การวัดความดันโลหิต (Blood Pressure Test)

การวัดความดันโลหิต (Blood Pressure Test) นั้นใช้เพื่อวัดความดันในหลอดโลหิตขณะที่หัวใจสูบฉีดเลือด คุณอาจต้องวัดความดันเป็นปกติเมื่อมีนัดกับแพทย์หรือเป็นการตรวจหาภาวะความดันโลหิตสูง บางคนใช้การวัดความดันเพื่อติดตามสุขภาพของหัวใจ 

ทำไมต้องวัดความดันโลหิต

เมื่อเราไปพบแพทย์ การวัดความดันนั้นเป็นสิ่งที่ต้องทำเสมอ มันเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการคัดกรองสุขภาพทั่วไปของเรา  เมื่อไหร่ที่คุณควรวัดความดัน: 
  • ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปที่มีความดันโลหิตปกติและไม่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจควรจะวัดความดันอย่างน้อยต่อสองถึงห้าปี 
  • ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่มีอายุต่ำกว่าที่มีความเสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง ควรวดความดันทุกปี ปัจจัยเสี่ยงสำหรับโรคความดันโลหิตสูงคือผู้ที่เป็นโรคอ้วนและชาวผิวสี 
  • ผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น ความดันสูง หรือความดันต่ำ หรือโรคหัวใจ อาจต้องวัดความดันบ่อยกว่า 2 กลุ่มข้างต้น 
แพทย์อาจแนะนำให้คุณวัดความดันที่บ้านด้วย เครื่องวัดความดันอัตโนมัติที่ใช้ที่บ้านนั้นหาซื้อและใช้ได้ง่าย บางยี่ห้อสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ ทำให้ง่ายต่อการส่งข้อมูลเพื่อบันทึกออนไลน์ทางการแพทย์ โดยคุณสามารถปรึกษากับแพทย์เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้

ความเสี่ยง 

การวัดความดันนั้น ง่าย รวดเร็ว และปกติแล้วจะไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด อย่างไรก็ตาม สายรัดจะบีบแขนของคุณในขณะที่มันกำลังทำงานอยู่ บางคนคิดว่ามันเจ็บเล็กน้อย แต่ความรู้สึกนั้นเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วินาที 

การเตรีมตัว 

ไม่มีขั้นตอนการเตรียมตัวที่พิเศษสำหรับการวัดความดัน แต่ขั้นตอนข้างล่างนี้อาจช่วยให้ผลของความดันนั้นแม่นยำขึ้น: 
  • ไม่สูบบุหรี่ ออกกำลังกาย หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน 30 นาทีก่อนที่จะวัด เพราะกิจกรรมเหล่านี้ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นและความดันโลหิตสูงขึ้น 
  • สวมเสื้อแขนสั้นเพื่อที่จะได้ใส่ปลอกแขนเพื่อวัดความดันได้ง่ายขึ้น 
  • นั่งพักก่อนสักครู่ก่อนที่จะวัดความดัน 
  • แจ้งแพทย์ว่ารับประทานยาอะไรอยู่บ้าง เพราะยาบางชนิดอาจส่งผลต่อความดันโลหิต 
Blood Pressure Test

คุณคาดหวังอะไรจากการวัดความดันได้บ้าง 

ระหว่างขั้นตอนการวัด 

ปกติแล้ว พยาบาลจะวัดความดันในขณะที่คุณนั่งเก้าอี้และเท้าวางเรียบไปกับพื้น  วางแขนลงบนโต๊ะในระดับเดียวกับหัวใจ  ปลอกแขนจะรัดรอบต้นแขน ส่วนขอบของปลอกแขนจะอยู่เหนือข้อศอก ปลอกแขนควรจะพอดี ค่าอาดจะคลาดเคลื่อนหากปลอกนั้นหลวมเกินไปหรือคับเกินไป 
  • สำหรับเครื่องที่ใช้วัดโดยมือ พยาบาลจะปลอกแขนรัดบนเส้นเลือด (หลอดเลือดแดงแขน) ที่ต้นแขนเพื่อที่จะฟังเสียงการไหลของเลือด 
  • ปลอกแขนจะพองขึ้นด้วยการใช้ที่ปั๊มมือ 
  • ในขณะที่ปลอกแขนพองขึ้นนั้น มันจะบีบแขนเราไปด้วย เลือดที่ไหลผ่านเส้นเลือดจะหยุดชั่วครู่ 
  • พยาบาลจะเปิดวาล์วที่ปั๊มมือช้า ๆ เพื่อปล่อยอากาศในปลอกแขนและให้เลือดกลับมาไหลอีกครั้ง พวกเขาจะฟังเสียงการไหลของเลือดและจดบันทึกเอาไว้ 
ปลอกแขนที่ใช้วัดความดันบางชนิดสามารถพองเองและวัดชีพจรได้อัตโนมัติ ในเคสนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้หูฟัง การวัดความดันโลหิตนั้นใช้เวลาประมาณ 1 นาที 

หลังการวัดความดัน 

หากความดันโลหิตของคุณสูงหรอืต่ำ คุณจะต้องวัดความดันอีกอย่างน้อย 3 ครั้ง ห่างกันอย่างน้อยครั้งละ  1 สัปดาห์ เพื่อที่จะทราบว่าคุณต้องเข้ารับการรักษาหรือไม่ ความดันโลหิตนั้นสามารถแตกต่างกันได้ในแต่ละช่วงเวลาและแต่ละวัน 

ผลลัพท์

แพทย์ หรือ พยาบาล หรือเจ้าหน้าที่สามารถบอกผลของการวัดความดันได้เลยทันที  ความดันโลหิตจะถูกวัดในหน่วยมิลลิเมตรปรอท (mm Hg) ซึ่งจะมีตัวเลขอยู่  2 เลข 
  • ตัวเลขข้างบน (systolic) คือความดันโลหิตเมื่อหัวใจปั๊มเลือด 
  • ตัวเลขข้างล่าง (diastolic) คือความดันที่วัดระหว่างการเต้นของหัวใจ
ด้านล่างนี้หน่วยความดันโลหิตและความหมาย  หากตัวเลขด้านบนและตัวเลขด้านล่างนั้นตรงกับเลขที่แตกต่างกัน ให้ดูที่เลขที่สูงกว่า 
ตัวเลขข้างบน (systolic) ในหน่วย mm Hg และ/หรือ ตัวเลขข้างล่าง (diastolic) ในหน่วย mm Hg ประเภทของคุณ*
  • *ค่าอาจต่ำกว่าในเด็กและวัยรุ่น ควรปรึกษาแพทย์หากคุณคิดว่าลูกของคุณอาจมีความดันสูง 
  • †สิ่งที่จะทำให้ถูกพิจารณาว่าความดันโลหิตต่ำอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น
  • ข้อมูลจาก: American Heart Association
ต่ำกว่า 90 หรือ ต่ำกว่า 60 ความดันโลหิตต่ำ† (hypotension)
ต่ำกว่า 120 และ ต่ำกว่า 80 ความดันโลหิตปกติ
120-129 และ ต่ำกว่า 80 ความดันโลหิตสูงขึ้น
130-139 หรือ 80-89 ความดันโลหิตสูง ระยะที่ 1 (hypertension)
140 หรือมากกว่า หรือ 90 หรือมากกว่า ความดันโลหิตสูงระยะที่ 2 (hypertension)
หากคุณมีความดันโลหิตสูง การเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตเล็กน้อยอาจช่วยให้ดีขึ้นได้ 
  • ลดปริมาณเกลือ (โซเดียม) สมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกาแนะนำว่า ผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีไม่ควรรับประทานโซเดียมเกินวันละ 2,300 มิลลิกรัม (mg) ต่อวัน ตามทฤษฎีแล้ว ผู้ใหญ่ส่วนมากควรควบคุมปริมาณโซเดียมให้อยู่ที่ 1,500 mg ต่อวัน และควรเช็คปริมาณเกลือในอาหารแปรรูป เช่น ซุปกระป๋องและอาหารแช่แข็งต่าง ๆ 
  • รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เลือกทาน ผลไม้ ผัก ธัญพืช และผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ รับประทานไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ให้น้อยลง
  • ควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ทำให้ความดันโลหิตเพิ่มสูงได้ หากคุณจะดื่มแอลกอฮอล์ ควรดื่มให้พอเหมาะ สำหรับผู้ใหญ่ที่สุขภาพดี คือ หนึ่งแก้วต่อวันสำหรับผู้หญิงและสองแก้วต่อวันสำหรับผู้ชาย 
  • หากคุณสูบบุหรี่อยู่ ควรเลิก และควรที่จะหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีควันบุหรี่ 
  • ลดน้ำหนัก หากคุณมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป การลดน้ำหนักประมาณ 2.2 กิโลกรัมสามารถทำให้ความดันเลือดลดลงได้ 
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การขยับร่างกายตลอดจะช่วยลดความดันโลหิตและช่วยควบคุมน้ำหนัก ผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีควรออกกำลังกายแบบแอโรบิคเบา ๆ อย่างน้อย 150 นาทีหรือ 75 นาทีสำหรับแอโรบิคแบบหนัก ต่อสัปดาห์ หรือควรออกทั้งสองแบบ
หากการเปลี่ยนการใช้ชีวิตไม่สามารถจัดการกับความดันโลหิตของคุณได้ แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยา หากคุณมีความดันโลหิตต่ำ อาการนั้นจะขึ้นอยู่กับสาเหตุ ซึ่งแพทย์จะสามารถแนะนำการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณได้ 

การเตรียมตัววัดความดันโลหิต

การเตรียมการทดสอบความดันโลหิตหรือที่เรียกว่าการวัดความดันโลหิตหรือการตรวจความดันโลหิตนั้นค่อนข้างง่าย ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อให้แน่ใจว่าการอ่านค่าถูกต้องแม่นยำและทำให้กระบวนการดำเนินไปอย่างราบรื่น:
  • สวมเสื้อผ้าที่สบาย : เลือกเสื้อผ้าที่ช่วยให้เข้าถึงต้นแขนได้ง่าย วิธีที่ดีที่สุดคือสวมเสื้อแขนสั้นหรือเสื้อผ้าที่สามารถพับแขนเสื้อได้
  • หลีกเลี่ยงคาเฟอีนและการออกกำลังกาย : อย่างน้อย 30 นาทีก่อนการทดสอบ หลีกเลี่ยงการบริโภคคาเฟอีน (พบในกาแฟ ชา เครื่องดื่มชูกำลัง และน้ำอัดลม) และงดเว้นจากการออกกำลังกายอย่างหนัก ปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้ความดันโลหิตของคุณเพิ่มขึ้นชั่วคราว
  • ปัสสาวะ : หากคุณจำเป็นต้องใช้ห้องน้ำ ให้ดำเนินการก่อนการทดสอบ การกระเพาะปัสสาวะเต็มอาจส่งผลต่อการอ่าน
  • ผ่อนคลายและพักผ่อน : พยายามสงบสติอารมณ์และผ่อนคลาย นั่งเงียบๆ สักสองสามนาทีก่อนการทดสอบ หลีกเลี่ยงการพูดหรือเคลื่อนไหวมากเกินไป
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ : การสูบบุหรี่อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้ชั่วคราว หากคุณสูบบุหรี่ ทางที่ดีควรงดเว้นอย่างน้อย 30 นาทีก่อนการทดสอบ
  • นั่งสบาย : นั่งบนเก้าอี้โดยวางเท้าราบกับพื้นและรองรับหลัง วางแขนของคุณบนพื้นผิวเรียบ เช่น โต๊ะหรือโต๊ะ เพื่อให้อยู่ในระดับหัวใจ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแขนของคุณผ่อนคลายไม่เกร็ง
  • ถอดเสื้อผ้าที่รัดแน่นออก : หากคุณสวมเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับที่รัดแน่น (เช่น นาฬิกาข้อมือหรือสร้อยข้อมือที่รัดแน่น) บนแขนที่จะวางผ้าพันแขนวัดความดันโลหิต ให้ถอดออกเพื่อให้แน่ใจว่าค่าที่อ่านได้แม่นยำ
  • หลีกเลี่ยงการพูดคุย : การพูดระหว่างการทดสอบความดันโลหิตอาจส่งผลต่อความแม่นยำในการอ่าน ทางที่ดีควรนิ่งเงียบในขณะที่ทำการวัด
  • แจ้งผู้ให้บริการด้านสุขภาพ : แจ้งให้ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพทราบหากคุณมีข้อกังวลใดๆ หรือหากคุณเพิ่งประสบกับความเจ็บปวดหรือความรู้สึกไม่สบายใดๆ ที่อาจส่งผลต่อการอ่านเมื่อเร็วๆ นี้
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ให้บริการดูแลสุขภาพ : หากผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณมีคำแนะนำเฉพาะสำหรับการวัดความดันโลหิตของคุณ เช่น ระยะเวลา การปรับยา หรือการอ่านค่าหลายครั้ง โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านั้น
การทดสอบความดันโลหิตเป็นขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อนซึ่งโดยทั่วไปเกี่ยวข้องกับการพันผ้าพันแขนรอบต้นแขน พองผ้าเพื่อหยุดการไหลเวียนของเลือดชั่วคราว จากนั้นค่อยๆ ปล่อยความดันออกในขณะที่ผู้ให้บริการด้านการแพทย์หรืออุปกรณ์อัตโนมัติทำการวัดความดันโลหิตของคุณ การทำตามขั้นตอนการเตรียมการเหล่านี้สามารถช่วยให้อ่านค่าได้อย่างถูกต้องและให้ข้อมูลอันมีคุณค่าเกี่ยวกับสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของคุณ หากคุณมีคำถามหรือข้อกังวลเกี่ยวกับการทดสอบหรือความดันโลหิตของคุณ อย่าลังเลที่จะปรึกษากับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณ

นี่คือที่มาในบทความของเรา

  • https://www.nhs.uk/conditions/blood-pressure-test/
  • https://www.heart.org/en/health-topics/high-blood-pressure/understanding-blood-pressure-readings/monitoring-your-blood-pressure-at-home
  • https://www.cdc.gov/bloodpressure/measure.htm
  • https://my.clevelandclinic.org/health/diagnostics/4014-blood-pressure-when–how-to-check-at-home
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด