กระชับผิวด้วย HIFU (High Intensity Focus Ultrasound) – ประเด็นหลักของงานการเตรียมการ

Hifu คือ อะไร

Hifu  ย่อมาจาก High Intensity Focus Ultrasound  เป็นเครื่องมือยกกระชับผิว ใช้ได้บริเวณใบหน้า เหนียง คอ ต้นแขน และต้นขา ซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เพราะมีคุณสมบัติเด่น คือช่วยยกกระชับใบหน้า เพิ่มความกระชับให้ผิวหน้า และสัดส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวเต่งตึง และยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน ทำให้ผิวหน้ายืดหยุ่นมากขึ้น จึงช่วยลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน ผิวเนียนนุ่มขึ้น หน้าเรียบเนียนใสอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวได้โดยไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องฉีด ไม่ต้องผ่าตัด  เหมาะสำหรับคนที่กลัวเข็ม กลัวการผ่าตัด จึงเป็นตัวเลือกที่ดี มีความปลอดภัยสูง ซึ่ง Hifu สามารถทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง เนื่องจากเป็นนวัตกรรมความงามที่ใช้คลื่นเสียงที่มีความปลอดภัยสูง เห็นผลลัพธ์หลังทำทันทีตั้งแต่ครั้งแรก หลังทำไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีอันตรายต่อผิว อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ การกำจัดขน

วิธีการทำงานของ Hifu Macrofocus

Hifu เป็นนวัตกรรมความงามที่ให้ผลทางด้านลดเลือนริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และเพิ่มความกระชับให้กับบริเวณผิวหน้า และร่างกาย โดยเครื่องรุ่นที่ดี และมีความคุ้มค่าที่สุด คือ Hifu Macrofocus (Hight Intensity Focus Ultrasound Macrofocus) มีหลักการทำงานโดยปล่อยพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง ที่พัฒนามาจากการอัลตร้าซาวด์ดูครรภ์ทางการแพทย์ ส่งลงไปในชั้นผิวหนัง SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ทำให้ชั้นไขมัน และชั้น SMAS เกิดการหดตัว เสมือนเป็นการดึงหน้า จึงช่วยให้ผิวดูยกกระชับ แก้ปัญหาแก้มย้อย แก้มห้อย เหนียง คอ และช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์มากขึ้น มีความปลอดภัยสูงไม่ทำร้ายผิวหนังบริเวณชั้นนอก (เพราะไม่ใช่ Laser และไม่ใช่คลื่นแสง)  อีกทั้งคลื่นเสียงนี้ไม่เป็นอันตรายต่อสายตา สามารถใช้ลดริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถช่วยเน้นกระชับผิวบริเวณใต้ตา และรอบดวงตาได้โดยตรง อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ การรักษาด้วย IPL

ทำไมถึงต้องทำ Hifu

สำหรับคนที่ต้องการแก้ไขปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย หลังทำจะเห็นผลทันทีประมาณ 20% โดยจะรู้สึกหน้ายกกระชับขึ้น หลังจากนั้น 3 – 4 เดือน จะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ และทำครั้งหนึ่งสามารถอยู่ได้ 5-6 เดือน ถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับคนไข้สามารถทนเจ็บได้เพียงใด รวมไปถึงการดูแลหลังทำ hifu ด้วย ยิ่งทำยิ่งได้ผลลัพธ์ดีขึ้น เพราะเมื่ออายุเกิน 20 ปีใบหน้าทุกคน 90% จะเริ่มหย่อนลง elastin เริ่มยืดออก ทำให้เริ่มมีร่องใต้ตา ร่องแก้ม และถ้าปล่อยให้ยืดออกเรื่อยๆ ผิวหน้าจะเริ่มหย่อนลงแบบทวีคูณ เราจึงควรทำให้ใบหน้าของเรากระชับอยู่ตลอดเวลา หากเริ่มทำตั้งแต่อายุน้อยๆ จะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดร่องใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ดูโทรม ดูแก่ และมีอายุ โดยอายุ 20 กว่าๆ ก็สามารถเริ่มทำได้ โดยไม่ส่งผลเสียใดๆ  และเหมาะแก่ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสวยโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด รวมถึงการยกกระชับใบหน้าหรือยกแนวคิ้วให้ยกขึ้น และผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย ลดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง ลดเหนียงใต้คางหรือลดคางสองชั้น

จุดเด่นของ Hifu

  • ไม่มีการเตรียมตัวก่อนทำมากมาย
  • ไม่มีการใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด เหมาะแก่ผู้ที่กลัวเข็มกลัวมีด
  • หลังทำไม่มีรอยแดงช้ำมาก
  • ไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนานๆ
  • ไม่ทำร้ายผิวหนังบริเวณชั้นนอก มีความปลอดภัยต่อผิวสูง
  • สามารถยกกระชับใบหน้า ช่วยลดเลือนริ้วรอย และช่วยสลายไขมันได้บางส่วน
  • สามารถช่วยเน้นที่บริเวณใต้ตา และรอบดวงตาได้โดยตรง เนื่องจากไม่เป็นอันตรายต่อสายตา
  • สามารถทำได้บ่อย
  • หลังการทำ Hifu สามารถทำการรักษาอย่างอื่นได้

Hifu เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวใบหน้าหย่อนคล้อย ขาดความกระชับ
  • ผู้ที่มีปัญหามีริ้วรอยน้อยๆ เช่น ร่องใต้ตา ร่องแก้ม ไม่ลึกมาก
  • ผู้ที่ต้องการกรอบหน้าชัด ลดเหนียง
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสวย โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด หรือการฉีด
  • ผู้ที่ต้องการคงความอ่อนเยาว์ ให้กับใบหน้า
  • ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น หลังทำใช้หน้าได้เลย ไม่มีแผล

High Intensity Focus Ultrasound

Hifu ทำส่วนไหนได้บ้าง

สามารถทำได้ทุกส่วนที่ต้องการ โดยสามารถยิงได้ทุกบริเวณที่เราต้องการให้กระชับขึ้น หัวที่ใช้ยิงจะมีหลายแบบแบ่งตามระดับความลึกของผิวในบริเวณนั้น จุดที่ยิงแล้วเห็นผลชัดเจนแยกเป็น 2 ส่วน ได้แก่

1.ใบหน้า

  • หน้าผาก
  • เปลือกตาบน
  • บริเวณใต้ตา
  • ร่องแก้ม
  • พวงแก้ม
  • ร่องมุมปาก
  • คอ
  • เหนียง
  • กรอบหน้า

2.ร่างกาย

  • ต้นแขน
  • หน้าท้อง
  • เอว
  • สะโพก
  • ต้นขา

การเตรียมตัวทำ Hifu 

  • ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์
  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพราะจะทำให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนให้กับเซลล์ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ไม่ควรแต่งหน้า ทารองพื้น ทาแป้ง หรือครีมบำรุงผิวหน้าอื่น ๆ 
  • หากมีการแต่งหน้า ควรมีการทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อขจัดคราบเครื่องสำอางที่ตกค้าง
  • ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการทำ หากมีประวัติติดเชื้อโรคเริม หรือมีปัญหาติดเชื้อที่ผิวหนัง

ราคาสำหรับการทำ Hifu

การทำ Hifu มีให้เลือกหลากหลาย โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ซึ่งราคามีตั้งแต่หลักร้อย หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่น หรือหลักหลายหมื่น แตกต่างกันตามแต่ละคลินิก การตั้งราคาไฮฟูหลักๆขึ้นอยู่กับเกรดของยี่ห้อเครื่องที่ใช้ โดยเฉพาะกรณีไม่จำกัด Line เพราะเครื่องเกรดดีต้นทุนของหัวยิงจะสูง และเมื่อไลน์หมดต้องมีการเปลี่ยนหัว ดังนั้นราคาในการทำจึงขึ้นอยู่กับคุณภาพของเครื่องยิง เครื่องยิงที่มีคุณภาพสูง ราคาก็จึงสูงเช่นกัน

ราคาสำหรับการทำ Hifu ต่างกันเพราะเหตุใด

การทำ Hifu มีราคาที่ต่างกันมากในแต่ละคลินิก ตั้งแต่หลักร้อย หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับ 3 เหตุผลหลักๆ ได้แก่

1. ยี่ห้อเครื่อง Hifu 

สิ่งสำคัญที่สุดในการทำ Hifu ให้ได้ผลดีขึ้นอยู่กับยี่ห้อเครื่อง Hifu ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเครื่องที่ใช้เป็นหลัก ถ้าเครื่องมีคุณภาพก็สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน และอยู่ได้นาน

2. ฝีมือของแพทย์

แพทย์ผู้ทำอาจส่งผลต่อราคาบ้าง แต่ส่งผลค่อนข้างน้อย เพราะในการทำ Hifu มีรูปแบบการยิงที่ชัดเจน แม้ว่าอาจมีเทคนิคพิเศษบ้างในบางจุด เช่น บริเวณถุงใต้ตา การทำเพื่อแก้หนังตาตก ทำเพื่อยกมุมปาก แต่เทคนิคก็ไม่ได้มีความซับซ้อนเท่าการทำ โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ร้อยไหม ดังนั้นแพทยืผู้ทำจึงส่งผลต่อราคาไม่มากนัก

3. การดูแลหลังการรักษา

การดูแลหลังการรักษาก็เป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลต่อราคา เพราะบางเคสที่ผิดหวังกับการทำ hifu มีสาเหตุมาจากการคาดหวังต่อผลลัพธ์มากเกินไป ซึ่งมีสาเหตุมาจากคำโฆษณาของเซลล์ หรือรูปภาพโฆษณาที่ผ่านการตัดต่อ ผู้ที่ต้องการทำควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาก่อนทำ เพราะป้องกันการเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และการเกิดความผิดหวังต่อผลของการรักษา

ใครที่ควรทำ HIFU

ความเหมาะสมของทำ HIFU ขึ้นอยู่กับปัจจัยส่วนบุคคล เช่น สภาพผิว สถานะสุขภาพ และข้อกังวลเฉพาะที่คุณต้องการแก้ไข โดยทั่วไปแล้ว การรักษาด้วย HIFU เพื่อจุดประสงค์ด้านความงามนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับบุคคลที่ประสบปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง ข้อควรพิจารณาทั่วไปบางประการมีดังนี้:
  • อายุ:
      • การรักษาด้วย HIFU มักพิจารณาสำหรับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ซึ่งอาจประสบปัญหาผิวแก่หรือหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อกำหนดด้านอายุที่เข้มงวด และการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลมากกว่า
  • สภาพผิว:
      • ประสิทธิภาพของ HIFU อาจได้รับอิทธิพลจากสภาพผิวในปัจจุบันของคุณ โดยทั่วไปแล้วจะมีประสิทธิภาพมากกว่าสำหรับความหย่อนคล้อยของผิวเล็กน้อยถึงปานกลาง บุคคลที่มีความหย่อนคล้อยอย่างมากอาจต้องใช้กระบวนการที่รุกรานมากขึ้น
  • สถานะสุขภาพ:
      • สุขภาพโดยรวมของคุณคือการพิจารณาที่สำคัญ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้ว HIFU จะถือว่าปลอดภัย แต่สิ่งสำคัญคือต้องหารือเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์และสภาวะสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนดำเนินการ
  • ความคาดหวังและเป้าหมาย:
      • สื่อสารความคาดหวังและเป้าหมายของคุณอย่างชัดเจนกับแพทย์ที่ดำเนินการขั้นตอน HIFU พวกเขาสามารถประเมินได้ว่า HIFU เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการบรรลุผลลัพธ์ที่คุณต้องการหรือไม่
  • การปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญ:
    • ก่อนที่จะเข้ารับการเสริมความงามใดๆ รวมถึง HIFU จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรึกษากับแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพที่ได้รับใบอนุญาตก่อน แพทย์สามารถประเมินผิวของคุณ หารือเกี่ยวกับเป้าหมายของคุณ และให้คำแนะนำส่วนบุคคลตามสถานการณ์ส่วนบุคคลของคุณ
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือประสิทธิภาพของ HIFU อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และผลลัพธ์อาจไม่มากเท่าขั้นตอนการผ่าตัดที่รุกรานร่างกาย นอกจากนี้ ความคงทนของผลลัพธ์ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ไลฟ์สไตล์ การป้องกันแสงแดด และการดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง เลือกผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียงและมีประสบการณ์สำหรับขั้นตอนความงามเสมอ และให้แน่ใจว่าคุณได้รับคำปรึกษาอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาใดๆ การตัดสินใจเข้ารับบริการ HIFU หรือขั้นตอนความงามใดๆ ควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความต้องการและความคาดหวังส่วนบุคคลของคุณ
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด