การดูแลเส้นผมเป็นทางเลือกส่วนบุคคลอย่างมาก แทบจะไม่มีเหตุผลทางการแพทย์ในการสระผมเลย
ดังนั้นการตัดสินใจว่าจะสระผมบ่อยเพียงใดจึงขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผม สภาพหนังศีรษะ ความมันของเส้นผมของแต่ละคน และความชอบส่วนตัว
สำหรับบางคนการสระผมบ่อยเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาผมเสีย หนังศีรษะแห้งและคันได้ ในขณะที่บางคน การสระผมไม่บ่อยนักอาจทำให้เกิดปัญหาผมมันเยิ้ม และไม่มีชีวิตชีวาได้
เราควรสระผมบ่อยแค่ไหน
สำหรับคนส่วนใหญ่ การสระผมไม่มีความจำเป็นต่อการมีสุขภาพที่ดี การล้างผมด้วยน้ำเพียง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์จะช่วยขจัดเศษสิ่งสกปรกที่มองเห็นออกไปได้ การตัดสินใจว่าจะสระผมบ่อยครั้งแค่ไหนเป็นเรื่องของความสำอางซึ่งขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลลักษณะเส้นผม
คนที่มีผมแห้งมากๆ ไม่จำเป็นต้องสระผมทุกวัน หรือสระผมวันเว้นวัน ในทางกลับกันการสระผมให้น้อยครั้งลงจะช่วยให้รักษาน้ำมันตามธรรมชาติในหนังศีรษะเอาไว้ และทำให้ผมดูชุ่มชื้นดี สำหรับผู้ที่มีผมแห้งมาก การสระผมสัปดาห์ละครั้งหรือสัปดาห์เว้นสัปดาห์อาจจะเพียงพอแล้ว การล้างผมด้วยน้ำระหว่างการสระผมช่วยทำให้ผมดูสดชื่นโดยไม่ต้องสูญเสียความชุ่มชื้น ผมมีแนวโน้มที่จะแห้งเสียมากขึ้นเมื่อ :- ผมหนา
- ผมหยิก
- สูงอายุ หรือผมหงอก
- ดูแลผมโดยใช้เคมี ทำสีผม หรือ การทำสปาผมด้วยสารเคมี
- ผมเส้นเล็กมาก
- ผมเส้นตรง
สภาพของหนังศีรษะ
สภาพหนังศีรษะของคนเราส่งผลต่อสภาพเส้นผมเช่นกัน คนที่มีหนังศีรษะแห้งมากมักจะไม่ผลิตซีบัม (ไขผิวหนัง คือ น้ำมันที่หลั่งออกมาจากต่อม sebaceous) มากนัก การสระผมน้อยลงสามารถช่วยให้หนังศีรษะมีสุขภาพดี ป้องกันอาการคัน ผลัดเส้นผม และทำให้ผมนุ่มสลวยเป็นเงางาม คนที่มีหนังศีรษะมันมากอาจเกิด สิว ที่หนังศีรษะหรือตามไรผม และอาจต้องสระผมบ่อยขึ้นเพื่อให้ผมดูสะอาดความชอบในการจัดแต่งทรงผม
การตัดสินใจว่าจะสระผมบ่อยครั้งแค่ไหนขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล บางคนไม่ชอบให้ผมดูลีบหรือผมมันเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่บางคนบอกว่าผมของพวกเขายังดูดีอยู่ไปอีกหลายวันหลังจากการสระผมแต่ละครั้ง ผู้ที่ไว้ทรงผมที่ต้องดูแลเเป็นพิเศษ หรือผมยาวมาก อาจไม่ชอบสระผมบ่อย เนื่องจากการสระผมน้อยลงทำให้ใช้เวลาในการจัดแต่งทรงผมน้อยลงด้วยทำไมคุณต้องใช้ยาสระผม
การสระผมก็เหมือนกับการทำความสะอาดผิว น้ำสามารถขจัดเศษซากสิ่งสกปรกที่มองเห็นได้ส่วนใหญ่ออกไป แต่อาจไม่สามารถกำจัดกลิ่นหรือคราบมันได้ แชมพูช่วยให้น้ำขจัดเศษสิ่งสกปรกและกลิ่น เช่น ควันหรือเหงื่อ ออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถขจัดความมันของเส้นผมได้ด้วยแชมพู เส้นผมได้รับน้ำมันจากต่อมไขมันซึ่งหลั่งน้ำมันที่เรียกว่าซีบัมออกมาช่วยทำให้เส้นผมมีความชุ่มชื้น ผมที่มีความชุ่มชื้นมีโอกาสที่จะหักหรือดูแห้งและชี้ฟูได้น้อย แต่ถ้ามีความชื้นมากเกินไปอาจทำให้ผมมันเยิ้ม เปียกและสกปรกได้ หลังจากไม่สระผมหลายวันมีแนวโน้มที่จะเกิดการสะสมน้ำมันใกล้หนังศีรษะมากที่สุด ทำให้ผมบริเวณใบหน้าดูสกปรก แชมพูส่วนใหญ่ออกแบบมาเพื่อขจัดความมันส่วนเกินซึ่งจะช่วยให้ผมดูสะอาดได้นานขึ้นแชมพูสระผมทำงานอย่างไร
แชมพูทำความสะอาดเส้นผมด้วยสารเคมีที่เรียกว่า สารลดแรงตึงผิว ซึ่งจะขจัดเศษหนังศีรษะที่ตายแล้วออกจากหนังศีรษะและเส้นผมได้ แชมพูหลายชนิดมีสารประกอบที่เรียกว่าซัลเฟต ซึ่งจะทำให้เกิดฟองที่ช่วยขจัดน้ำมันออกจากเส้นผม วิธีนี้สามารถช่วยทำให้ผมดูสะอาดขึ้น แต่ก็ทำให้ผมเสียได้เช่นกัน อย่างน้อยการรักษาน้ำมันไว้บนเส้นผมก็เป็นสิ่งสำคัญใน การปกป้องเส้นผมจากความเสียหาย บางคนเลือกให้ความชุ่มชื้นเพื่อรักษาสุขภาพของเส้นผมโดยการใช้แชมพูที่ปราศจากซัลเฟต แม้จะมี หลักฐานสนับสนุนเพียงเล็กน้อย ว่าแชมพูที่ปราศจากซัลเฟตนั้นมีฤทธิ์รุนแรงน้อยกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไป บางคนเลือกที่ลดความถี่ในการสระผมลง ในขณะที่บางคนถึงกับสนับสนุนให้เลิกทำความสะอาดเส้นผมด้วยแชมพูไปเลยผมแห้ง หรือผมมัน
การประเมินว่าผมแห้งหรือมัน สามารถช่วยให้คนบางคนตัดสินใจได้ว่าจะสระผมบ่อยครั้งแค่ไหน ซึ่งพวกเขาสามารถช่วยกำหนดประเภทผมของตนเองได้โดยการซักถาม:- ผมดูดีที่สุดตอนไหน ผู้มีผมมันมักจะมีผมดูดีที่สุดในวันที่สระผม ผมธรรมดาอาจดูดีที่สุดในวันรุ่งขึ้น ในขณะที่ผมแห้งอาจดูไม่ดีเลยจนกว่าจะผ่านไปหลายวันหลังจากสระผม
- ผมขาดง่ายหรือไม่ ผมแห้งมักจะขาดง่ายและอาจแตกปลาย ผมที่มีน้ำมันมีแนวโน้มที่จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
- เส้นผมมีลักษณะอย่างไร เพียงแค่มองไปที่เส้นผมอาจให้ข้อมูลเชิงลึกได้บ้าง ผมแห้งอาจดูเปราะบางหรือไม่มีชีวิตชีวาเมื่อสระบ่อยครั้งเกินไป ในขณะที่ผมมันอาจลีบแบนและมันเยิ้มเพียงวันเดียวหลังจากการสระผม
การสระผมเป็นสิ่งจำเป็นทางการแพทย์หรือไม่
คนส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องสระผมเลยเพราะเพียงการล้างด้วยน้ำสามารถขจัดสิ่งสกปรกและ รังแค ได้ อย่างไรก็ตามการสระผมเป็นประจำอาจเป็นประโยชน์สำหรับผู้มีภาวะสุขภาพบางอย่าง ผู้ที่ติดเชื้อปรสิตที่หนังศีรษะโดยเฉพาะเหา อาจต้องใช้แชมพูพิเศษเพื่อกำจัดแมลงเหล่านั้น โรคสะเก็ดเงิน ที่หนังศีรษะอาจดีขึ้นเมื่อใช้แชมพูพิเศษโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จาก น้ำมันดินหรือแชมพูยา ผู้ที่มีปัญหาผิวหนังและหนังศีรษะโดยเฉพาะควรปรึกษากับแพทย์ผิวหนังเรื่องการดูแลเส้นผมที่เหมาะสม ในทางตรงกันข้ามสภาวะทางการแพทย์บางอย่างอาจมีอาการแย่ลงเมื่อสระผมบ่อยๆ การสระผมทุกวันอาจทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวหนังอักเสบ และรังแคได้ทางเลือกอื่นในการสระผม
การสระผมไม่ได้เป็นเพียงวิธีเดียวที่จะช่วยทำให้หนังศีรษะดูสะอาด หรือรู้สึกสะอาด ทางเลือกอื่น ได้แก่- ดรายแชมพู : ดรายแชมพูเป็นสเปรย์แป้งที่มีกลิ่นหอมที่ช่วยดูดซับน้ำมัน สามารถยืดระยะเวลาระหว่างการสรพผมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผมเส้นเล็กหรือผมมัน อย่างไรก็ตามดรายแชมพูไม่ได้ช่วยขจัดสิ่งสกปรกบนเส้นผมและหนังศีรษะ หากใช้ติดต่อกันหลายวันอาจทำให้เกิดการสะสมของแป้งที่หนังศีรษะ ทำให้เกิดการระคายเคืองได้
- แชมพูที่ปราศจากสารชำระล้าง : แชมพูที่ปราศจากสารชำระล้างบางครั้งเรียกว่า “No-poos” เป็นแชมพูที่ปราศจากซัลเฟตและสารซักฟอกที่รุนแรง จะช่วยปรับสภาพเส้นผมอย่างอ่อนโยน แต่ไม่ดึงเอาน้ำมันออก นี่เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีผมแห้ง หรือผมหยิก หรือผู้ที่ชอบสระผมทุกวัน แต่ไม่ต้องการให้เกิดความเสียหายแก่เส้นผม
- การสระผมด้วยครีมนวดผม : การสระผมด้วยครีมนวดผม บางครั้งเรียกว่า “Co-washing” คือการที่คน ๆ หนึ่งสระผมด้วยครีมนวดผมหรือครีมทำความสะอาดพิเศษแทนการใช้แชมพู สำหรับผู้ที่มีผมธรรมดาถึงผมแห้งการสระผมด้วยครีมนวดผมอาจทดแทนการใช้แชมพูปกติได้ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพวกเขาไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่ทำความสะอาดยาก
ภาพรวม
จำนวนครั้งที่ควรสระผมต่อ 1 สัปดาห์ไม่มีความแน่นอน การคาดคะเนลักษณะของเส้นผมและความถี่ในการสระผมของแต่ละบุคคลก็แตกต่างกันไปตามวัฒนธรรม อายุ และจากทศวรรษสู่ทศวรรษ การสระผมบ่อยแค่ไหนเป็นความชอบบุคคล ไม่ใช่เรื่องที่อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม การสระผมเป็นกิจวัตรสำคัญของสุขอนามัยส่วนบุคคลและการดูแลเส้นผม อย่างไรก็ตาม มีหลายแง่มุมที่ต้องพิจารณาเมื่อพูดถึงความจริงเกี่ยวกับการสระผม:- ความถี่เป็นสิ่งสำคัญ:คุณควรสระผมบ่อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับประเภทเส้นผม ไลฟ์สไตล์ และความชอบส่วนตัวของคุณ ตรงกันข้ามกับความเชื่อทั่วไป การสระผมทุกวันไม่จำเป็นหรือเหมาะสำหรับทุกคน การสระผมมากเกินไปอาจทำให้น้ำมันตามธรรมชาติหลุดออกจากเส้นผม และทำให้ผมแห้งและเสียหายได้ ผู้ที่มีผมมันมากอาจต้องสระบ่อยกว่า ในขณะที่คนอื่นๆ ผมแห้งหรือผมหยิกอาจต้องสระไม่บ่อย เช่น ทุก 2-3 วัน
- การเลือกแชมพู:การเลือกแชมพูให้เหมาะกับประเภทผมและความต้องการเฉพาะเป็นสิ่งสำคัญ แชมพูต่างๆ ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อจัดการกับปัญหาต่างๆ เช่น รังแค หนังศีรษะมัน ผมทำสี และอื่นๆ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกแชมพูที่เหมาะกับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะของคุณ
- การใช้ครีมนวดผม:เราแนะนำให้ใช้ครีมนวดผมเพื่อคืนความชุ่มชื้นและความสามารถในการจัดการหลังการสระผม อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการครีมนวดผมทุกครั้งที่ซัก ผู้ที่มีผมเส้นเล็กอาจพบว่าครีมนวดผมมากเกินไปทำให้เส้นผมมีน้ำหนัก ในขณะที่ผู้ที่มีผมหนาหรือผมหยิกอาจได้รับประโยชน์จากการใช้ครีมนวดผมเป็นประจำ
- อุณหภูมิของน้ำ:น้ำร้อนสามารถดึงน้ำมันตามธรรมชาติของเส้นผม และทำให้แห้งและเสียหายได้ โดยทั่วไปควรใช้น้ำอุ่นหรือน้ำเย็นเมื่อสระผมจะดีกว่า
- การทำความผมและหนังศรีษะสะอาดอย่างอ่อนโยน: เมื่อสระผม หลีกเลี่ยงการขัดถูแรงๆ ซึ่งอาจทำลายเส้นผมและทำให้หนังศีรษะระคายเคืองได้ ให้ใช้ปลายนิ้วนวดแชมพูลงบนหนังศีรษะแทน
- ล้างผมให้สะอาด:อย่าลืมล้างแชมพูและครีมนวดออกจากเส้นผมให้สะอาดหมดจด สารตกค้างอาจทำให้เส้นผมดูมันเยิ้มและอาจนำไปสู่ปัญหาหนังศีรษะได้
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมมากเกินไป:การใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมมากเกินไป เช่น เจล สเปรย์ และเซรั่ม อาจทำให้เกิดการสะสมบนเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้ต้องสระผมบ่อยขึ้น
- ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม:หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีมลภาวะเป็นพิเศษหรือเผชิญกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่ทำให้ผมสกปรกหรือมันเยิ้ม คุณอาจต้องสระผมบ่อยขึ้น
- สภาวะสุขภาพ:สภาวะทางการแพทย์บางอย่างอาจส่งผลต่อหนังศีรษะและเส้นผม ซึ่งต้องได้รับการดูแลและการรักษาเป็นพิเศษ
นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.webmd.com/beauty/features/how-often-wash-hair
- https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/how-often-should-you-wash-your-hair
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น