สำหรับหลายๆคนที่คิดว่ามีแมลงคลานอยู่รอบๆหูก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าสยองมากแล้ว ถึงแม้สิ่งนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นบ่อยนักก็ตาม แต่การที่แมลงจะเข้าไปในหูแล้วติดอยู่ข้างในก็เป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ในบางครั้ง
มีวิธีเอาแมลงออกจากหูได้หลายวิธี แมลงสามารถคลานเข้าไปในหูได้ในช่วงเวลากลางคืนตอนที่คนนอนหลับอยู่ หรือบินเข้าไปในหูเมื่อไปใช้เวลาอยู่นอกบ้าน
หากมีแมลงเข้าหู แมลงอาจตายทันที แต่กระนั้นก็อาจมีโอกาสที่แมลงยังมีชีวิตอยู่และยังคงวนเวียนอยู่ข้างใน
ส่วนใหญ่แล้วการที่แมลงเข้าหูมักไม่ใช่สาเหตุของปัญหา แต่มักเกิดขึ้นจากภาวะแทรกซ้อน แม้จะไม่ต้องพูดถึงเรื่องของอันตราย แต่คนส่วนมากก็มักต้องการเอาแมลงออกจากหูพวกเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่อมีแมลงเข้าหูเราจะรู้ได้อย่างไร
ในบางรายอาจไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีแมลงเข้าไปในหูและอาจเพิ่งมาสังเกตเห็นอาการภายหลัง อาการทั่วไปส่วนใหญ่ของแมลงเข้าหูคือปวดและรู้สึกไม่สบายตัว หูภายนอกและแก้วหูด้านนอกมีเส้นประสาทสมองมากมายที่มีหน้าที่ถ่ายทอดข้อมูลไปสู่สมอง เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมเข้าหูเช่นแมลง ก็จะสร้างอาการระคายเคืองต่อเส้นประสาทเหล่านี้ แมลงอาจจะยังคงมีชีวิตรอดและอาจคลานหรือส่งเสียงหึ่งภายในหู ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้รู้สึกประหลาดในหู ขึ้นอยู่กับชนิดของแมลงที่เข้าไป บางชนิดอาจกัดหรือต่อยซ้ำเมื่อติดอยู่ด้านในหู ซึ่งทำให้เกิดอาการเจ็บปวดอย่างมาก แมลงเข้าหูอาการที่มีเพิ่มเติมคือ:- มีความรู้สึกหูตัน
- บวม
- มีเลือดไหลหรือน้ำเหลืองไหลออกจากหู
- สูญเสียการได้ยิน
วิธีนำแมลงออกจากหูอย่างปลอดภัย
สิ่งที่สำคัญคือต้องใจเย็นเมื่อพยายามนำแมลงออกจากหู ทั้งจากหูตัวเองหรือหูผู้อื่น ถึงแม้ว่าการมีแมลงอยู่ในหูจะไม่เป็นอยู่นานก็ตาม แต่ความวิตกกังวลจะทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่มากขึ้นได้ การนำเอาแมลงออกจากหู มีขั้นตอนดังต่อไปนี้:- เอียงศีรษะข้างที่แมลงเข้าหูและเขย่าศีรษะเบาๆเพื่อขับเอาแมลงออกไป อย่าตบที่หูเพราะอาจทำให้เกิดปัญหาอย่างอื่นเพิ่ม
- หากแมลงยังคงมีชีวิตอยู่ ให้ลองหยอดน้ำมันพืชปริมาณเล็กน้อยเข้าไปในหูเพื่อทำให้แมลงหายใจไม่ได้
- หากแมลงตายแล้วให้ลองล้างหูด้วยน้ำอุ่น
- หลีกเลี่ยงการใช้ไม้คีบ ไม้พันสำลีหรือวัตถใดๆเข้าไปในรูหู เพราะอาจทำให้ดันตัวแมลงให้ลึกเข้าไปข้างในแก้วหูได้ มีโอกาสนำไปสู่การบาดเจ็บและการสูญเสียการได้ยิน
ข้อควรระวัง
เมื่อพยายามจะนำเอาแมลงออกจากหูที่บ้าน สิ่งที่สำคัญคือต้องไม่ใช้วัตถุใดๆใส่เข้าในหู เช่นไม้แหย่หูหรือไม้สำลีพันก้านยิ่งเป็นการไปดันตัวแมลงให้เข้าลึกกว่าเดิม ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายได้ยาวนานกว่า จากการศึกษาพบว่ามีภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้มากกว่าที่เกิดขึ้นจากการพยายามเอาบางอย่างออกจากหู ความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนอาจทำให้เกิดรอยแผลหรือรอยช้ำที่ใบหูด้านนอกรวมถึงแก้วหูทะลุควรไปพบแพทย์เมื่อไร
เมื่อไม่สามารถนำเอาแมลงออกจากหูได้ด้วยตัวเองที่บ้าน จึงควรไปพบแพทย์ทันทีที่ทำได้เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน แมลงที่ถูกทิ้งไว้ในหูอาจยังคงต่อยหรือข่วนได้ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการอักเสบหรือแก้วหูทะลุ ความเสี่ยงก็คือเรื่องของการติดเชื้อ แพทย์จะดูเข้าไปในหูด้วยเครื่องมือที่เรียกว่ากล้องส่องตรวจหู หากแมลงยังคงมีชีวิตอยู่ แพทย์จะฆ่าแมลงด้วยน้ำแร่หรือน้ำมันมะกอกก่อนจะล้างหูด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ หากพบว่านำแมลงออกยาก แพทย์อาจลองคีบแมลงออกด้วยคีมอันเล็กๆ ในบางคนอาจจำเป็นต้องได้นับยาชาเฉพาะที่เพื่อให้นิ่งและใจเย็นในขณะที่แพทย์นำแมลงออกจากหู จากการศึกษาพบว่าในกรณีที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในหู มีเพียง 13.6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่จำเป็นต้องได้รับยาระงับความรู้สึกในขั้นตอนการนำสิ่งแปลกปลอมออกมา ประมาณ 86.4 เปอร์เซ็นต์แพทย์จะสามารถนำเอาสิ่งแปลกปลอมออกได้ด้วยการใช้ที่คีบ เครื่องดูด ไม้แหย่ ตะขอหรือหลอดฉีดยาสำหรับหูได้โดยใช้หรือไม่ใช่ยาระงับความรู้สึก อาการปวดและอาการอื่นๆมักบรรเทาลงอย่างรวดเร็วทันทีที่นำเอาแมลงออกไป หากโดนแมลงต่อยหรือมีรอยข่วนที่ส่งผลให้เกิดการอักเสบ อาจต้องใช้เวลา 2-3 วันกว่าอาการบวมจะหายไป ในบางรายอาขได้รับยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อการป้องกัน
เราไม่มีทางทำให้มั่นใจได้ว่าแมลงจะไม่มีทางเข้าไปในหูได้ แต่สามารถใช้ขั้นตอน 2-3 อย่างเพื่อลดความเสี่ยงได้ดังต่อไปนี้- สวมใส่อุปกรณ์กันแมลงเมื่อต้องใช้เวลาอยู่นอกเมือง
- ใส่ที่อุดหูเมื่อไปตั้งแค้มป์
- เก็บบ้านให้สะอาดอยู่เสมอเพื่อลดโอกาสการมีแมลงอยู่ภายในบ้าน
สรุป
แม้ว่าความคิดที่ว่าจะมีแมลงอยู่ในหูอาจทำให้ไม่สบายใจ แต่การรู้วิธีจัดการกับสถานการณ์อย่างใจเย็นและมีประสิทธิภาพถือเป็นสิ่งสำคัญ ด้วยการสงบสติอารมณ์ หลีกเลี่ยงการใช้วัตถุในการกำจัดแมลง เอียงศีรษะเพื่อกระตุ้นให้มันออกมา ขอความช่วยเหลือจากแพทย์หากจำเป็น และดำเนินมาตรการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงของเหตุการณ์ในอนาคต คุณสามารถนำทางประสบการณ์ที่ไม่มั่นคงนี้ได้อย่างมั่นใจ . โปรดจำไว้ว่าแนะนำให้ไปพบแพทย์โดยผู้เชี่ยวชาญเสมอหากคุณไม่สามารถกำจัดแมลงได้ด้วยตัวเองอย่างปลอดภัย หรือหากคุณรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่สบายตัว ด้วยวิธีการที่ถูกต้อง คุณสามารถจัดการกับแมลงในหูของคุณได้อย่างปลอดภัยและประสบความสำเร็จ และลดอันตรายหรือความรู้สึกไม่สบายที่อาจเกิดขึ้นได้หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ภาวะหนังหุ้มปลายองคชาตตีบ (Phimosis)
สาเหตุของผิวแห้งกร้านและวิธีบำรุงผิว
เนื้องอกต่อมหมวกไตฟีโอโครโมไซโตมา (Pheochromocytoma)
ภาวะปวดหลอน (Phantom Pain)
โรคปริทันต์ (Periodontitis) : อาการ สาเหตุ การรักษา
โรคอกบุ๋ม (Pectus Excavatum)
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น