดึงยืดยาวได้เป็นิ้ว ผู้หญิงสามารถเรียนรู้จดจำความต่างของมูกที่ปากมดลูกได้โดยดูจากคราบที่ปรากฏบนการเกงชั้นใน แผ่นอนามัย และกระดาษทิชชูหรืออาจเอาตัวอย่างมูกออกมาจากช่องคลอดด้วย 2 นิ้ว อาจเลือกมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างช่วงเวลาของวัยสุดท้ายของรอบเดือนและเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงของมูกที่ปากมดลูก หากไม่อยากตั้งครรภ์ผู้หญิงไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ตลอดช่วง 3-4 วันหลังจากสังเกตุเห็นการเปลี่ยนแปลงของมูกที่ปากมดลูกการสังเกตอาการอื่นๆประกอบการตรวจวัดอุณหภูมิ
การสังเกตอาการอื่นๆประกอบการตรวจวัดอุณหภูมิร่วมกับการดูตารางปฏิทิน การวัดอุณหภูมิของร่างกาย และดูมูกที่ปากมดลูก เราไม่ได้มีปัจจัยเพียงเท่านี่เท่านั้นในการนำมาพิจารณา แต่ยังมีอาการอื่นๆเช่นปวดท้องเกร็งเล็กน้อยและเจ็บคัดหน้าอก ผู้หญิงบางคนอาจมีอาการปวดท้องด้านล่าง (ในบริเวณของรังไข่)ในระหว่างปล่อยไข่ (ไข่ตก)การใช้ชุดตรวจการตกไข่
ผู้หญิงสามารถใช้อุปกรณ์ในการคาดเดาเพื่อประเมินว่า เมื่อไรคือช่วงเวลาที่อาจมีการตกไข่ ชุดอุปกรณ์พิเศษนี้จะตรวจหาฮอร์โมนกระตุ้นการตกไข่ (LHA) ในปัสสาวะ เพราะฮอร์โมนนี้จะกระตุ้นการตกไข่ในรังไข่ จำนวนฮอร์โมนนี้มักจะเพิ่มขึ้นมากใน 20 – 48 ชั่วโมงก่อนการตกไข่ อุปกรณ์ตรวจการตกไข่มีขายตามร้ายขายยาทั่วไป สามารถตรวจได้ง่ายๆด้วยการปัสสาวะผ่านแท่งตรวจ และจำนวนฮอร์โมนที่กระตุ้นไข่ตกจะแสดงให้เห็นจากสีที่เปลี่ยนไป ความเข้มของสีคือสัดส่วนของฮอร์โมนในปัสสาวะ การตรวจสามารถเริ่มตรวจปัสสาวะของคุณได้ตั้งแต่ 2 ถึง 3 วันก่อนวันที่คาดว่าเป็นวันที่ไข่ตก วันที่เหมาะสมที่สุดในการตั้งครรภ์คือ 2 วันหลังวันไข่ตก คือ วันไข่ตกและหลังไข่ตกหนึ่งวัน โอกาศในการตั้งครรภ์มีสูงมากหากมีเพศสัมพันธ์ภายใน 24 ชั่วโมง อุปกาณ์นี้สามารถช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้หญิงที่ต้องการตั้งครรภ์ แต่ก็สามารถช่วยระบุให้ผู้หญิงทีทราบวันไข่ตก และควรต้องเลือกการคุมกำเนิดอย่างระมัดระวัง
วิธีการหลั่งนอกช่องคลอด
การเลือกวิธีการหลั่งนอกมดลูก ผู้ชายจะถอนอวันวะเพศออกจากช่องคลอดของผู้หญิงก่อนถึงจุดสุดยอดเพื่อไม่ให้อสุจิเข้าไปในช่องคลอด ปัญหาจากการคุมกำเนิดด้วยวิธีการหลั่งนอกช่องคลอดมีมากมาย เรื่องแรก คือ ผู้ชายอาจมีการปล่อยอสุจิจำนวนเล็กน้อยออกมาก่อนการถึงจุดสุดยอดจริงๆได้ เรื่องที่สองคือผู้ชายต้องควบคุมตนเอง และความรู้สึกเพื่อที่จะสามารถถอนอวัยวะเพศชายออกมาจากช่องคลอดก่อนที่จะถึงจุดสุดยอด ถือเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ชายที่จะทำได้สำเร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ วิธีการหลั่งนอกมดลูกมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์เพียง 75-80% เท่านั้นการให้นมลูกหลังคลอดบุตร
การให้นมลูกหลังคลอดบุตรคือ ยึดหลักการของความคิดที่ว่าผู้หญิงจะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ตราบเท่าที่ยังให้นมบุตรอยู่ เป็นเรื่องจริงที่ว่าผู้หญิงอาจไม่มีการตกไข่ในทันทีหลังการคลอดบุตรรวมถึงหากกำลังให้นมบุตรด้วย ผู้หญิงที่ให้นมบุตรมักเริ่มมีการกลับมาตกไข่อีกครั้งหลังคลอด 10-12 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ไม่ถือว่าเป็นวิธีีที่เหมาะสมในการนำมาใช้ในการคุมกำเนิดเพียงวิธีเดียว แม่ที่ให้นมบุตรจะเริ่มตกไข่อีกครั้ง และอาจไม่ทราบว่าพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์แล้ว หากสิ่งนี้เกิดขึ้น และมารดามีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการป้องกันก็อาจทำให้ตั้งครรภ์ได้แม้ในขณะที่ยังให้นมบุตรได้ หากไม่อยากตั้งครรภ์อีกครั้งควรต้องใช้วิธีอื่นในการคุมกำเนิดการสวนล้างช่องคลอดและการถ่ายปัสสาวะ
การสวนช่องคลอด คือ การใช้น้ำยาที่เป็นของเหลวล้างมูก และเศษต่างๆออกจากช่องคลอดของผู้หญิง ผู้หญิงหลายคนเลือกการสวนล้างช่องคลอดเป็นประจำโดยทำเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันเพื่อรักษาสุขอนามัยภายในช่องคลอด แพทย์ส่วนใหญ่มักไม่แนะนำให้ทำเช่นนี้ ไม่ว่าจะทำด้วยเหตุผลทางสุขอนามัยหรืออย่างไรก็ตาม การสวนล้างช่องคลอดไม่ได้ผลในการคุมกำเนิด ในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ อสุจิตัวที่แข็งแรงสามารถไปถึงปากมดลูกของผู้หญิงได้ และสามารถไปถึงมดลูกส่วนบนได้ภายในห้านาทีหลังการถึงจุดสุดยอด การสวนช่องคลอดภายหลังการมีเพศสัมพันธ์ไม่สามารถเร็วมากพอเพื่อประโยชน์ในการคุมกำเนิด และการสวนช่องคลอดอาจบังคับให้อสุจิเข้าไปในมดลูกได้มากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นหากผู้หญิงมีการสวนช่องคลอดภายใน 6-8 ชั่วโมงหลังการใช้ยาฆ่าอสุจิ ผู้หญิงคนนั้นอาจไปลดประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดได้ ผู้หญิงบางคนคิดว่าการยืนขึ้น และปัสสาวะทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์อาจช่วยลดโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ พวกเธอหวังว่าแรงโน้มถ่วงอาจทำให้อสุจิยากที่จะว่ายไป “ตำแหน่งที่สูง” ของมดลูกได้ และการนำนำปัสสาวะไหลผ่านช่องคลอดจะเป็นการช่วยล้างอสุจิออกไปได้ เช่นเดียวกับกระบวนการสวนล้างช่องคลอด แต่อย่างไรก็ตาม การสวนล้างช่องคลอด การปัสสาวะหลังการมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้มีผลในการคุมกำเนิดการงดมีเพศสัมพันธ์
การงดมีเพศสัมพันธ์นั้นหมายความว่าไม่มีเพศสัมพันธ์ตลอดไป การไม่มีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามนั้นคือจะไม่มีโอกาสให้อสุจิของผู้ชายเข้าไปปกิสนธิกับไข่ของผู้หญิง ผู้ชาย หรือผู้หญิงสามารถไม่มีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาเฉพาะเจาะจง หรืออาจไม่มีตลอดไปทั้งชีวิต การงดการมีเพศสัมพันธ์คือ การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ 100% และยังมีประโยชน์ทางด้านอื่นๆอีกด้วยเช่นลดโอกาสในการเกิดโรคติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ การนับวันไข่ตกใครคือผู้ที่เหมาะสมสำหรับการคุมกำเนิดตามธรรมชาติ?
วิธีการคุมกำเนิดตามธรรมชาติอาจเหมาะสำหรับบุคคลที่มีรอบเดือนสม่ำเสมอและสบายใจที่จะติดตามสัญญาณการเจริญพันธุ์อย่างใกล้ชิด อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีรอบเดือนไม่ปกติหรือผู้ที่ไม่ขยันในการติดตามลายละเอียดวิธีการคุมกำเนิดตามธรรมชาติมีประสิทธิภาพแค่ไหน?
ประสิทธิผลของวิธีการคุมกำเนิดแบบธรรมชาติอาจแตกต่างกันไป เมื่อปฏิบัติอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ วิธีการบางอย่างก็มีประสิทธิภาพพอๆ กับการใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิด อย่างไรก็ตาม อัตราความล้มเหลวจะสูงกว่าสำหรับบุคคลที่ไม่ปฏิบัติตามแนวทางอย่างเคร่งครัดหัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตีบ (Phimosis)
สาเหตุของผิวแห้งกร้านและวิธีบำรุงผิว
เนื้องอกต่อมหมวกไตฟีโอโครโมไซโตมา (Pheochromocytoma)
ภาวะปวดหลอน (Phantom Pain)
โรคปริทันต์ (Periodontitis) : อาการ สาเหตุ การรักษา
โรคอกบุ๋ม (Pectus Excavatum)
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น