ยาคุมกำเนิด (Сontracetive Pill) คืออะไร

ยาคุมกำเนิด (Сontracetive Pill) – การใช้อย่างเหมาะสม ผลข้างเคียง

21.11.2567

การคุมกำเนิดเป็นทางเลือกที่ใช้ในการป้องกันการตั้งครรภ์ สำหรับคู่รักชายหญิง จริงๆแล้วการคุมกำเนิดนั้นมีหลายวิธี แต่หัวข้อที่จะมาพูดถึงในบทความความนี้คือ “ยาเม็ดคุมกำเนิด” ยาคุมกำเนิด หรือที่เราชอบเรียกติดปากกันว่า ยาคุม ยาคุมกำเนิดนั้นมีไว้เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ และเมื่อรับประทานอย่างถูกต้องจะได้ผล 99.9% แต่ยาเม็ดนี้ไม่ได้ปกป้องคุณจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งรวมถึงเอชไอวีด้วย ถุงยางอนามัยที่ใช้ปิดองคชาตของเพศชายนั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ นอกจากยาคุการคุมกำเนิดแบบเม็ดและการใช้ถุงยางแล้ว ยังมีวิธีการคุมกำเนิกแบบอื่นอีก เช่น การใช้แผ่นแปะและการใส่วงแหวนในช่องคลอด

ยาคุมกำเนิดทำงานอย่างไร

คุณจะตั้งครรภ์ก็ต่อเมื่อไข่ที่ปล่อยออกมาจากรังไข่ (อวัยวะที่เก็บไข่) ได้รับการปฏิสนธิโดยสเปิร์ม ไข่ที่ปฏิสนธิแล้วจะยึดติดกับภายในมดลูกของคุณ ซึ่งจะพัฒนาไปเป็นทารก ฮอร์โมนในร่างกายของคุณควบคุมการปล่อยไข่จากรังไข่ซึ่งเรียกว่าการตกไข่ และเตรียมร่างกายให้พร้อมรับไข่ที่ปฏิสนธิแล้ว ฮอร์โมนคุมกำเนิด (ยาเม็ด แผ่นแปะ และวงแหวนคุมกำเนิด) ล้วนมีฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสตินที่มนุษย์สร้างขึ้นในปริมาณเล็กน้อย ฮอร์โมนเหล่านี้ยับยั้งฮอร์โมนตามธรรมชาติของร่างกายเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ฮอร์โมนคุมกำเนิดมักจะหยุดร่างกายจากการตกไข่ พวกมันยังเปลี่ยนมูกปากมดลูกเพื่อทำให้ตัวอสุจิผ่านปากมดลูกและหาไข่ได้ยาก พวกมันยังสามารถป้องกันการตั้งครรภ์โดยการเปลี่ยนเยื่อบุของมดลูก ดังนั้นโอกาสในการฝังไข่ที่ปฏิสนธิแล้วจึงเป็นไปได้ยาก และมียาคุมกำเนิดชนิดต่างๆ หากคุณกำลังคิดที่จะใช้สิ่งเหล่านี้ นี่คือสิ่งที่คุณควรรู้เพื่อช่วยคุณในการตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด contraceptive pil

Minipils คืออะไร?

Minipills คือยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสตินเพียงตัวเดียว ไม่มีเอสโตรเจนและอาจกำหนดให้ใช้สำหรับผู้ที่ให้นมลูกหรือมีอาการคลื่นไส้หรือผลข้างเคียงอื่น ๆ ของเอสโตรเจน Minipills ทำงานโดยทำให้มูกปากมดลูกหนาขึ้นเพื่อให้สเปิร์มไม่สามารถไปถึงไข่ได้ ฮอร์โมนในยาเม็ดนี้ยังเปลี่ยนเยื่อบุโพรงมดลูกอีกด้วย ดังนั้นการฝังไข่ที่ปฏิสนธิจึงมีโอกาสน้อยกว่ามาก ในบางกรณี ยาเม็ดขนาดเล็กจะป้องกันการหลั่งของไข่ หากใช้ยา Minipills อย่างสม่ำเสมอและถูกต้อง จะมีประสิทธิภาพประมาณ 95% ซึ่งค่อนข้างมีประสิทธิภาพน้อยกว่ายาคุมกำเนิดแบบมาตรฐาน

การใช้ยาคุมกำเนิด

ปรึกษาแพทย์เมื่อคุณต้องการเริ่มกินยาคุมกำเนิด หากคุณยังมีประจำเดือนในวันที่คุณต้องเริ่มกินยาคุมกำเนิด ให้เริ่มทานเลย หลังจากนั้นคุณจะมีประจำเดือนช่วงเวลาถัดไปอีกประมาณ 25 วันหลังจากเริ่มทานยา ทางที่ดีคุณควรรับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน ที่จริงแล้วคุณสามารถทานได้ตลอดวันนั่นแหละ เพียงแต่ว่าการทานก่อนอาหารเช้าหรือก่อนนอนจะช่วยให้คุณจดจำได้ง่ายขึ้น และไม่ลืมทานยา ยาคุมกำเนิดแบบทานต่อเนื่องก็ทำงานในลักษณะเดียวกัน คุณเริ่มกินยาในวันอาทิตย์แรกหลังจากเริ่มมีประจำเดือน ถ้ารอบเดือนของคุณเริ่มในวันอาทิตย์ ให้เริ่มในวันนั้น โดยคุณต้องทานหนึ่งเม็ดต่อวันเป็นเวลา 84 วันติดต่อกัน จากนั้นก็จะขึ้นอยู่กับชนิดของยาที่คุณใช้ หลังจากนั้นคุณต้องใช้ยาหลอกหรือยาที่มีแค่เอสโตรเจนอย่างเดียวเป็นเวลา 7 วัน วันละหนึ่งเม็ด

ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิด

ยาคุมกำเนิดนั้นมีผลข้างเคียงแม้ว่ายาส่วนใหญ่จะไม่ร้ายแรงก็ตาม ผลข้างเคียง ได้แก่ :

คลื่นไส้
หน้าอก เจ็บหรือบวม
มีเลือดปนเล็กน้อยหรือเป็นจุดระหว่างรอบเดือน
ประจำเดือนมาน้อยกว่าปกติ
อารมณ์แปรปวน
ปวดหัวเบาๆ

และอาการต่อไปนี้สามารถพบได้น้อยกว่า แต่รุนแรงกว่าอาการด้านบน ให้ติดต่อแพทย์ของคุณทันทีหากสังเกตุเห็นอาการ หากคุณติดต่อแพทย์ไม่ได้ ให้ไปที่ห้องฉุกเฉินหรือศูนย์ดูแลฉุกเฉินไกล้เคียงโดยเร็ว อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติร้ายแรง เช่น โรคตับ โรคถุงน้ำดี โรคหลอดเลือดสมอง ลิ่มเลือด ความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจ:

ปวดท้อง
เจ็บหน้าอกรุนแรง
ปวดหัวรุนแรง
สายตาพร่ามัว
บวมหรือปวดที่ขาและต้นขา

ยาคุมกำเนิดนั้นไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงโดยรวมของการเกิดโรคมะเร็ง การใช้ยาคุมยังเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่ลดลงของมะเร็งลำไส้ใหญ่ เยื่อบุโพรงมดลูก และมะเร็งรังไข่ แต่มีการพบว่าผู้ใช้ยาคุมกำเนิดในปัจจุบัน มีความเสี่ยงมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกสูงขึ้น แต่ความเสี่ยงก็จะหายไปภายใน 5 ปี หลังหยุดใช้ยา