ไฟเบอร์ (Fiber) คือใยอาหารที่มาจากโครงสร้างของผัก ไฟเบอร์มีแบบชนิดที่ละลายน้ำได้และละลายน้ำไม่ได้ แต่ดูเหมือนว่าไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้นั้นจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าไฟเบอร์ที่ละลายน้ำไม่ได้
ภาวะท้องผูกคือปัญหาที่ส่งผลกระทบให้กับคนราว 20 % ในทุกๆปี
โรคนี้ยากที่จะให้คำนิยาม เพราะพฤติกรรมการเข้าห้องน้ำมีความหลากหลายกันไปในแต่ละคน
แต่อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีการขับถ่ายน้อยกว่าสามครั้งต่อสัปดาห์ และอุจจาระมีลักษณะแข็ง, แห้งและขับถ่ายยาก คุณอาจกำลังมีภาวะท้องผูก
หนึ่งในคำแนะนำทั่วๆไปที่พบสำหรับคนที่มีภาวะท้องผูกก็คือ ควรบริโภคกากใยเยอะๆ
แต่คำแนะนำนี้ได้ผลจริงๆหรือไม่? เรามาลองดูกัน
กากใยคือสิ่งที่ดีสำหรับระบบการย่อย
ใยอาหาร คือชื่อที่ไว้เรียกคาร์โบไฮเดรตจากพืชที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ สามารถพบได้ในอาหารประเภทพืชทั้งหมด, รวมไปถึงผลไม้, ผัก, ธัญพืช, ถั่วต่างๆและเมล็ดพืช ตามปกติจะมีการแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ขึ้นอยู่กับการละลาย:- ใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำ: พบได้ในรำข้าวสาลี, ผักและโฮลเกรน
- ใยอาหารชนิดละลายน้ำ: พบได้ในรำข้าวโอ๊ต, ถั่วต่างๆ, เมล็ดพืช, ถั่วต่างๆ, ถั่วเลนทิลและถั่วลันเตา
ไฟเบอร์หรือใยอาหารสามารถช่วยบรรเทาอาการท้องผูกสำหรับหลายๆคน
หากคุณกำลังมีภาวะท้องผูกและมีการบริโภคใยอาหารต่ำ การรับประทานให้มากขึ้นก็จะสามารถช่วยได้ จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการเพิ่มจำนวนของใยอาหารจากการรับประทานเข้าไปสามารถเพิ่มปริมาณอุจจาระได้ ความจริงจากการทบทวนใหม่เมื่อเร็วๆนี้แสดงให้เห็นว่าคนที่มีภาวะท้องผูกเรื้อรังกว่า 77% มีอาการที่ดีขึ้นได้โดยการบริโภคใยอาหารเพิ่มขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น จากการศึกษาพบว่าการบริโภคใยอาหารเพิ่มมากขึ้นจะส่งผลเหมือนยาระบายแล๊กทูโลสเพื่อช่วยบรรเทาอาหารท้องผูกในเด็กได้ ซึ่งนั่นหมายความว่าคนที่มีภาวะท้องผูก ง่ายๆเพียงแค่เพิ่มการรับประทานใยอาหารเพิ่มขึ้นเท่านั้นก็สามารถแก้ไขปัญหาได้เพียงพอแล้ว มีคำแนะนำว่าผู้ชายควรรับประทานใยอาหาร 38 กรัมต่อวัน และผู้หญิงควรรับประทานวันละ 25 กรัม เป็นเรื่องที่โชคร้าย ที่พบว่าคนส่วนมากมักรับประทานใยอาหารเฉลี่ยแล้วน้อยกว่าครึ่งจากปริมาณที่กำหนด เพียง12-18 กรัมต่อวันเท่านั้น ผลที่ได้: คนส่วนใหญ่มักรับประทานอาหารจำพวกใยอาหารไม่เพียงพอ คนที่มีภาวะใยอาหารพร่องจากการรับประทานสามารถบรรเทาได้โดยการบริโภคเพิ่มเข้าไปโภชนาการในบางรายการรับประทานใยอาหารเพิ่มมากขึ้นจะยิ่งทำให้อาการท้องผูกแย่ลง
ตามทฤษฎีแล้วนั้น ใยอาหารควรเป็นตัวช่วยป้องกันและสามารถรักษาภาวะท้องผูกได้ แต่อย่างไรก็ตาม พบหลักฐานที่แสดงให้เห็นได้ว่าคำแนะนำดังกล่าวไม้ได้ผลสำหรับทุกคน ในขณะที่การศึกษาหนึ่งแสดงให้เห็นว่าการเพิ่มเติมใยอาหารในโภชนาการช่วยทำให้อาการดีขึ้น แต่ในอีกการศึกษาหนึ่งก็แสดงให้เห็นด้วยว่าการลดปริมาณการบริโภคลงถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด อีกทั้งจากการทบทวนเมื่อไม่นานมานี้พบว่าใยอาหารสามาถช่วยให้ลำไส้มีการเคลื่อนไหวที่ดีเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยในเรื่องของอาการร่วมอื่นๆ เช่น ความอ่อนแข็งของอุจจาระ, อาการปวดท้อง, ท้องอืดและมีก๊าช หากพบว่าการบริโภคใยอาหารจะสามารถช่วยอาการท้องผูกให้คุณได้ ควรลองค้นหาถึงสาเหตุ คุณอาจมีภาวะท้องผูกมาจากหลายเหตุผล ซึ่งมีดังต่อไปนี้:- ปัจจัยจากการดำเนินชีวิต: บริโภคใยอาหารน้อย, ไม่ค่อยทำกิจกรรมและดื่มน้ำน้อย
- การใช้ยาหรืออาหารเสริมบางชนิด: ยกตัวอย่างเช่น ยาระงับปวดกลุ่มโอปิออยด์, ยาแก้ซึมเศร้า, ยาต้านอาการทางจิตและยาลดกรดบางชนิด
- โรคบางอย่าง: ยกตัวอย่างเช่นโรคเบาหวาน, โรคลำไส้แปรปรวน, โรคลำไส้อักเสบและโรคทางระบบประสาทเช่นพาร์กินสัน
- ไม่ทราบสาเหตุ: สาเหตุของภาวะท้องผูกเรื้อรังในบางรายยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน เป็นที่รู้จักกันว่าอาการท้องผูกเรื้อรังที่ไม่ทราบสาเหตุ
ไฟเบอร์ชนิดที่ดีที่สุดในการกำจัดภาวะท้องผูก
อาหารเสริมใยอาหารสามารถช่วยรักษาภาวะท้องผูกได้ รวมไปถึงคนที่มีภาวะโรคท้องผูกเรื้อรังและโรคIBS ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณมีภาวะท้องผูกเรื้อรังหรือเคยมีอาการปวด, มีลม ท้องอืดและมีแก๊ส ทางเลือกที่ดีที่สุดอาจเป็นอาหารไม่หมัก, อาหารเสริมใยอาหารละลายน้ำ นี้อาจเป็นเพราะว่าใยอาหารชนิดหมักนั้นเป็นแหล่งอาหารชั้นดีสำหรับเชื้อแบคทีเรียในลำไส้ของเรา ส่งผลทำให้เกิดแก๊สขึ้นในลำไส้ใหญ่ เพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดแก๊สในลำไส้ที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้อาการยิ่งแย่ลง อาหารเสริมใยอาหารชยิดละลายน้ำ เช่น:- ไซเลียม: ไซเลียมฮักส์และเมตามิวซิล
- เมทิลเซลลูโลส: Citrucel
- กลูโคแมนแนน: กลูโคลแมนแนนชนิดแคปซูล หรือ PGX
- อินูลิน: Benefibre (แคนาดา), Fiber Choice หรือ Fibersure
- Partially hydrolyzed guar gumไฟเบอร์จากเมล็ดของต้น Guar : Hi-Maize
- Wheat dextrin: Benefiber (สหรัฐอเมริกา)
อาหารที่ดีที่สุดในการบรรเทาภาวะท้องผูก
หากคุณบริโภคใยอาหารในปริมาณน้อย ควรลองรับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูงเช่นผัก ผลไม้และโฮลเกรนในอาหารที่รับประทาน ควรเพิ่มใยอาหารทั้งชนิดละลายน้ำและไม่ละลายน้ำก็จะสามารถช่วยบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นได้ สิ่งที่ดีที่สุดก็คือการเพิ่มการรับประทานในช่วงสั้นๆเพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่ต้องการ เช่น อาการปวด, แก๊สและท้องอืด อาหารที่มีกากใยสูง (แบบไม่ละลายน้ำ) เช่น:- โฮลเกรน
- ผักและผลไม้พร้อมเปลือก
- ถั่วต่างๆและเมล็ดพืช
- ข้าวโอ๊ต
- เมล็ดแฟลกซ์
- ข้าวบาร์เลย์
- ข้าวไรย์
- ถั่วและถั่วพัลล์
- ผักจำพวกราก
ผลข้างเคียงของไฟเบอร์
ไฟเบอร์เป็นส่วนสำคัญของอาหารเพื่อสุขภาพและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าการบริโภคเส้นใยมากเกินไปหรือการบริโภคอย่างไม่เหมาะสมอาจมีข้อเสียหรือความเสี่ยง ต่อไปนี้คืออันตรายหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากไฟเบอร์:- ความรู้สึกไม่สบายทางเดินอาหาร: การบริโภคใยอาหารมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากร่างกายของคุณไม่คุ้นเคย อาจทำให้เกิดอาการไม่สบายทางเดินอาหารได้ อาการที่พบบ่อย ได้แก่ แก๊ส ท้องอืด ปวดท้อง และท้องร่วง สิ่งสำคัญคือต้องค่อยๆ เพิ่มปริมาณเส้นใยเพื่อให้ระบบย่อยอาหารปรับตัวได้
- รบกวนการดูดซึมสารอาหาร: อาหารที่มีเส้นใยสูง โดยเฉพาะอาหารที่มีกรดไฟติก (พบในธัญพืชและพืชตระกูลถั่ว) และออกซาเลต (พบในผักบางชนิด) สามารถจับกับแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม เหล็ก และสังกะสี ซึ่งอาจลดการดูดซึมใน ร่างกาย. อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มักไม่เป็นปัญหาสำหรับผู้ที่มีการควบคุมอาหารอย่างสมดุล
- ความเสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร: หากอาหารของคุณประกอบด้วยอาหารที่มีกากใยสูงเป็นส่วนใหญ่และขาดความหลากหลาย คุณอาจเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารบางประการ เนื่องจากอาจเป็นเรื่องยากที่จะได้รับสารอาหารที่จำเป็นบางชนิด เช่น โปรตีน ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ และบางชนิดให้เพียงพอ วิตามินและแร่ธาตุ
- ภาวะขาดน้ำ: ไฟเบอร์ดูดซับน้ำในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะขาดน้ำได้หากคุณดื่มของเหลวไม่เพียงพอ สิ่งสำคัญคือต้องคงความชุ่มชื้นไว้เมื่อเพิ่มปริมาณเส้นใย
- ผลกระทบต่อการดูดซึมยา: อาหารที่มีเส้นใยสูงอาจรบกวนการดูดซึมยาบางชนิดได้ หากคุณใช้ยาเป็นประจำ ให้ปรึกษาผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพหรือเภสัชกรเพื่อให้แน่ใจว่าปริมาณเส้นใยอาหารของคุณไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของยา
- โอกาสในการอุดตันของลำไส้: ในบางกรณีซึ่งพบไม่บ่อยนัก การบริโภคใยอาหารมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปของเส้นใยที่ไม่ละลายน้ำ (พบในอาหาร เช่น รำข้าว) อาจทำให้เกิดการอุดตันของลำไส้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารอยู่ สิ่งสำคัญคือต้องบริโภคไฟเบอร์ในปริมาณที่พอเหมาะและรักษาสมดุลของอาหาร
- การรับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูงมากเกินไป: บางคนอาจคิดว่าพวกเขาสามารถรับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูงได้ไม่จำกัดจำนวนโดยไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น แต่การบริโภคแคลอรี่ที่มากเกินไป แม้จะมาจากอาหารเพื่อสุขภาพก็อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้
ข้อสรุป
การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงในปริมาณมากคือความคิดที่ดีในการเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบการย่อยดีขึ้น หากพบว่ากำลังจะเริ่มมีภาวะท้องผูก และไม่ได้บริโภคอาหารที่มีกากใยสูง คุณอาจต้องลองรับประทานให้มากขึ้นกว่าเดิม แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณบริโภคใยอาหารอย่างเพียงพอแล้วหรือมีภาวะท้องผูกมาจากสาเหตุอื่น การเพิ่มใยอาหารจากการรับประทานอาหารอาจทำให้ทุกอย่างแย่.นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.healthline.com/nutrition/22-high-fiber-foods
- https://www.hsph.harvard.edu/nutritionsource/carbohydrates/fiber/
- https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/in-depth/fiber/art-20043983
- https://www.webmd.com/cholesterol-management/features/fiber-groceries
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น