โรคตาแห้ง (Dry Eyes) : อาการ สาเหตุ การรักษา

ผู้เขียน Dr. Sommai Kanchana
0
โรคตาแห้ง

การวินิจฉัยอาการตาแห้ง

การทดสอบและวิธีการต่างๆที่ใช้เพื่อหาสาเหตุของอาการตาแห้ง เช่น
  • การตรวจตา  ตรวจตา และซักประวัติการเจ็บป่วยทั้งหมด จะทำให้แพทย์หาสาเหตุของตาแห้งได้
  • การวัดปริมาณน้ำตา วางแผ่นกระดาษไว้ที่ขอบตาล่าง ทิ้งไว้ห้านาที และแพทย์จะคำนวณปริมาณน้ำตาที่ไหลออกมา อีกวิธีหนึ่ง คือ ใช้กระดาษที่ชุบฟีนอลวางที่ขอบตาล่าง 15 วินาที และคำนวณออกมาเป็นปริมาณน้ำตา
  • ตรวจคุณภาพน้ำตา ใช้สีพิเศษ ผสมในยาหยอดตา และหยอดเพื่อดูการกระจายของยาหยอดตาบนกระจกตาและจับเวลาที่น้ำตาแห้งไป
  • เก็บตัวอย่างน้ำตาไปตรวจตัวชี้วัด เช่น การเพิ่มของ Matrix Metalloproteinase-9 หรือการลดของ Lactoferrin

การรักษาอาการตาแห้ง

ผู้ที่มีอาการตาแห้งน้อย หรือไม่บ่อย ใช้น้ำตาเทียมที่มีขายทั่วไปได้ แต่ถ้ายังไม่หาย หรือรุนแรงขึ้น ควรต้องหาสาเหตุของการตาแห้งการรักษาบางอย่างเน้น หรือจัดการที่เหตุของตาแห้ง อาจเพิ่มคุณภาพน้ำตา หรือลดการไหลของน้ำตาออกจากดวงตา

รักษาสาเหตุที่ทำให้ตาแห้ง แสบตา

ในบางคน การแก้ปัญหาที่ทำให้ตาแห้ง ช่วยลดอาการของตาแห้งได้ เช่น หากตาแห้งเพราะยา อาจเปลี่ยนเป็นยาอื่นที่ไม่มีผลข้างเคียง หากคุณมีปัญหาที่เปลือกตา เช่น เปลือกตาปลิ้นออก แพทย์อาจส่งไปผ่าตัดเปลือกตา

รักษาตาแห้งด้วยยา 

ยาที่แพทย์จ่ายให้ เช่น
  • ยาลดการบวมของเปลือกตา การอักเสบที่เปลือกตาทำให้ต่อมน้ำมันปล่อยน้ำมันเข้าไปในตา แพทย์อาจให้ยาปฏิชีวนะเพื่อลดการอักเสบ อาจให้กิน เป็นขี้ผึ้งทาหรือเป็นยาหยอดตา
  • ยาหยอดตา ควบคุมการอักเสบของกระจกตา การอักเสบของกระจกตาควบคุมได้โดยการใช้ยาหยอดตา ที่ลดภูมิคุ้มกันหรือสเตียรอยด์ แต่สเตียรอยด์ไม่ควรใช้นานเพราะมีผลข้างเคียงที่อันตราย
  • เครื่องมือใส่ในตาที่ทำหน้าที่เหมือนน้ำตาเทียม หากคุณมีตาแห้งปานกลางถึงมาก อาจต้องใช้เครื่องมือเล็กๆ รูปร่างเหมือนเมล็ดข้าวใสๆ Hydroxypropyl Cellulose (Lacrisert) ใส่ไว้ที่เปลือกตาล่างติดกับลูกตา มันจะค่อยๆละลายช้าๆปล่อยสารที่เหมือนกับในยาหยอดตาเพื่อทำให้ตาชุ่มฉ่ำ
  • ยาที่กระตุ้นการสร้างน้ำตา ยากลุ่ม Cholinergics (Pilocarpine, Cevimeline) ช่วยเพิ่มการสร้างน้ำตา เป็นเจล ยาเม็ด หรือยาหยอดตา ผลข้างเคียงคือเหงื่อออก
  • ยาหยอดตาทำจากเลือดของคุณเอง ใช้ในกรณีที่ตาแห้งมาก ไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่น เป็นวิธีทางการแพทย์ที่ทำได้โดยเจาะเลือดออกมา เอาเม็ดเลือดแดงออกแล้วใส่น้ำเกลือเข้าไปตามกระบวนขั้นตอน

วิธีการอื่นๆ

  • ปิดรูระบายน้ำตาเพื่อลดการเสียน้ำตา โดยการปิดท่อน้ำตาบางส่วน หรือทั้งหมดไม่ให้น้ำตาไหลออกจากตา โดยใช้จุกซิลิโคนเล็กๆอุดไว้ โดยใช้ความร้อนช่วย หรือปิดรูอย่างถาวรโดยใช้ความร้อนจี้
  • ใส่คอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษ เรียกว่า Scleral Lenses  หรือ Bandage Lenses เพื่อปิดกระจกตากันไม่ให้ความชื้นออกไป ในกรณีที่ตาแห้งรุนแรง
  • แก้การอุดตันของต่อมน้ำมัน ประคบอุ่น หรือแผ่นประคบตา ทำทุกวันช่วยลดการอุดตันของต่อมน้ำมัน
  • ใช้แสงบำบัด และนวดเปลือกตา การบำบัด Intense-Pulsed light Therapy ตามด้วยการนวดเปลือกตา ช่วยได้ในผู้ที่ตาแห้งมากๆ

Dry Eyes

การดูแลตนเอง วิธีรักษาตาแห้งด้วยตนเอง

คุณอาจจัดการกับอาการตาแห้งด้วยการล้างเปลือกตาบ่อยๆ และใช้ยาหยอดตาที่ช่วยหล่อลื่นดวงตา หากคุณตาแห้งเรื้อรัง ให้หยอดตาบ่อยๆ เพื่อหล่อลื่นดวงตา แม้ว่าจะรู้สึกสบายดี การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับตาแห้ง  ควรปรึกษาแพทย์ว่าอะไรเหมาะสมกับคุณ น้ำตาเทียมเหมาะกับตาแห้งปานกลาง บางคนใช้วันละหลายครั้ง บางคนใช้เพียงวันละครั้ง
  • เมื่อเลือกซื้อยาหยอดตาเอง ควรคำนึงถึงว่าผสมสารกันบูดหรือไม่ หากผสมสารกันบูด ไม่ควรหยอดมากกว่า 4 ครั้งต่อวัน ถ้าหยอดมากกว่านั้นอาจจะระคายเคืองตา ยาหยอดตาแบบไม่ใส่สารกันบูดจะมาเป็นหลอดเล็กๆใช้ครั้งเดียวทิ้ง ถ้าคุณหยอดตาบ่อย ๆ ควรใช้ยาหยอดตาแบบใช้แล้วทิ้ง
  • ยาหยอดตา  ยาขี้ผึ้งปิดดวงตาทำให้อาการตาแห้งดีขึ้น แต่จะหนา และมีปัญหาการมองเห็น จึงควรใช้ก่อนนอน ยาหยอดใช้เวลาใดก็ได้ไม่มีปัญหาการมองเห็น
  • ยาหยอดตาที่ลดอาการตาแดง ควรหลีกเลี่ยงยาหยอดตาชนิดนี้เพราะถ้าใช้นาน จะทำให้ระคายเคือง

ล้างเปลือกตาเพื่อควบคุมการติดเชื้อ

ผู้ที่มีเปลือกตาอักเสบ และโรคที่ทำให้เกิดเปลือกตาอักเสบ ทำให้ปิดกั้นการไหลของน้ำมันลงไปในตา ควรล้างเปลือกตาบ่อยๆ อย่างเบามือ  
    • วางผ้าอุ่นสะอาดลงบนดวงตา วางไว้ราวห้านาที หากน้ำหายอุ่น หยดน้ำอุ่นเพิ่ม ถูบนผ้าเบาๆให้ถึงโคนขนตา เพื่อเอาเศษเนื้อเยื่อออก
  • ใช้สบู่อ่อนถูเปลือกตา ใช้แชมพูเด็ก หรือสบู่อ่อนหยดที่ปลายนิ้ว และนวดเบาๆบนเปลือกตาที่ปิดอยู่ให้ชิดกับโคนขนตา ล้างให้สะอาด

การแพทย์ทางเลือก

การแพทย์ทางเลือกอาจช่วยลดอาการตาแห้ง ควรปรึกษากับแพทย์ของท่านก่อนตัดสินใจ
  • กรดไขมัน การเพิ่มกรดโอเมก้า 3 ในอาหาร อาจช่วยอาการลดตาแห้ง ซึ่งพบได้ในเมล็ดแฟลกซ์ แซลมอน และซาร์ดีน
  • ยาหยอดตา Castor Oil อาจช่วยลดอาการโดยลดการระเหยของน้ำตา
  • ฝังเข็ม บางคนว่าการฝังเข็มช่วยได้

เตรียมตัวไปพบแพทย์

เนื่องจากจักษุแพทย์ที่คุณจะไปพบ อาจต้องมีการนัดล่วงหน้า ดังนั้น ก่อนไปพบแพทย์สิ่งที่คุณควรทำคือ
  • จดอาการที่คุณเป็น ไม่ว่าจะดูไม่เกี่ยวข้องกับการที่คุณจะไปตรวจกับแพทย์
  • ข้อมูลส่วนตัวของคุณ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงใดๆที่เพิ่งเกิดขึ้นเร็วๆนี้
  • รายการยา วิตามิน และอาหารเสริมที่คุณกิน
  • รายการคำถามที่จะถามแพทย์
คำถามที่ควรถามแพทย์ เช่น 
  • อะไรที่น่าจะเป็นสาเหตุของอาการตาแห้ง 
  • ต้องตรวจอะไรบ้าง
  • ตาแห้งจะดีขึ้นเองได้หรือไม่
  • มีทางเลือกในการรักษาอย่างไรบ้าง
  • ผลข้างเคียงของการรักษาแต่ละอย่าง
  • หากมีโรคอื่นด้วย จะจัดการอย่างไรดี
  • ยาที่แพทย์สั่งมียาสามัญหรือไม่
  • มีใบความรู้เกี่ยวกับโรคเพื่อให้กลับไปอ่านหรือไม่
  • ต้องกลับมาติดตามผลการรักษาหรือไม่
อย่าเกรงใจที่จะถามปัญหาอื่นๆที่คุณต้องการ

คุณจะทำอะไรได้บ้างระหว่างรอวันนัด

เพื่อลดอาการ และอาการแสดงในขณะที่คุณรอวันนัด ลองใช้ยาหยอดตาที่ขายตามร้านขายยาไปก่อน เช่น น้ำตาเทียม เลี่ยงการใช้ยาลดตาแดงเพราะจะทำให้ระคายเคืองตา

คุณจะทำอะไรได้บ้างระหว่างรอวันนัด

เพื่อลดอาการและอาการแสดงในขณะที่คุณรอวันนัด ลองใช้ยาหยอดตาที่ขายตามร้านขายยาไปก่อน เช่น น้ำตาเทียม เลี่ยงการใช้ยาลดตาแดงเพราะจะทำให้ระคายเคืองตา

สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อมีอาหารตาแห้ง

การใช้ยาหยอดตามากเกินไป: 
  • แม้ว่าน้ำตาเทียมจะช่วยบรรเทาอาการตาแห้งได้ แต่การใช้ยาหยอดตามากเกินไปอาจมีผลเสียได้ ยาหยอดตาบางชนิดมีสารกันบูดที่อาจระคายเคืองดวงตาเมื่อเวลาผ่านไป ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ตาเกี่ยวกับความถี่และประเภทของยาหยอดตาที่เหมาะกับอาการของคุณ
การละเลยปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม: 
  • สภาพแวดล้อมมีบทบาทสำคัญในการทำให้ตาแห้งรุนแรงขึ้น หลีกเลี่ยงการใช้เวลานานในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น ลม หรือควันในปริมาณมาก เนื่องจากสิ่งเหล่านี้อาจทำให้ระคายเคืองต่อดวงตาเพิ่มขึ้นได้ พิจารณาใช้แว่นตาป้องกัน เช่น แว่นกันแดดแบบพันรอบ เพื่อปกป้องดวงตาของคุณจากลมแรงและเศษขยะ
ไม่ดื่มน้ำ: 
  • การขาดน้ำอาจส่งผลต่อคุณภาพของน้ำตาที่เกิดจากดวงตาของคุณ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้รับน้ำเพียงพอโดยการดื่มน้ำให้เพียงพอตลอดทั้งวัน การจำกัดการบริโภคคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ซึ่งอาจส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำก็อาจเป็นประโยชน์เช่นกัน
การขยี้ตา: 
  • แม้ว่าการขยี้ตาอาจเป็นการตอบสนองตามธรรมชาติต่อการระคายเคืองตา แต่การขยี้ตาอาจทำให้อาการตาแห้งแย่ลงได้ การเสียดสีจากการถูอาจทำให้เนื้อเยื่ออ่อนบนพื้นผิวดวงตาของคุณระคายเคืองได้ ให้ลองใช้การประคบเย็นหรือน้ำตาเทียมเพื่อบรรเทาอาการไม่สบายแทน
การละเลยอาหารที่สมดุล: 
  • โภชนาการมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพดวงตาโดยรวม กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่พบในปลา เมล็ดแฟลกซ์ และวอลนัท มีส่วนทำให้น้ำตามีคุณภาพดีขึ้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอาหารของคุณประกอบด้วยผลไม้ ผัก และอาหารที่มีสารอาหารหลากหลายชนิดเพื่อช่วยดูแลสุขภาพดวงตาของคุณ
การเพิกเฉยต่อคำแนะนำทางการแพทย์: 
  • หากคุณได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคตาแห้ง จำเป็นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของจักษุแพทย์ การข้ามการนัดหมายหรือละเลยการรักษาตามที่กำหนดอาจขัดขวางความก้าวหน้าของคุณและนำไปสู่อาการที่รุนแรงมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
บทสรุป: การจัดการอาการตาแห้งเกี่ยวข้องกับการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต การตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม และคำแนะนำทางการแพทย์ที่เหมาะสม คุณสามารถดำเนินการเชิงรุกเพื่อรักษาความสบายตาและป้องกันไม่ให้อาการตาแห้งแย่ลงได้โดยการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทั่วไปเหล่านี้ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพตาของคุณเสมอเพื่อขอคำแนะนำเฉพาะบุคคลตามเงื่อนไขเฉพาะของคุณ

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://www.webmd.com/eye-health/eye-health-dry-eyes
  • https://www.nhs.uk/conditions/dry-eyes/
  • https://www.healthline.com/health/dry-eye-syndrome
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด