การเจ็บหน้าอกหรือ (Chest pain) คืออาการที่ทำให้ผู้ป่วยหลายคนต้องเข้าห้องฉุกเฉินเนื่องจากสาเหตุนี้บ่อย ๆ อาการเจ็บอกอาจจะเป็นได้จากหลายสาเหตุ เช่นโรคหัวใจ กล้ามเนื้อหน้าอกอักเสบ หรือความดัน ที่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บหน้าอก
สาเหตุของการเจ็บหน้าอก
เราสามารถแบ่งสาเหตุของอาการเจ็บแน่นหน้าอกได้จากโรคที่เป็น โดยจำแนกได้ดังนี้ระบบทางเดินอาหารก่อให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก
- นิ่วในถุงน้ำดี (gallstones)
- กรดไหลย้อน (acid reflux)
- โรคไส้เลื่อนกระบังลม (Hiatal Hernia)
เจ็บหน้าอกที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ
โรคเจ็บหน้าอกที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจมีดังนี้:- หัวใจวาย(heart attack) เมื่อมีอาการหัวใจวายจะส่งผลให้เกิดการเจ็บแน่นบริเวณหน้าอกเพราะเลือดไม่สามารถส่งไปหล่อเลี้ยงที่หัวใจได้ตามปกติ
- ภาวะเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (pericarditis) คือการอักเสบของเยื่อหุ้มหัวใจ ภาวะนี้จะทำให้เจ็บหน้าอกเหมือนการถูกมีดแทง ภาวะนี้อันตรายเช่นเดียวกับอาการหัวใจวายซึ่งอาจจะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้
- หลอดเลือดแดงแตกเซาะ (aortic dissection) เป็นภาวหลอดเลือดแดงฉีกขาด ก่อให้เกิดเลือดที่ไหลมารวมกันตรงกลางชั้นผิว ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บหน้าอก
- หลอดเลือดหัวใจ(agina) สามารถก่อให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกได้ เนื่องจากเกิดการทำงานผิดปกติ
- กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis)
การเจ็บหน้าอกที่มีสาเหตุมาจากปอด
- หลอดลมบีบเกร็ง (bronchospasm)
- ปอดบวม (pnuemonia)
- ปอดรั่ว (pneumothorax)
- ลิ่มเลือดอุดตันในปอด (pulmonary embolus)
- หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน (Viral bronchitis)
อาการบาดเจ็บจากกล้ามเนื้อหรือกระดูก
- กล้ามเนื้อหน้าอกกดทับเส้นประสาท
- เอ็นหรือกล้ามเนื้อหน้าอกอักเสบ
- ซี่โครงหัก หรือได้รับการบาดเจ็บ
สาเหตุอื่น ๆ
อาการแพนิค และโรคงูสวัดสามารถก่อให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกได้เช่นกันอาการเจ็บหน้าอกเกิดจากอะไร
อาการเจ็บหน้าอกนั้นมีได้หลายอาการ เนื่องมาจากสาเหตุของโรค โดยจะมีอาการได้ดังนี้- อาการเจ็บหน้าอกเวลาหายใจ อาจจะมีสาเหตุมาจากโรคของปอด เนื่องด้วยเยื่อหุ้มปอดอักเสบ หรือบางคร้ังอาจจะเป็นสาเหตุมาจากโรคปอดบวม
- เหงื่อออก ตัวเย็น เจ็บหน้าอก
- ร่างกายอ่อนเพลีย
- รู้สึกแน่นตึงที่หน้าอก
วิธีรักษาอาการเจ็บหน้าอก
ในการรักษาอาการเจ็บหน้าอกนั้นจะขึ้นอยู่กับโรคและสาเหตุที่ผู้ป่วยเป็น โดยอาจจะมีการรักษาข้างต้นได้ดังนี้ :การรักษาด้วยยา
- การให้ยา ประเภทไนโตรกลีเซอรีนและยาอื่น ๆ ที่เปิดหลอดเลือดแดง เพื่อให้เลือดไหลเวียนได้ดี
- ยารักษาอาการซึมเศร้า ใช้สำหรับผู้ที่มีความวิตกกังวลมาก จนส่งผลให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก
- ยาสลายลิ่มเลือด ใช้ในการสลายลิ่มเลือดที่อุดตันทางเดินหัวใจ
การผ่าตัด
Bypass surgery การผ่าตัดประเภทนี้เป็นการหลอดเลือดจากส่วนอื่นของร่างกายมาใช้แทนหลอดเลือดที่อุดตัน การทำบอลลูน สำหรับผู่ป่วยที่มีปัญหาหลอดเลือดอุดตัน โดยการทำบอลลูนนั้นแพทย์จะทำการสอดท่อเล็ก ๆ เข้าไปยังหลอดเลือดใหญ่ และทำการต่อสายท่อกับอุปกรณ์บอลลูนเพื่อเปิดทางให้หลอดเลือดที่ตีบ เพื่อให้เลือดไหลผ่านได้สะดวกขึ้น การผ่าตัดรักษาผนังหลอดเลือดแดงใหญ่ เพื่อทำการรักษาหลอดเลือดที่ฉีดขาดการวินิจฉัยอาการเจ็บหน้าอก
หากคุณมีอาการเจ็บหน้าอกควรขอความช่วยเหลือจากแผนกแพทย์ฉุกเฉินในทันที โดยในการวินิฉัยนั้นแพทย์จะทำการซักประวัติทางการแพทย์โดยละเอียด และอาจจะทำการตรวจหัวใจว่าทำงานปกติหรือไม่ โดยการวินิจฉัยขั้นต้นจะทำการตรวจดังนี้ :- การตรวจเลือด เพื่อหาค่าเอนไซม์ในกล้ามเนื้อหัวใจว่าปริมาณมากหรือไม่ เนื่องจากโรคหัวใจนั้นจะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจเสียหาย และส่งผลให้เอนไซม์กล้ามเนื้อของหัวใจปะปนอยู่ในเลือดได้นั่นเอง
- การทำซีทีสแกน เพื่อตรวจลิ่มเลือดภายในปอดและผนังหลอดเลือดว่ามีการฉีกขาดหรือไม่
- การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG or EKG)
- การตรวจเอ็กซ์เรย์หลอดเลือด เพื่อตรวจหาว่าหลอดเลือดนั้นตีบหรืออุดตันหรือไม่
- การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง
อาหารที่ดีที่สุดสำหรับอาการเจ็บหน้าอก
โปรแกรม Dean Ornish ที่นำไปสู่การปรับปรุงการทำงานของหลอดเลือดแดงและการลดลง อย่างมาก ของการโจมตีด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ – การลดความถี่ในรายงานของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบถึง 91% – ไม่ใช่แค่การให้ผู้คนรับประทานอาหารที่มีพืชเป็นหลัก นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับคำแนะนำสำหรับการออกกำลังกายระดับปานกลางและการจัดการกับความเครียด เรารู้ว่าการออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวสามารถปรับปรุงการทำงานของ endothelial ได้ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าการควบคุมอาหารมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งนี้ เราทราบดีว่าอาหารที่มีพืชเป็นส่วนประกอบหลักสามารถทำให้อาการของโรคหัวใจที่เป็นสาเหตุหลักของอาการเจ็บน่าอกทุเลาลง การสลายคราบจุลินทรีย์และเปิดหลอดเลือดแดง ในบางกรณีโดยไม่ต้องใช้ยาหรือการผ่าตัด อะไรเกี่ยวกับอาหารจากพืชที่ช่วยเพิ่ม ความสามารถในการขยายหลอดเลือดของเราได้อย่างไร ธาตุอาหารหลักแตกต่างกันหรือไม่ หรือเพียงแค่ลดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายของเนื้อสัตว์ อาจเป็นการลด คอเลสเตอรอล การทำงานของบุผนังหลอดเลือดจะดีขึ้นหากเราลดคอเลสเตอรอลให้ต่ำพอ โดยวิธีใดก็ตามที่จำเป็น มีการศึกษาหนึ่งครั้งการสแกน PET วัดการไหลเวียนของเลือดไปยังหัวใจก่อนและหลังการลดคอเลสเตอรอลที่แตกต่างกันสามวิธี วิธีแรกใช้ยา และวิธีที่สองใช้อาหารไขมันต่ำ ซึ่งเป็นอาหารที่มีไขมันต่ำจริงๆ โดยมีแคลอรี่จากไขมันน้อยกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่มีการอดอาหารเลย ผู้เข้าร่วมการศึกษาเริ่มต้นด้วยระดับคอเลสเตอรอลและการไหลเวียนของเลือดไปยังหัวใจลดลง ซึ่งเรียกว่า ภาวะขาดเลือดไปเลี้ยง ซึ่งเป็นพื้นที่ของกล้ามเนื้อหัวใจที่ไม่ได้รับการไหลเวียนของเลือดอย่างเพียงพอ หลังจากลดคอเลสเตอรอลแล้ว ระดับคอเลสเตอรอลก็ยังแย่มาก แต่ด้วยการปรับปรุง การไหลเวียนของเลือดก็ดีขึ้น และอาการแน่นหน้าอกก็ลดลงครึ่งหนึ่ง เมื่อพวกเขาหยุดการรักษาและคอเลสเตอรอลกลับสูงขึ้น การไหลเวียนของเลือดไปยังกล้ามเนื้อหัวใจก็กลับลดลง ดังนั้น คอเลสเตอรอลที่ลดลงเองจึงดูเหมือนว่าจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังหัวใจ และนักวิจัยคิดว่าเป็นเพราะเมื่อคอเลสเตอรอลลดลง การทำงานของบุผนังหลอดเลือดก็จะดีขึ้นภาพรวม
อาการเจ็บหน้าอกบางคร้ังอาจจะเป็นอาการที่ส่งผลมาจากโรคที่ไม่ได้เป็นอันตรายมากนัก เช่นกรดไหลย้อน หรือหอบหืด แต่หากเกิดอาการเจ็บหน้าอกก็ไม่ควรวางใจเพราะนอกจากเกิดจากโรคที่ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตแล้ว โรคนี้อาจจะเป็นผลมาจากโรคที่มีอัยตรายถึงชีวิตเช่นโรคหัวใจก็เป็นได้ ดังนั้นเมื่อมีอาการเจ็บหน้าอกควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงนี่คือลิงค์แหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.nhs.uk/conditions/chest-pain/
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/chest-pain/symptoms-causes/syc-20370838
- https://www.webmd.com/pain-management/guide/whats-causing-my-chest-pain
Content and expert reviews from Bupa team.
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น