การตัดเล็บนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนทำเป็นประจำและถือว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพเพราะเมื่อเวลาเล็บของคุณยาวเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆก็สามารถเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในซอกเล็บของคุณได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ค่อนข้างอันตรายเพราะเนื่องจากคุณจำเป็นต้องใช้มือของคุณหยิบจับสิ่งของต่างๆหรือแม้กระทั่งอาหาร นั้นจึงทำให้การทำให้เล็บของคุณสั้นอยู่ตลอดหรือไม่ยาวจนเกินไปนั้นเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพของตัวคุณเอง
ในการตัดเล็บและทำให้ขอบหยักของรอยเล็บนั้นเรียบ ตามหลักแล้ว อุปกรณ์ตัดเล็บที่คุณต้องมีคือ:
- กรรไกรตัดเล็บ
- ตะไบเล็บ
วิธีตัดเล็บ
ตัดเล็บด้วยกรรไกรตัดเล็บ
กรรไกรตัดเล็บจะมีขอบโค้งมน ออกแบบมาเพื่อให้ตัดเล็บได้ง่ายขึ้น พวกมันทำงานได้ดี แต่ถ้าทื่อ เล็บของคุณอาจเสียหายได้ และทำให้เล็บแตกทุกครั้งที่คุณตัด กรรไกรพวกนี้นั้นควบคุมได้ยาก แต่การจะตัดด้วยความแม่นยำนั้นยากกว่า แต่ใช้มือที่ไม่ถนัดได้ง่ายกว่ากรรไกร นี่คือวิธีการใช้กรรไกรตัดเล็บ:- เพื่อให้แน่ใจว่าเล็บของคุณมีความยาวเท่ากัน ให้ใช้เล็บที่สั้นที่สุดเป็นแนวทางว่าจะตัดมากแค่ไหน
- ตัดมุมหนึ่งของเล็บ แล้วตัดอีกมุมหนึ่ง
- สุดท้ายตัดตรงกลาง หากคุณหนีบพร้อมกัน เล็บอาจแตกเนื่องจากแรงกดบนแผ่นเล็บ
ตัดเล็บด้วยกรรไกรตัดเล็บแบบคีม
ใบมีดสำหรับกรรไกรตัดเล็บแบบคีม ต่างจากกรรไกรทั่วไปตรงที่ปลายกรรไกรโค้งมนอย่างอ่อนโยนซึ่งช่วยให้แต่งเล็บได้ง่ายขึ้นด้วยกรรไกรแบบนี้ คุณจะต้องตัดเล็บของคุณจากด้านข้าง และมันทำให้เล็บของคุณบาดเจ็บน้อยกว่ากรรไกรตัดเล็บแบบธรรมดา นอกจากนี้ยังควบคุมได้ง่ายกว่า ซึ่งช่วยให้คุณตัดได้อย่างแม่นยำและราบรื่นยิ่งขึ้น แต่อาจใช้ยากกับมือข้างที่ไม่ถนัดของคุณ เมื่อใช้กรรไกร ใบมีดไม่ควรมีช่องว่างระหว่างกัน ในขณะที่คุณตัด คุณแค่ต้องให้ใบมีดเคลื่อนเข้าหากัน และนี่คือวิธีการใช้กรรไกรตัดเล็บชนิดนี้:- หันใบมีดไปทางเล็บของคุณ แล้วค่อยๆ ตัดจากด้านหนึ่งของเล็บไปด้านบนของเล็บ และไปอีกด้าน
- ใช้การตัดที่แม่นยำเพียงครั้งเดียว ดีกว่าการตัดแบบขาด ๆ หาย ๆ หลายครั้ง
- ให้แน่ใจว่าได้ตัดจนสุดปลายเล็บเพื่อให้ชิ้นที่ตัดหลุดออกมา คุณไม่ควรฉีกหรือดึงออก
- ขอบเล็บอาจเรียบหลังจากตัดด้วยกรรไกร แต่คุณอาจต้องใช้ตะไบเพื่อขัดให้เล็บของคุณไม่คม
วิธีตัดเลบแบบไม่มีกรรไกรตัดเล็บ
คุณสามารถใช้ตะไบเล็บตัดเล็บได้หากคุณไม่มีเครื่องมือตัดอย่างอื่น เว้นแต่คุณจะต้องตัดเล็บที่ยาวมาก ช่างทำเล็บมืออาชีพส่วนใหญ่ชอบใช้ไม้ตะไบเล็บเพื่อตัดเล็บโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือตัดเพราะมันอ่อนโยนกว่ามาก นอกจากนี้ การแต่งเล็บและการตกแต่งเล็บยังช่วยให้เล็บหัก แตก หรือติดขุยผ้าได้น้อยลง
ตะไบเล็บ
ตะไบเล็บมักทำจากกระดาษแข็งหนาหรือพลาสติกที่เคลือบด้วยวัสดุทรายที่เรียกว่ากากกะรุน และมีการเรียงเบอร์ตามความหยาบหรือละเอียดของเม็ดทราย ตะไบที่มีกรวด 80 หรือ 100 นั้นหยาบมากและเหมาะสำหรับการตะไบเล็บทั่วไป แต่ในเบอร์ที่สูงกว่า เช่น 180 จะมีเม็ดทรายที่ละเอียดกว่าและเหมาะสำหรับการทำให้ขอบเล็บเรียบ ตะไบเล็บส่วนใหญ่มีกรวดหยาบอยู่ด้านหนึ่งและเม็ดทรายละเอียดอยู่อีกด้านหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีกากกะรุนสี่ด้าน แต่ละด้านมีหมายเลขกรวดต่างกันและใช้เพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น:- เบอร์กรวดต่ำสุดสำหรับตะไบลงความยาวเล็บ
- เบอร์กรวดที่สูงกว่าถัดไปใช้สำหรับเก็บผิวละเอียดและปรับให้เรียบ
- เบอร์ต่อไปสำหรับขัดสันในเล็บของคุณ
- เบอร์เบอร์สูงสุดสำหรับขัดเล็บให้เงา
ตะไบเล็บแก้ว
ตะไบเล็บแก้วทำจากคริสตัลบดที่ให้เม็ดทรายที่ละเอียดมาก โดยความละเอียดจะอยู่ที่เบอร์ 240 หรือมากกว่านั้น ดังนั้นมันจึงอ่อนโยนต่อเล็บของคุณมาก ตะไบเล็บเหล่านี้ทำงานได้ดีสำหรับการปรับรูปร่างและทำให้ขอบเล็บเรียบหรือขัดสันบนผิวเล็บ แต่ไม่เหมาะสำหรับการตะไบตามความยาว ตะไบแก้วจะช่วยปิดขอบเล็บเพื่อไม่ให้เล็บแตกหัก ตะไบเล็บแบบแก้วมีโอกาสน้อยที่สุดที่จะทำลายเล็บของคุณ แต่เนื่องจากเป็นตะไบที่ทำจากแก้ว บางครั้งจึงอาจแตกหักได้ง่ายตะไบเล็บโลหะ
ตะไบเล็บโลหะทำจากโลหะกราวด เมื่อเทียบกับตะไบเล็บประเภทอื่น ๆ พวกมันมีฤทธิ์กัดกร่อนมากกว่า หมายถึงพวกมันนั้นสามารถตะไบเล็บของคุณออกไปได้ในปริมาณที่มากกว่าเมื่อเทียบกับตะไบเล็บประเภทอื่นในการใช้แรงที่เท่ากัน พวกมันแข็งแรงพอที่จะตะไบพลาสติกหรือคริลิก และอาจมีประโยชน์กับเล็บที่หนากว่า ช่างทำเล็บมืออาชีพบางคนเตือนว่าอย่าใช้มันกับเล็บทั่วไปเพราะอาจทำให้เล็บฉีกและทำให้เล็บเสียหายได้ หรือก็คือใช้ใด้เฉพาะคนที่มีเล็บหนากว่าคนทั่วไปเท่านั้น เชื้อราที่เล็บกับเรื่องที่ควรรู้อ่านต่อที่นี่เทคนิคการทำให้เล็บสวย
ต่อไปนี้คือเคล็ดลับการใช้เครื่องมือตัดเล็บของคุณ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด:- ใช้เครื่องมือที่ออกแบบมาสำหรับตัดเล็บโดยเฉพาะ
- อย่าใช้เครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อตัดเล็บเท้าเพื่อตัดเล็บมือของคุณ
- เลือกใช้เครื่องมือคุณภาพสูง มีราคาแพงกว่า แต่มีโอกาสฉีกหรืองอเล็บน้อยกว่ากรรไกรตัดเล็บและกรรไกรที่มีราคาถูก
- ฆ่าเชื้อเครื่องมือของคุณเป็นประจำโดยการเช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือสบู่และน้ำอุ่น ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้อื่นมาใช้เครื่องมือ
- ทิ้งเล็บของคุณ หรือเล็มเล็บให้ตกลงไปในถังขยะโดยตรง หรือบางคนเลือกที่จะตัดเล็บเหนืออ่างอาบน้ำหรือฝักบัวเพื่อให้เก็บเศษเล็บได้ง่ายขึ้น
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตีบ (Phimosis)
สาเหตุของผิวแห้งกร้านและวิธีบำรุงผิว
เนื้องอกต่อมหมวกไตฟีโอโครโมไซโตมา (Pheochromocytoma)
ภาวะปวดหลอน (Phantom Pain)
โรคปริทันต์ (Periodontitis) : อาการ สาเหตุ การรักษา
โรคอกบุ๋ม (Pectus Excavatum)
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น