สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับที่ตรวจครรภ์
หากคุณคิดว่าคุณท้อง คุณอาจต้องการอุปกรณ์ตรวจครรภ์มาตรวจเองที่บ้าน โดยคุณสามารถหาซื้อที่ตรวจครรภ์ได้ตามร้านขายยาทั่วไปโดยไม่ต้องมีใบสั่งยา ที่ตรวจครรภ์จะตรวจว่าคุณท้องหรือไม่โดยอุปกรณ์จะทำการตรวจหาฮอร์โมนที่เรียกว่า Human chorionic gonadotropin (hCG) ในปัสสาวะของคุณ อย่างไรก็ตาม การทดสอบนี้เป็นการทดสอบเชิงคุณภาพและผลลัพธ์ที่ได้ก็จะบอกออกมาเพียงว่าเป็นบวกหรือลบ การตรวจการตั้งครรภ์ที่แม่นยำที่สุดและมีประสิทธิภาพมากก็คือ การตรวจทางห้องปฏิบัติการโดยการเก็บตัวอย่างเลือดส่งตรวจ ซึ่งการตรวจดังกล่าวไม่เพียงตรวจหาฮอร์โมน hCG เท่านั้น แต่สามารถระบุปริมาณของฮอร์โมนที่จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุกๆ 2-3 วันระหว่างช่วงหลายสัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ การทดสอบที่ให้ผลค่อนข้างแม่นยำ สามารถประมาณการณ์อายุครรภ์และตรวจพบปัญหาที่จำเพาะเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ได้ ซึ่งแพทย์สามารถทำการตรวจนี้ได้ ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องการความเป็นส่วนตัว สะดวก และรู้ผลเร็วได้จากที่บ้าน ที่ตรวจครรภ์จึงไม่แม่นยำเท่าการเก็บตัวอย่างเลือดส่งตรวจโดยแพทย์ ที่ตรวจครรภ์ไม่สามารถประเมินว่าครรภ์ของคุณมีการพัฒนาการเป็นไปตามที่ควรจะเป็นหรือไม่ ฮอร์โมน hCG อาจตรวจพบได้ในปัสสาวะประมาณ 2 สัปดาห์ ภายหลังการปฏิสนธิ โดยวิธีการใช้ที่ตรวจครรภ์ดังกล่าว ทำโดยการหยดปัสสาวะของคุณลงบนแผ่นเคมี รอประมาณ 1-2 นาที แผ่นก็จะทำการแปลผลการเตรียมที่ตรวจครรภ์
เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากที่ตรวจครรภ์ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำที่แนบมาให้ในชุดการทดสอบ อ่านฉลากและคำแนะนำอย่างละเอียด: อ่านคำแนะนำและรูปภาพทั้งหมด เพื่อให้คุณเข้าใจในวิธีการทำ โดยคำแนะนำมีดังนี้:- ทำไมถึงใช้ที่ตรวจครรภ์
- วิธีการเก็บตัวอย่างปัสสาวะ
- ที่ตรวจครรภ์ใช้ตอนไหน อย่างไร
- วิธีแปลผลการตรวจ
- สิ่งที่อาจรบกวนการแปลผล
- หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ผลิต ใช้ติดต่อเมื่อมีข้อสงสัย
- ใช้เฉพาะการตรวจที่ควบคุมโดยองค์การอาหารและยา (FDA): สอบถามเภสัชกรว่า อุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจครรภ์ถูกควบคุมโดย FDA หรือไม่
- ปฏิบัติตามคำแนะนำทั้งหมด: คุณควรทำตามคำแนะนำในการทดสอบทั้งหมด เพื่อผลลัพธ์ที่ถูกต้อง อุปกรณ์ตรวจที่บ้านส่วนใหญ่มักใช้เวลา, วัสดุ/อุปกรณ์ และจำนวนการเก็บตัวอย่างที่จำเพาะ นอกจากนี้ควรหมั่นดูวันหมดอายุและวิธีการเก็บรักษาให้ดี เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนประกอบยังทำงานำด้แม่นยำ
- เก็บบันทึกการตรวจของคุณไว้ให้ดี
- หากมีข้อสงสัยให้ปรึกษาแพทย์: ผลการตรวจสามารถให้ผลที่ผิดพลาดได้ เช่น ผลลบลวง หมายถึง ความเป็นจริงท้องแต่ผลการตรวจกลับแปลผลออกมาว่าไม่ท้อง เป็นต้น ฉะนั้นควรไปพบแพทย์เพื่อยืนยันผลการตรวจอีกครั้ง
ระหว่างขั้นตอนการตรวจที่ตรวจครรภ์
ที่ตรวจครรภ์ส่วนใหญ่ คุณจะต้องถือแผ่นตรวจครรภ์เอาไปเก็บปัสสาวะเมื่อคุณเข้าห้องน้ำ หรือคุณต้องเก็บปัสสาวะลงในแก้วเล็กๆและจุ่มแผ่นตรวจลงไปในแก้วนั้น หากผลออกมาว่าคุณท้อง ที่ตรวจครรภ์ส่วนใหญ่จะแสดงขีด แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อที่คุณซื้อมา ดังนั้นควรอ่านฉลากให้ดีในการแปลผล ซึ่งที่ตรวจครรภ์จะใช้เวลาในการแปลผลเพียงไม่กี่นาที ที่ตรวจครรภ์บางชุดสามารถตรวจระดับของ hCG แม้ในระดับต่ำได้ ซึ่งบ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ เพื่อผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือที่สุด ควรทำการตรวจภายหลังที่ประจำเดือนของคุณไม่มาประมาณ 1-2 สัปดาห์ มีที่ตรวจครรภ์บางยี่ห้อที่มีความไวพอในการตรวจว่าท้องก่อนที่ประจำเดือนของคุณจะไม่มา เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำในการตรวจการตั้งครรภ์ คุณควรใช้ปัสสาวะครั้งแรกที่ตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ เพราะปัสสาวะดังกล่าวจะถูกสะสมในกระเพาะปัสสาวะมาตลอดคืน ซึ่งหากคุณท้อง ปัสสาวะนั้นจะมี hCG มากกว่าในปัสสาวะของช่วงเวลาอื่นของวัน หากคุณคิดว่าคุณท้อง แต่ผลตรวจครั้งแรกออกมาเป็นลบ คุณสามารถทำการตรวจใหม่อีกครั้งได้ภายหลังหลายวันถัดมา เพราะปริมาณ hCG จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อคุณตั้งครรภ์ คุณอาจได้ผลเป็นบวกในหลายวันถัดมา บางชุดตรวจอาจต้องทำการตรวจมากกว่า 1 ครั้ง ที่ตรวจครรภ์และการตรวจปัสสาวะโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเป็นเรื่อปกติ เพราะการตรวจทั้งสองอย่างสามารถตรวจจับ hCG ได้ แต่ผู้ให้บริการอาจมีประสบการณ์มากกว่าในการตรวจ แพทย์อาจติดตามผลการตรวจเลือดที่แม่นยำกว่าหากคุณตั้งครรภ์และอาจทำการตรวจร่างกายเพื่อให้ได้ผลที่น่าเชื่อถือมากขึ้นประเภทของที่ตรวจครรภ์
ที่ตรวจครรภ์ทั่วไปส่วนใหญ่จะใช้แผ่นตรวจครรภ์แบบจุ่ม ที่จุ่มลงไปในปัสสาวะ ซึ่งคุณจะต้องปัสสาวะแล้วใช้แผ่นนั้นป้ายปัสสาวะออกมาหรือใช้แก้วเก็บปัสสาวะแล้วนำแผ่นตรวจครรภ์จุ่มลงไป จากนั้นแผ่นตรวจครรภ์จะเกิดแถบสีขึ้นมา หากสามารถตรวจจับ hCG ได้ นั้นก็แปลผลออกมาว่าคุณตั้งครรภ์ ที่ตรวจครรภ์บางชุดประกอบไปด้วยแก้วเก็บปัสสาวะที่มีตัวตรวจอยู่ภายในแก้ว คุณอาจจะหยดปัสสาวะเพียงเล็กน้อยลงไปในแก้ว หรือจุ่มอุปกรณ์ลงไปในแก้วที่มีปัสสาวะ การแปลผลก็จะเกิดขีด ซึ่งก็จะแสดงผลออกมาว่าตั้งครรภ์หรือไม่ ที่ตรวจครรภ์อื่นๆที่ใช้ไม่บ่อย อาจต้องการให้ผสมตัวอย่างปัสสาวะกับผงหรือของเหลว ปฏิกิริยาทางเคมีที่เกิดขึ้นจะแสดงการเปลี่ยนแปลงของขีด ซึ่งนำไปอ่านแปลผลกับตารางแปลผลได้ภายหลังขั้นตอนการตรวจครรภ์
หากคุณท้อง คุณจะต้องไปตรวจกับแพทย์เพื่อยืนยันผลการตั้งครรภ์และเริ่มฝากครรภ์ หากคุณมีการรับประทานยาตามคำสั่งแพทย์อยู่ อย่าหยุดยาเองให้ปรึกษาแพทย์ของคุณก่อนเสมอความเสี่ยงของที่ตรวจครรภ์
ที่ตรวจครรภ์ดังกล่าวไม่มีความเสี่ยงทางการแพทย์เลย คุณอาจได้ผลตรวจที่ไม่ถูกต้องซึ่งอาจจะเป็นผลลบ/บวกลวง ข้อผิดพลาดอาจเกิดขึ้นได้ขึ้นอยู่กับวิธีการเก็บตัวอย่าง เช่น คุณอาจตรวจการตั้งครรภ์เร็วเกินไปที่ระดับ hCG จะสูงพอที่จะระบุได้ว่าคุณท้องหรือไม่ท้อง หากไม่เก็บปัสสาวะแรกในตอนเช้าหลังตื่นนอน ปัสสาวะที่เก็บในเวลาอื่นอาจมีระดับ hCG ที่เจือจางที่จะแสดงผลเป็นบวกได้หากความจริงคุณตั้งครรภ์ รวมไปถึงยาอาจทำให้ผลการตรวจผิดพลาดได้ มีการศึกษาหนึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงมีปัญหาในการปฏิบัติตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์ ในการศึกษานี้ผลลัพธ์จำนวนมากแสดงผลเป็นลบในผู้ที่ได้รับการพิจารณาว่าตั้งครรภ์ในเวลาถัดมาผลการตรวจที่ตรวจครรภ์
ความแม่นยำของที่ตรวจครรภ์ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามคำแนะนำในบรรจุภัณฑ์ดีมากน้อยแค่ไหนและการแปลผล หากคุณใช้ชุดตรวจผิดหรือเข้าใจผิด คุณอาจได้ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้อง หากทำการตรวจเร็วเกินไปในรอบของการมีประจำเดือน ระดับ hCG อาจจะยังสูงไม่เพียงพอที่จะทำการตรวจและผลออกมาเป็นบวก นี่อาจเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างยิ่งหากคุณมีรอบเดือนที่ผิดปกติ หรือไม่แน่ใจเกี่ยวกับวันที่ของการเริ่มมีประจำเดือนครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ที่ควรจะไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยการตั้งครรภ์
หากประจำเดือนมาช้าและคุณสงสัยว่าอาจตั้งครรภ์ ให้รอประมาณ 7-10 วันก่อนลองตรวจที่ตรวจครรภ์ หากผลตรวจออกมาเป็นลบ ให้รอประมาณ 2-3 วัน หากประจำเดือนของคุณยังคงไม่มา ใ้ห้ลองทำการตรวจใหม่อีกครั้ง หากผลยังคงเป็นลบและประจำเดือนก็ยังไม่มาอีก ให้ไปพบแพทย์ช่วงเวลาไหนดีที่สุดในการใช้ที่ทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง
เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำที่สุด โดยทั่วไปแนะนำให้ทำการทดสอบการตั้งครรภ์โดยใช้ปัสสาวะตอนเช้าหลังตื่นนอน เนื่องจากความเข้มข้นของฮอร์โมน gonadotropin (hCG) ของมนุษย์ ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ตรวจพบโดยการทดสอบการตั้งครรภ์ มักจะสูงกว่าในปัสสาวะตอนเช้า ปัสสาวะแรกของวันมีแนวโน้มที่จะเข้มข้นมากขึ้นเพราะไปสะสมอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ ต่อไปนี้คือเหตุผลบางประการว่าทำไมจึงมักแนะนำให้ทำการทดสอบการตั้งครรภ์ในตอนเช้า:- ระดับเอชซีจีที่สูงขึ้น:ในช่วงต้นของการตั้งครรภ์ ระดับเอชซีจีมักจะสูงที่สุดในตอนเช้า การตรวจปัสสาวะในตอนเช้าวันแรกอาจทำให้ตัวอย่างมีความเข้มข้นมากขึ้น และเพิ่มโอกาสตรวจพบการตั้งครรภ์ได้
- ข้ามคืนคุณมักจะไม่ดื่มของเหลวใด ๆ ดังนั้นปัสสาวะจึงมีความเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแม่นยำของการทดสอบได้
- การลดเจือจาง ตลอดทั้งวัน คุณอาจบริโภคของเหลวที่สามารถเจือจางความเข้มข้นของเอชซีจีในปัสสาวะของคุณได้ การทดสอบในตอนเช้าจะช่วยลดโอกาสการเจือจางได้
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://medlineplus.gov/lab-tests/pregnancy-test/
- https://www.webmd.com/baby/guide/pregnancy-tests
- https://www.nhs.uk/pregnancy/trying-for-a-baby/doing-a-pregnancy-test/
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตีบ (Phimosis)
สาเหตุของผิวแห้งกร้านและวิธีบำรุงผิว
เนื้องอกต่อมหมวกไตฟีโอโครโมไซโตมา (Pheochromocytoma)
ภาวะปวดหลอน (Phantom Pain)
โรคปริทันต์ (Periodontitis) : อาการ สาเหตุ การรักษา
โรคอกบุ๋ม (Pectus Excavatum)
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น