สำหรับคนที่มีลายสัก ก็คงอยากรอยสักที่ไปสักมา มีสีสันสดใสเหมือนตอนเพิ่งสักมาใหม่ ๆ อยู่เสมอใช่ไหมล่ะ โดยเฉพาะการสักสี เมื่อสักไปแล้วก็จำเป็นที่จะต้องดูแลรอยสักตั้งแต่เนิ่น ๆ และป้องกันไม่ให้แผลจากรอยสักเกิดการติดเชื้อ
วิธีดูแลรอยสักใหม่
หลังการสักการดูแลรอยสักไม่ให้ติดเชื้อเป็นเรื่องจำเป็น อาจจะมีอาการปวดตึงบ้างเป็นบางครั้ง โดยทั่วไปแล้วช่างสักจะแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังสักมาให้ ทั้งนี้ผู้สักควรใส่ใจระวังแผลจากรอยสักและเมื่อรอยสักตกสะเก็ด- หลังจากสัก ช่างสักต้องปิดรอยสักใหม่ด้วยพลาสติกแร็พใส และก่อนปิดต้องทาด้วยปิโตรเลียมเจลบาง ๆ
- หลังจาก 24 ชั่วโมงแกะแร็พออกเพื่อ ล้างรอยสักเบา ๆ ด้วยสบู่ฆ่าเชื้ออ่อน ๆ หลังจากนั้นเช็ดบริเวณนั้นให้แห้ง
- ทาครีมต้านเชื้อแบคทีเรีย/วาสลีน วันละสองครั้ง ไม่จำเป็นต้องใช้แร็พอีก
- ล้างบริเวณรอยสักเบาๆ วันละสองครั้งด้วยสบู่และน้ำและค่อยๆ ซับให้แห้งก่อนทาครีมต้านเชื้อแบคทีเรีย/วาสลีนอีกครั้ง
- ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์หรือครีมหลังจากทำความสะอาดเพื่อให้ชุ่มชื้น
ยาทารอยสัก
หลังจากสักลายมาใหม่ ๆ อาจจะใช้เป็นวาสลีน หรือ บีแพนเทน หรือครีมบำรุงในการถนอมและให้ความชุ่มชื้นกับผิวที่เพิ่งโดนทำร้ายมาได้ หรือในบางคนหากชอบแบบธรรมชาติก็สามารถเลือกน้ำมันมะพร้าวมาทา เพื่อถนอมและสมานบาดแผล ทั้งนี้สามารถทายาทับสะเก็ดแผลได้เลยแต่ห้ามแกะสะเก็ดแผลออกโดยเด็ดขาดการดูแลเพิ่มเติม
เมื่อออกจากร้านสัก หมึกจะมีความสดใสเป็นประกาย แต่หากนานไป ลายสักจะจางลงตามกาลเวลา ดังนั้นควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 45 หรือสูงกว่านั้นเสมอ โดยเฉพาะอย่างหากต้องเผชิญกับแสงแดดจัดโดยตรง จะทำให้สีสันที่สวยงามของรอบสักไม่ซีดจางและอยู่บนผิวของคุณได้ยาวนานขึ้น และให้ความชุ่มชื้นทุกวันโดยการทามอยเจอร์ไรเซอร์หรือปิโตเลียมเจล อ่านต่อเกี่ยวกับการสักคิ้วเพื่อความงามได้ที่นี่หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตีบ (Phimosis)
สาเหตุของผิวแห้งกร้านและวิธีบำรุงผิว
เนื้องอกต่อมหมวกไตฟีโอโครโมไซโตมา (Pheochromocytoma)
ภาวะปวดหลอน (Phantom Pain)
โรคปริทันต์ (Periodontitis) : อาการ สาเหตุ การรักษา
โรคอกบุ๋ม (Pectus Excavatum)
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น