มะรุม (Moringa) : ประโยชน์ และสิ่งควรรู้

มะรุมคืออะไร

มะรุมเป็นพืชที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมาหลายพันปีแล้ว มันมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารประกอบพืชสูง หลักฐานทางวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นถึงประโยชน์มากมายของมะรุม ดังนี้ 

ประโยชน์ของมะรุม

ต้นมะรุมมีสารอาหารอยู่มาก 

มะรุมเป็นต้นไม้พื้นเมืองของอินเดียเหนือ ทุกส่วนของต้นมะรุมสามารถรับประทานได้และใช้เป็นส่วนผสมของยาสมุนไพรโบราณ  ผักและใบของมะรุมถูกรับประทานในหลายพื้นที่ในอินเดียและแอฟริกา  ใบมะรุมมีวิตามินและแร่ธาตุสูง ใบมะรุม 1 ถ้วย 21 กรัม มี: 
  • โปรตีน: 2 กรัม
  • วิตามิน B6: 19% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน 
  • วิตามิน C: 12% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน 
  • เหล็ก: 11% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน 
  • ไรโบฟลาวิน (B2): 11% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน 
  • วิตามิน A (จากเบต้าแคโรทีน): 9% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน 
  • แม็กนีเซียม: 8% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน 
ในประเทศตะวันตก ใบมะรุมแห้งถูกขายในรูปแบบของอาหารเสริมในรูปแบบผงและแคปซูล  เมื่อเปรียบเทียบกับใบ ฝักมะรุมมีวิตามินและแร่ธาตุทมี่ต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม มันมีวิตามินซีอยู่ ฝักมะรุม 100 กรัม มีวิตามินซี 157% ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน  อาหารของผู้ที่อยู่ในประเทศกำลังพัฒนาบางครั้งก็ขาดวิตามิน โปรตีน และแร่ธาตุ ในประเทศเหล่านี้ มะรุมเป็นแหล่งของสารอาหารสำคัญหลายชนิด  อย่างไรก็ตาม ใบมะรุมอาจมีสารต้านสารอาหาร ซึ่งสามารถไปลดการดูดซึมของแร่ธาตุ และโปรตีน นอกจากนี้ การรับประทานอาหารเสริมจากมะรุมจะไม่ได้ให้สารอาหารมาก Moringa

สรรพคุณมะรุมมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง 

สารต้านอนุมูลอิสระเป็นสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระในร่างกายของเรา  หากมีสารอนุมูลอิสระในร่างกายมากอาจเป็นสาเหตุของภาวะเครียดออกซิเดชั่น ซึ่งเชื่อมโยงกับโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ และโรคเบาหวานชนิดที่ 2 สารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดถูกพบในใบมะรุ,  ในส่วนเพิ่มเติมของวิตามินซีและเบต้าแครอทีน จะรวมไปถึง: 
  • เควอเซทิน: สารต้านอนุมูลอิสระนี้อาจช่วยลดความดันโลหิต 
  • กรดคลอโรจีนิก: สารชนิดนี้พบมากในกาแฟ กรดคลอโรจีอาจช่วยทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่เป็นระดับปกติหลังจากรับประทานอาหาร 
สารสกัดจากใบมะรุมอาจถูกใช้เป็นวัตถุกันเสีย มันช่วยเพิ่มอายุของเนื้อโดยการลดปฏิกริยาออกซิเดชั่น 

มะรุมอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด 

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงสามารถเป็นปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้ ซึ่งเป็นลักษณะของโรคเบาหวาน  เมื่อเวลาผ่านไป ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพมากมาย รวมไปถึงโรคหัวใจ ด้วยเหตุผลนี้ มันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะรักษาระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์สุขภาพดีเสมอ 

มะรุมอาจช่วยลดการอักเสบ 

การอักเสบเป็นการตอบสนองอย่างเป็นธรรมชาติของร่างกายต่อการติดเชื้อและการบาดเจ็บ  มันเป็นกลไกการป้องกันแต่อาจทำให้เป็นปัญหาสุขภาพหากเกิดขึ้นติดต่อกันเป็นเวลานาน  การอักเสบที่ยาวนานเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ และมะเร็ง  ผลไม้ ผัก สมุนไพร และพริกมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ อย่างไก็ตาม ระดับของการต้านการอักเสบนั้นแตกต่างกันไปตามสารต้านการอักเสบที่พวกมันมีอยู่ 

มะรุมอาจช่วยทำให้คอลเรสเตอรอลต่ำลง  

การมีคอเลสเตอรอลสูงมีความเชื่อมโยงต่อการเกิดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ  พืชหลายชนิดสามารถช่วยลดคอลเรสเตอรอลได้ เช่น เมล็ดแฟลกซ์ โอ๊ต และอัลมอน  ในการศึกษาในสัตว์และมนุษย์พบว่ามะรุมอาจช่วยลดคอลเรสเตอรอลได้ 

มะรุมอาจช่วยป้องการการเป็นพิษจากสารหนูได้ 

พิษจากสารหนูในอาหารและน้ำเป็นปัญหาในหลายพื้นที่ในโลก ข้าวบางชนิดอาจมีสารหนูในปริมาณที่สูง 

โทษของมะรุม 

ถึงแม้มะรุมจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังเมื่อรับประทานมะรุม ดังนี้ 
  • มะรุมมีคุณสมบัติต้านการเจริญพันธุ์ จึงไม่ถูกแนะนำให้รับประทานในหญิงตั้งครรภ์ 
  • การรับประทานมะรุมติดต่อกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง อาจทำให้ค่าเอนไซม์ในตับสูงขึ้น และเป็นโรคตับได้ 
  • ไม่ควรรับประทานมะรุมกับยาบางชนิด เช่น ยารักษาไทรอยด์ ยารักษาเบาหวาน ยาลดความดัน 
  • ในผู้ป่วยโรคเลือด การรับประทานมะรุมมากเกินไปอาจทำให้เม็ดเลือดแตกง่าย 

ใครที่ควรระวังการทานมะรุม 

มะรุมมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วมะรุมจะถือว่าปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่เมื่อบริโภคในปริมาณปานกลาง แต่ก็มีบางคนที่ควรใช้ความระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยง ข้อควรพิจารณาบางประการมีดังนี้:
  • สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร:
      • แม้ว่ามะรุมจะเป็นแหล่งสารอาหารที่อุดมไปด้วย แต่ก็มีหลักฐานที่จำกัดเกี่ยวกับความปลอดภัยของมะรุมในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร สตรีมีครรภ์และให้นมบุตรควรปรึกษาผู้ให้บริการด้านสุขภาพก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมะรุมหรือบริโภคในปริมาณมาก
  • คนที่ใช้ยา:
      • บุคคลที่รับประทานยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีภาวะสุขภาพอยู่แล้ว ควรปรึกษากับผู้ให้บริการด้านสุขภาพก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมะรุม มะรุมอาจมีปฏิกิริยากับยาบางชนิด รวมทั้งยารักษาโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และยาที่ทำให้เลือดบาง
  • ผู้ที่อยู่ระหว่างการผ่าตัด:
      • มะรุมอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและการแข็งตัวของเลือด หากคุณมีกำหนดเข้ารับการผ่าตัด ขอแนะนำให้แจ้งผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมะรุมที่คุณกำลังรับประทาน เนื่องจากอาจจำเป็นต้องปรับแผนการรักษาของคุณ
  • เด็ก:
      • แม้ว่ามะรุมมักถูกใช้เป็นอาหารในหลายวัฒนธรรม แต่ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมะรุมในเด็กยังไม่ได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวาง แนะนำให้ปรึกษากุมารแพทย์ก่อนให้อาหารเสริมมะรุมแก่เด็ก
  • บุคคลที่มีภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ:
      • มะรุมมีสารประกอบที่เรียกว่ากลูโคซิโนเลต ซึ่งสามารถรบกวนการทำงานของต่อมไทรอยด์ได้ บุคคลที่มีภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำควรระมัดระวังและปรึกษากับผู้ให้บริการด้านสุขภาพก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมะรุม
  • บุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับไต:
      • มะรุมมีสารที่อาจสะสมในร่างกายและอาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไต ผู้ที่มีปัญหาไตควรปรึกษากับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมะรุม
  • บุคคลที่มีความดันโลหิตต่ำ:
      • มีรายงานว่ามะรุมมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต บุคคลที่มีความดันโลหิตต่ำควรติดตามความดันโลหิตอย่างใกล้ชิดและปรึกษากับผู้ให้บริการด้านสุขภาพก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมะรุม
  • บุคคลที่เป็นโรคเบาหวาน:
    • มะรุมอาจลดระดับน้ำตาลในเลือด ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรติดตามระดับน้ำตาลในเลือดของตนอย่างใกล้ชิด และอาจจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนยารักษาโรคเบาหวานภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือแม้มะรุมมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ความปลอดภัยและประสิทธิภาพของมะรุมอาจแตกต่างกันไป ขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนที่จะนำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมะรุมมาใช้ในชีวิตประจำวันของคุณ ใช้อาหารเสริมในปริมาณที่พอเหมาะเสมอ และจำไว้ว่าอาหารที่สมดุลและหลากหลายเป็นรากฐานของโภชนาการที่ดี

นี่คือที่มาในบทความของเรา

  • https://www.medicalnewstoday.com/articles/319916
  • https://www.webmd.com/vitamins/ai/ingredientmono-1242/moringa
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด