วิธีตื่นเช้า (How to Wake Up Early) – คำแนะนำคำเตือน

เราอาจจะเคยได้ยินกันมาว่าคนที่ตื่นเช้ามีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จมากกว่า สำหรับหลายคน การตื่นเช้าอาจเป็นเรื่องที่ง่าย แต่สำหรับคนจำนวนมาก การตื่นเช้านั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายเลย การนอนตื่นสายนั้นทำได้ง่ายกว่า คุณอาจจะเคยลองพยายามตื่นเช้ามาหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ที่จริงแล้วการตื่นเช้านั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย และมีวิธีหลายวิธีที่สามารถช่วยให้คุณกลายเป็นคนที่ตื่นเช้าขึ้นได้ ในบทความนี้ เราจะมีวิธีการที่จะช่วยให้คุณตื่นเช้าขึ้นมาให้ได้ลองทำตามกัน

1.การตั้งนาฬิกาปลุก

สิ่งแรกที่เราคิดถึงเมื่อต้องการตื่นเช้าคือ การตั้งนาฬิกาปลุกก่อนที่จะเข้านอนในแต่ละคืน หลายคนอาจจะตั้งนาฬิกาปลุกหลาย ๆ ครั้งในโทรศัพท์ แล้วกดปุ่มเลื่อนออกไปเพื่อที่จะนอนต่อ เราจึงควรเลือกใช้นาฬิกาปลุกแบบนาฬิกาที่ปลุกได้เพียงแค่ครั้งเดียว นาฬิกาปลุกควรจะอยู่ในที่ ๆ เอื้อมไม่ถึง เพื่อที่จะทำให้เราต้องลุกไปปิดเสียงนาฬิกาปลุก และทำให้เราตื่นในที่สุด มีงานวิจัยพบว่า การที่เรากดเลื่อนนาฬิกาปลุกในตอนเช้า จะทำให้เรารู้สึกเหนื่อย และรู้สึกเหมือนนอนไม่พอในวันนั้น ๆ 

2.การตื่นเช้าขึ้นทีละน้อยในทุก ๆ วัน 

คุณอาจจะลองตื่นเช้าขึ้นจากเดิม 1 ชั่วโมง หรือ 2 ชั่วโมง แต่ไม่ได้ผลลัพท์ที่ดีมากนัก เมื่อเริ่มแรก คุณอาจลองตื่นเช้าขึ้น 10 – 15 นาทีในแต่ละวัน แล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลาขึ้นเรื่อย ๆ จนร่างกายเคยชินกับการตื่นเช้าในที่สุด 

3.ขอให้ผู้อื่นช่วยปลุก 

หากคุณอาศัยอยู่กับพ่อแม่ คนรัก หรือ เพื่อน การขอให้พวกเขาช่วยปลุกให้ตื่นในตอนเช้าในเวลาที่ต้องการก็เป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง

4.ไม่นอนดึก

ผู้ใหญ่ควรนอนวันละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การอดนอน หรือนอนน้อยอาจนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพต่าง ๆ มากมาย ปัจจุบัน การนอนดึกเป็นเหมือนเรื่องปกติที่มักจะเกิดขึ้นกับคนส่วนมาก เนื่องจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ทำให้เรานอนดึกกว่าที่ควรจะเป็น หากคุณต้องการที่จะตื่นเช้า การนอนหลับอย่างเพียงพอนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ควรเข้านอนให้ไวขึ้น อย่างน้อยไม่เกิน 5 ทุ่ม 

How to Wake Up Early

5.ตื่นนอน และเข้านอนเวลาเดิมทุกวัน 

การเข้านอนหลับ และตื่นนอนเป็นเวลาเดิมทุกวันถึงแม้ว่าจะเป็นวันหยุดนั้นจะทำให้เราสามารถตื่นเช้าเป็นประจำทุกวันได้ การทำแบบนี้ จะทำให้ร่างกายเคยชินกับเวลาตื่น และเวลานอน ซึ่งจะทำให้สามารถตื่นนอนโดยอัตโนมัติในตอนเช้าได้ 

6.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในช่วงบ่าย

การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในตอนเช้าอาจช่วยให้เรารู้สึกสดชื่น กระปี้กระเปร่า และพร้อมที่จะเริ่มต้นวันใหม่ได้ดี แต่การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในช่วงบ่ายแก่ ๆ อาจมีผลกระทบต่อการนอนหลับในตอนกลางคืน เพราะมันอาจทำให้เรารู้สึกไม่ง่วงนอน นอนหลับไม่สนิท และอาจส่งผลต่อการตื่นนอนในตอนเช้าได้ 

7.มีเหตุผลที่ทำให้ต้องตื่นเช้า

แต่ละคนอาจมีเหตุผลที่ต้องการตื่นเช้าแตกต่างกันออกไป บางคนอาจต้องการตื่นเช้าเพื่อที่จะได้มีเวลาทำสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น บางคนอาจอยากตื่นเช้าเพื่อที่จะออกไปทำงานได้ไวขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดในช่วงเวลาเร่งด่วน บางคนอาจอยากตื่นเช้าขึ้นเพื่อออกกำลังกาย ทานอาหารเช้าให้ทัน หรือเหตุผลอื่น ๆ การหาเหตุผลที่ทำให้คุณตื่นเช้าในวันถัดไปเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้คุณลุกจากเตียงมากขึ้น ฉะนั้น ก่อนที่จะเข้านอน คุณอาจลองเขียน หรือนึกถึงสิ่งที่ต้องทำในวันถัดไป ซึ่งนั่นจะทำให้การตื่นนอนตอนเช้าเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น 

8.ให้ห้องมีแสงสว่างเล็กน้อย

การนอนในห้องที่แสงสามารถส่องถึงได้ในตอนเช้าจะช่วยให้เราสามารถตื่นเช้าได้ การเปิดผ้าม่านในตอนเช้าหลังจากตื่นนอนจะช่วยให้ร่างกายตื่นตัวได้เร็วขึ้น

9.จดบันทึก

อีกวิธีหนึ่งที่อาจจะช่วยให้เราทราบถึงสาเหตุที่ทำให้เราไม่สามารถตื่นเช้าได้อาจทำให้เราสามารถแก้ปัญหาการนอนตื่นสายได้ เช่น สังเกตว่าอะไรเป็นสาเหตุของการนอนดึก ซึ่งทำให้เราตื่นเช้าไม่ได้ แล้วพยายามหลีกเลี่ยงการทำสิ่งนั้น อาจรวมไปถึงเครื่องดื่ม หรืออาหารที่รับประทานในช่วงเย็นด้วย 

ทำอย่างไรให้สดชื่นหลังตื่นนอน

บรรยากาศเชิงบวกสำหรับวันข้างหน้า เคล็ดลับเพื่อความสดชื่นหลังตื่นนอนมีดังนี้: ดื่มน้ำ: 
  • เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการดื่มน้ำหนึ่งแก้ว หลังจากนอนหลับทั้งคืน ร่างกายของคุณจะขาดน้ำ และน้ำจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญและให้ความชุ่มชื้นแก่ระบบของคุณ
เปิดผ้าม่านหรือมู่ลี่: 
  • ให้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องของคุณด้วยการเปิดผ้าม่านหรือมู่ลี่ การเปิดรับแสงธรรมชาติช่วยควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจและส่งสัญญาณไปยังร่างกายของคุณว่าถึงเวลาตื่นแล้ว
ยืดกล้ามเนื้อหรือออกกำลังกาย: 
  • ยืดกล้ามเนื้อเบาๆ หรือออกกำลังกายสั้นๆ ซึ่งช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ความยืดหยุ่น และระดับพลังงานโดยรวม
ล้างหน้า: 
  • สาดใบหน้าด้วยน้ำเย็นเพื่อช่วยปลุกผิวและลดอาการบวม คุณสามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดผิวหน้าสูตรอ่อนโยนเพื่อขจัดน้ำมันและฟื้นฟูผิว
สุขอนามัยช่องปาก: 
  • แปรงฟันเพื่อทำให้ลมหายใจสดชื่นและส่งเสริมสุขอนามัยช่องปากที่ดี การใช้ยาสีฟันรสมิ้นต์จะทำให้มีรสชาติที่สดชื่น
อาบน้ำ: 
  • การอาบน้ำตอนเช้าสามารถทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าได้ ใช้น้ำอุ่นและน้ำเย็นผสมกันเพื่อปลุกประสาทสัมผัสของคุณ คุณยังสามารถใช้เจลอาบน้ำหรือสบู่ที่ให้พลังงานซึ่งมีกลิ่นหอมสดชื่นได้
การหายใจลึกๆ หรือการทำสมาธิ: 
  • ใช้เวลาสักครู่เพื่อหายใจลึกๆ หรือการทำสมาธิ สิ่งนี้สามารถช่วยสงบจิตใจ ลดความเครียด และนำสมาธิไปสู่วันข้างหน้าได้
สวมเสื้อผ้าที่สบาย: 
  • เลือกเสื้อผ้าที่สบายและระบายอากาศได้ดีในแต่ละวัน ความรู้สึกสบายในชุดที่สวมใส่สามารถช่วยให้มีทัศนคติเชิงบวกได้
จัดเตียงของคุณ: 
  • จัดเตียงเพื่อสร้างความรู้สึกเป็นระเบียบและความสำเร็จ พื้นที่ที่เป็นระเบียบสามารถส่งผลเชิงบวกต่อทัศนคติของคุณและช่วยให้คุณเริ่มต้นวันใหม่ด้วยพื้นที่ที่ชัดเจน
วางแผนวันของคุณ: 
  • ใช้เวลาสักครู่เพื่อทบทวนตารางเวลาของคุณและตั้งเป้าหมายสำหรับวันนั้น วิธีนี้สามารถช่วยให้คุณจัดลำดับความสำคัญของงานและมุ่งสู่วันใหม่อย่างมีสมาธิ
ฟังเพลงปลุกใจ: 
  • เล่นเพลงจังหวะโปรดหรือเพลงที่สงบเงียบขณะเตรียมตัว ดนตรีมีผลกระทบอย่างมากต่ออารมณ์และระดับพลังงานของคุณ
เพลิดเพลินกับอาหารเช้าเพื่อสุขภาพ: 
  • เติมพลังให้ร่างกายของคุณด้วยอาหารเช้าที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพื่อให้พลังงานสำหรับวันใหม่ รวมโปรตีน ไฟเบอร์ และไขมันที่ดีต่อสุขภาพเข้าด้วยกัน
แสดงความขอบคุณ: 
  • ใช้เวลาสักครู่เพื่อไตร่ตรองถึงสิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณ ความคิดเชิงบวกสามารถกำหนดทัศนคติเชิงบวกสำหรับวันนั้นได้
หลีกเลี่ยงหน้าจอตั้งแต่แรก: 
  • พิจารณาชะลอการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในช่วงแรกของกิจวัตรตอนเช้าของคุณ วิธีนี้ช่วยให้คุณมุ่งเน้นไปที่การดูแลตนเองและการมีสติก่อนที่จะถูกโจมตีด้วยการแจ้งเตือนและข้อมูล
การสร้างกิจวัตรยามเช้าที่เป็นส่วนตัวสามารถช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น มีพลัง และพร้อมที่จะรับมือกับวันข้างหน้า ปรับคำแนะนำเหล่านี้ตามความต้องการและกำหนดเวลาของคุณเพื่อสร้างกิจวัตรที่เหมาะกับคุณที่สุด
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด