วิธีการแต่งตัวทารกสำหรับนอน (How to Dress Baby for Sleep)

21.11.2567

ควรแต่งตัวอย่างไร เพื่อช่วยให้ลูกน้อยนอนหลับ แม้ว่าจะดูเป็นคำถามธรรมดา ๆ แต่พ่อแม่มือใหม่ทุกคนจะรู้ดีว่าเป็นคำถามเกี่ยวกับทารกที่พบได้บ่อยที่สุด การนอนหลับยังส่งผลต่อน้ำหนักตัวของทารกด้วย ปัญหาที่พบได้บ่อยในการเลือกชุดนอนคือ แบบของเสื้อ และกางเกงที่เข้าชุดกัน หากมีขนาดที่คับเกินไปก็จะทำให้พ่อแม่มือใหม่เป็นกังวลได้ หลักเกณฑ์พื้นฐานในเลือกชุดเด็กจึงมีดังนี้

การเลือกแบบเสื้อผ้าเด็ก

หลักการเตรียมเสื้อเด็กทั่วไปของการแต่งตัวให้ลูกน้อยตอนนอนหลับ: สวมเสื้อผ้าให้เด็กมากกว่าหนึ่งชั้นในตอนกลางคืน เพราะทารกจะนอนบนผ้าปูที่นอน หรือผ้าห่มหลวม ๆ เท่านั้น การสวมชุดนอนติดกันที่ทำจากผ้าฝ้าย 2 หรือสวมชุดนอนพร้อมผ้าห่อตัวมัสลินจะทำให้เกิดการอบอุ่นได้เพียงพอ อย่างไรก็นี้เป็นสิ่งที่ควรทำเพียงเล็ก ๆ เท่านั้น พ่อแม่ควรตัดสินความเหมาะสมในการสวมเสื้อผ้าเด้ก 2 ชั้นจากสภาพแวดล้อมการนอนของลูกด้วย อุณหภูมิห้องที่เหมาะสมควรคือ 68° ถึง 72° F ดังนั้นหากบ้านของเด็กมีอากาศเย็นหรืออบอุ่น อาจต้องพิจารณาชั้นของเสื้อเด็กเล็กที่เหมาะสม เป็นการดีกว่าที่จะให้ทารกแต่งตัวหลวม ๆ สักเล็กน้อย แทนที่จะแต่งตัวรัดกุมมากเกินไป ในอดีตพ่อแม่มักจะมัดลูกตัวเล็ก ๆ ไว้หลาย ๆ ชั้นอย่างเร็ว ซึ่งความจริงแล้วอาจเป็นอันตรายต่อทารกจากอุณหภูมิที่ร้อนเกินไป และยังเพิ่มความเสี่ยงของโรคไหลตายในทารก (SIDS) ด้วย โดยอันตรายนี้จะพบได้มากในเด็กที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน แต่ก็ยังพบบ้างในเด็กวัยหัดเดินได้เช่นกัน การวัดอุณหภูมิในบ้าน หรือในห้องนอนจะช่วยให้รู้สึกมั่นใจได้ว่าเลือกชุดเด็กเล็กได้ถูกต้อง และพ่อแม่ยังสามารเรียนรู้จากการสังเกตและสัญชาตญาณได้ด้วย และโดยมากนิยมเลือกแบบเสื้อผ้าเด็กที่ทำจากผ้าฝ้าย

เสื้อผ้าเด็กรัดแน่นเกินไปหรือไม่

ทารกแรกเกิดมักยินดีที่จะถูกห่อตัว เทคนิคการห่อตัวที่ดีจะช่วยให้ทารกเล็กรู้สึกปลอดภัย และเหมือนได้รับการปลอบประโลมจากครรภ์มารดา ผ้าฝ้ายหรือผ้ามัสลินเป็นตัวเลือกในการซื้อเสื้อผ้าเด็กที่ดี เนื่องจากมีน้ำหนักเบาและระบายอากาศได้ดี มีความยืดหยุ่นเหมาะสมสำหรับการห่อและเหน็บผ้าได้อย่างง่ายดาย พ่อแม่ที่ยังไม่ค่อยมั่นใจในทักษะการทำผ้าห่อตัวให้ลูกน้อย สามารถเลือกผ้าห่อตัวเด็กสำเร็จรูป หรือชุดที่ “ออกแบบ” ให้มีแผ่นติดหรือซิปมาช่วยห่อตัว (อย่าคิดว่าล้มเหลว เมื่อพ่อแม่ไม่สามารถห่อตัวทารกได้เหมือนพยาบาลผดุงครรภ์) แต่เมื่อลูกน้อยเริ่มนอนกลิ้งไปมา แสดงว่าถึงเวลาที่จะเลิกใช้ผ้าห่อตัวได้แล้ว เพราะอาจไม่ปลอดภัยต่อเด็กอีกต่อไป พ่อแม่สามารถเปลี่ยนไปใช้ผ้าห่มสำหรับคลุมหรือสวมใส่ให้ทารกแทน นอกจากผ้าห่อตัวหรือถุงนอนแล้ว พ่อแม่ยังสามารถชุดนอนที่รัดส่วนเท้า หรือผ้าที่อบอุ่นขึ้นแทนก็ได้ แบบเสื้อเด็กสำหรับนอนที่เหมาะสม หากยังไม่เห็นภาพว่าแบบชุดเด็กที่ดีความเป็นอย่างไร ขอแนะนำเคล็ดลับเพิ่มเติมดังนี้ บางเบาในคืนฤดูร้อน ในคืนที่อากาศอบอุ่นให้เด็กสวมเสื้อผ้าที่เบาสบาย – เสื้อยืดผ้าฝ้ายแขนสั้น หรือผ้าฝ้ายออร์แกนิก หรือเสื้อยืดที่มีส่วนประกอบของผ้ามัสลินหรือผ้าฝ้าย หรือผ้าห่อตัวบาง ๆ ก็ได้ เสื้อชุดติดกัน หรือเสื้อยืดตัวเดียวก็ใช้ได้เช่นกัน ในกรณีที่อากาศร้อนอบอ้าวเป็นพิเศษ เตรียมรับมือกับลมหนาว เตรียมลูกน้อยให้พร้อมสำหรับลมหนาวในฤดูหนาวด้วยเสื้อผ้าเด็กที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นชุดนอนผ้าฟลีซแบบสบาย ๆ หรือผ้าพันไมโครฟลีซที่เนื้อหนากว่า หรือผ้าห่อตัวแบบนอนทับที่เป็นผ้าฝ้าย และอย่าลืม: ห่มด้วยผ้าห่มหลวม ๆ หมวกคลุมหัว หมวกไหมพรมถักน่ารัก ๆ อาจดูเป็นภาพที่ดูดี แต่ในขณะนอนหลับ หมวกไม่ใช่สิ่งจำเป็นเลย เพราะหมวกอาจและหลุดออกจากศีรษะของทารก ลงมาคลุมหน้ากลายเป็นสิ่งขัดขวางการหายใจได้ นอกจากนี้ทารกยังมีการปลดปล่อยความร้อนเพื่อควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย การสวมหมวกอาจทำให้เกิดความร้อนที่สูงเกินไปได้ How to Dress Baby for Sleep

ยึดความสบายตัวเป็นสำคัญ

เสื้อผ้าเด็กน้อยบางยี่ห้อเริ่มนำเสนอคุณสมบัติพิเศษของชุดนอนที่ทนไฟได้ โดยใช้สารเคมีบางชนิดที่ลดการติดไฟ แต่กุมารแพทย์ยังตั้งข้อสังเกตถึงผลกระทบของสารเคมีนั้นต่อสุขภาพของเด็ก พ่อแม่จึงอาจเลือกชุดนอนยาวที่ทำจากผ้าฝ้าย หรือเส้นใยธรรมชาติที่มีข้อความระบุว่า “ กระชับพอดี” เพื่อให้มั่นใจว่ามีความพอดีกับร่างกาย ชุดนอนยาวที่สวมสบาย ๆ จะดีกว่าเสื้อผ้าหรือวัสดุห่อหุ้มตัวที่หลวมเกินไป เพราะเสื้อผ้าเหล่านั้นอาจปิดหรือบังใบหน้าของทารกได้ในระหว่างการนอนหลับ

เน้นประโยชน์การใช้งานมากกว่าแฟชั่น

ความสะดวกสบายคือสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เด็กมักต้องเปลี่ยนผ้าอ้อม 2 – 3 ครั้งต่อคืน ในช่วงวัยแรกเกิดของทารก ดังนั้นรูปแบบชุดสำหรับถอดและเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ง่ายขึ้นจึงมีความสำคัญมากกว่าความสวยงาม

วิธีสังเกตว่าเด็กสบายตัว

เนื่องจากทารกไม่สามารถพูดคุยได้ การทำความเข้าใจกับเสียงร้องของพวกเขาจึงเป็นเรื่องที่พ่อแม่ต้องเรียนรู้ เป็นการสังเกตสัญญาณของทารก และรับรู้ความรู้สึกของพวกเขา เมื่อเด็ก ๆ ได้รับอาหารและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สบายตัว ไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป พวกเขาก็จะดูมีความสุข หากเด็กมีเหงื่อออก ผื่นแดง ผมเปียก แก้มแดง และหายใจเร็ว ๆ นั้นเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าทารกอาจรู้สึกร้อน และหากสังเกตว่าแขนขาของทารกเย็นเมื่อสัมผัสดู ก่อนอาจบอกได้ว่าเขารู้สึกหนาว อาจใช้วิธีคลำผิวหนังบริเวณคอ ท้อง หรือหน้าอกของทารก ว่าร้อนหรือมีเหงื่อออก พ่อแม่ต้องรีบแก้ไขให้เย็นขึ้นทันที เพราะความร้อนที่สูงเกินไปนั้นสัมพันธ์กับโรคไหลตายในทารกได้ แตหากสังเกตเห็นว่ามือและเท้าของทารกดูมีสีคล้ำเกิดขึ้นเล็กน้อย ให้เพิ่มความอบอุ่นหรือเพิ่มชั้นของเสื้อผ้าให้กับเด็ก เพียงไม่นานเด็ก ๆ ก็จะมีสภาพที่ดีขึ้นในระยะเวลาไม่นาน

เนื้อผ้าที่เหมาะกับผิวเด็ก

การเลือกผ้าที่เหมาะสมสำหรับเสื้อผ้าเด็กเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากทารกมีผิวที่บอบบางซึ่งต้องใช้วัสดุที่อ่อนโยน ระบายอากาศได้ดี และไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ผ้ายอดนิยมและแนะนำสำหรับเสื้อผ้าเด็กมีดังนี้:

ฝ้าย:

- - ข้อดี:ผ้าฝ้ายเป็นเส้นใยธรรมชาติที่นุ่ม ระบายอากาศได้ดี และไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ช่วยให้อากาศหมุนเวียนทำให้เหมาะสมกับสภาพอากาศต่างๆ
  - จุดด้อย:ผ้าฝ้ายแท้สามารถยับได้ง่าย แต่เสื้อผ้าเด็กจำนวนมากผสมผสานผ้าฝ้ายเข้ากับวัสดุอื่นเพื่อแก้ไขปัญหานี้

ผ้าฝ้ายออร์แกนิก:

- ข้อดี:คล้ายกับฝ้ายทั่วไป แต่ปลูกโดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลงหรือปุ๋ยสังเคราะห์ เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ปกครองที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

การซักผ้าเด็กให้ไม่เกิดการระคายเคือง

การซักเสื้อผ้าเด็กด้วยความระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันการระคายเคืองผิวหนังและทำให้ลูกน้อยของคุณรู้สึกสบาย เคล็ดลับในการซักเสื้อผ้าเด็กเพื่อลดความเสี่ยงของการระคายเคืองผิวหนังมีดังนี้

ใช้ผงซักฟอกสูตรอ่อนโยน:

- - เลือกผงซักฟอกสูตรอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม และไฮโปอัลเลอร์เจนิกสำหรับเสื้อผ้าเด็กโดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม เนื่องจากอาจมีสารเคมีที่อาจรุนแรงต่อผิวบอบบางของทารก

ล้างก่อนใช้งานครั้งแรก:

- - ซักเสื้อผ้าใหม่ทั้งหมดก่อนสวมใส่ครั้งแรก ช่วยขจัดสิ่งตกค้างจากกระบวนการผลิตและลดความเสี่ยงของการระคายเคืองผิวหนัง

ซักรีดแบบแยกส่วน:

- - ซักเสื้อผ้าเด็กแยกต่างหากจากการซักผ้าอื่นๆ ของครอบครัว ซึ่งจะช่วยป้องกันสัมผัสสารก่อภูมิแพ้หรือสารระคายเคืองจากเนื้อผ้าอื่นไปยังเสื้อผ้าของลูกน้อย

เลือกอุณหภูมิน้ำที่เหมาะสม:

- - ใช้น้ำอุ่นในการซักเสื้อผ้าเด็ก น้ำร้อนอาจรุนแรงกับผ้าที่บอบบางและอาจทำให้สูญเสียความนุ่มได้

ล้างสองครั้ง:

- - พิจารณาใช้รอบการล้างพิเศษเพื่อให้แน่ใจว่าผงซักฟอกทั้งหมดถูกล้างออกจากเสื้อผ้าอย่างทั่วถึง ผงซักฟอกที่ตกค้างอาจระคายเคืองต่อผิวหนังที่บอบบางได้

หลีกเลี่ยงน้ำยาปรับผ้านุ่ม:

- น้ำยาปรับผ้านุ่มอาจมีสารเคมีที่อาจรุนแรงต่อผิวหนังของทารก ให้เน้นไปที่การใช้ผงซักฟอกสูตรอ่อนโยนเพื่อรักษาความนุ่มของเนื้อผ้าแทน

ตากแดด:

เมื่อใดก็ตามที่เป็นไปได้ ให้นำเสื้อผ้าเด็กไปตากแดดให้แห้ง แสงแดดมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียตามธรรมชาติและสามารถช่วยให้เสื้อผ้าสดชื่นและฆ่าเชื้อได้ อย่างไรก็ตาม ระวังแสงแดดที่แรงเพราะอาจทำให้สีซีดจางได้