ในการตัดเล็บให้สวย อุปกรณ์สองอย่างที่ต้องเตรียมพร้อม คือ
- กรรไกรตัดเล็บหรือกรรไกรทำเล็บ
- ตะไบเล็บ
การตัดเล็บด้วยกรรไกรตัดเล็บ
กรรไกรตัดเล็บถูกออกแบบมาให้ง่ายต่อการตกแต่งเล็บ แต่มันก็อาจทำให้เล็บเสียหายได้เช่นกัน กรรไกรตัดเล็บนั้นบังคับยากและยากต่อการตัดเล็บ แต่ง่ายเมื่อใช้กับมือข้างที่ไม่ถนัดมากกว่ากรรไกร นี่คือวิธีตัดเล็บด้วยกรรไกรตัดเล็บ:- ต้องมั่นใจว่าเล็บทั้งหมดยาวเท่ากัน ใช้เล็บที่สั้นที่สุดเป็นตัววัดความการโตของเล็บ หรือว่าส่วนที่มีสีขาว เพื่อเว้นไว้ตอนที่ตัดเล็บทั้งหมด
- ตัดด้านข้างหนึ่งของเล็บแล้วตัดอีกข้างหนึ่ง
- สุดท้ายตัดตรงกลางของเล็บ ถ้าตัดไปทีเดียว จะทำให้เล็บแตกและอาจจะทำให้เกิดแรงดันบนแผ่นเล็บ
ตัดเล็บด้วยกรรไกร
กรรไกรไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน ใบมีดของที่ตกแต่งเล็บหรือกรรไกรตัดนั้นปลายที่มีรูปร่างโค้งทำให้ง่ายต่อการตกแต่งทรงเล็บ ตัดเล็บด้วยกรรไกรนี้ให้เริ่มตัดจากด้านข้าง ทำให้เกิดบาดแผลจากการตัดเล็บน้อยกว่ากรรไกรตัดเล็บ ง่ายต่อการควบคุม แม่นยำ เรียบเนียน แต่จะยากเวลาที่ใช้กับมือข้างที่ไม่ถนัด เมื่อใช้กรรไกร ใบมีดจะไม่ได้มีช่องห่างระหว่างกัน เวลาใช้ให้ใบมีดสองอันขัดกัน วิธีการตัดเล็บด้วยกรรไกรมีดังนี้:- ให้ด้านโค้งของใบมีดอยู่ที่หน้าเล็บและตัดเบา ๆ จากด้านใดด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง ตัดให้เรียบ
- ทำให้มั่นใจว่าเวลาที่ตัดเสร็จแล้วเล็บที่ตัดออกไปแล้ว ไม่ต้องฉีกหรือดึงออก
การตัดเล็บโดยไม่ใช้กรรไกรตัดเล็บ
คุณสามารถตัดเล็บได้ด้วยการใช้ตะไบเพื่อความเรียบเนียนและแต่งทรงเล็บ สามารถใช้ตัดเล็บได้ในเวลาที่ไม่มีอุปกรณ์ตัดเล็บ เว้นแต่เป็นการตัดเล็บที่ยาวมาก ช่างทำเล็บมืออาชีพส่วนมากจะชอบใช้ตะไบเพื่อตะไบเล็บออกมากกว่าการใช้อุปกรณ์ตัดเคล็ดลับการใช้ที่ตัดเล็บ
นี่คือเคล็ดลับที่ดีที่สุดเมื่อใช้อุปกรณ์ตัดแต่งเล็บ- ใช้อุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อการตัดเล็บมือโดยเฉพาะ
- ห้ามใช้อุปกรณ์ที่ใช้ตัดเล็บเท้าตัดเล็บมือ
- เลือกอุปกรณ์ที่คุณภาพดี อาจจะมีราคาสูงแต่จะลดการเกิดการฉีกของเล็บมากกว่าอุปกรณ์ที่ราคาไม่สูง
- ทำความสะอาดอุปกรณ์เป็นประจำด้วยการเช็ดกับน้ำยาฆ่าเชื้อและน้ำอุ่น เป็นวิธีการลดอัตราการติดเชื้อ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกับคนหลายคน
- เก็บเศษเล็บที่ตัดแล้วทิ้งลงในถังขยะ บางคนก็ตัดเล็บในอ่างอาบน้ำง่ายต่อการเก็บเล็บที่ตัดแล้ว
เล็บมือควรยาวเท่าไหร่
ความยาวของเล็บมือมีผลต่อภาพลักษณ์ของบุคคล แต่ก็มีประโยชน์ที่จะทำให้เล็บสั้นไว้ ข้อเปรียบเทียบระหว่างเล็บมือที่ยาวและสั้น มีดังนี้:- ถูกทำลายและแตกหักน้อยกว่า
- ลดที่อยู่ของสิ่งสกปรกหรือแบคทีเรียที่อาจจะก่อให้เกิดการติดเชื้อ
- ง่ายต่อการดูแลรักษา
- ง่ายต่อการพิมพ์และหยิบสิ่งของชิ้นเล็ก ๆ
เมื่อไหร่ที่ควรตัดเล็บ
วิธีการตัดเล็บขึ้นอยู่กับเล็บไม่ว่าเล็บนั้นจะเปียกหรือแห้งเมื่อตอนที่ตัด ถ้าตัดหรือตกแต่งเล็บควรตัดเมื่อตอนที่เล็บเปียก ถ้าจะเติมเล็บควรทำตอนเล็บแห้งเล็บเปียก
เล็บนิ่มมีโอกาสที่จะเปราะและแตกน้อยน้อยกว่าเมื่อตัดเล็บ เมื่อเล็บดูดซึมน้ำและทำให้เล็บนิ่มที่สุดเวลาที่เปียกน้ำ หลังจากอาบน้ำเป็นเวลาที่ดีในหารตัดเล็บ แต่การแช่เล็บในน้ำเปล่าหรือน้ำสบู่สักพักก็เป็นวิธีที่ดี ต้องเช็ดน้ำส่วนเกินออกที่ก่อนที่ตัดแต่งเล็บเล็บแห้ง
ถ้าจะตัดแต่งเล็บด้วยกับตะไบเล็บเล็บควรแห้ง เล็บนิ่มและเปียกอาจจะทำให้เล็บที่ได้อยู่ในรูปทรงที่ไม่ต้องการ เล็บจะง่ายต่อตะไบเล็บเมื่อเล็บนั้นแห้งเราควรตัดเล็บบ่อยแค่ไหน
โดยทั่วไปเล็บมือจะยาวขึ้นประมาณ 2.5 มิลลิเมตรต่อเดือน ถ้าหากเกิดการบาดเจ็บขึ้นที่เล็บ แล้วเล็บหลุดออกจะใช้เวลา 6 เดือนในการยาวขึ้นใหม่ ถ้าต้องการไว้เล็บให้มีความยาวคงที่ ตัดเล็บ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ถ้าต้องการไว้เล็บให้ยาวก็ตัดให้น้อยลง ต้องเอาเล็บที่เสียหรือเล็บที่ฉีกออกข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเล็บ
เล็บมีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ และสามารถให้ข้อมูลอันมีคุณค่าเกี่ยวกับสุขภาพและรูปแบบการใช้ชีวิตของคุณได้ ข้อเท็จจริงสำคัญบางประการเกี่ยวกับเล็บมีดังนี้:- อัตราการเจริญเติบโต : เล็บโดยทั่วไปจะเติบโตในอัตราเฉลี่ยประมาณ 3 มิลลิเมตร (0.1 นิ้ว) ต่อเดือน อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ พันธุกรรม และสุขภาพโดยรวม
- ส่วนประกอบ : เล็บมือประกอบด้วยโปรตีนที่เรียกว่าเคราตินเป็นหลัก เคราตินยังพบได้ในเส้นผมและชั้นนอกของผิวหนัง
- โครงสร้าง : ส่วนที่มองเห็นได้ของเล็บมือเรียกว่าแผ่นเล็บ รากเล็บซึ่งอยู่ใต้หนังกำพร้าคือบริเวณที่เกิดเซลล์เล็บใหม่ เมื่อเซลล์ใหม่เติบโตขึ้น เซลล์เก่าจะถูกผลักไปข้างหน้า แข็งตัว และกลายเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นเล็บ
- สีและความโปร่งใส : เล็บที่มีสุขภาพดีมักมีสีชมพู โดยจะมีบริเวณรูปพระจันทร์เสี้ยวสีขาวใกล้กับโคนที่เรียกว่าลูนูลา เล็บมักจะโปร่งแสงเล็กน้อย ทำให้พื้นเล็บมีสีชมพูโผล่ออกมา
- รูปแบบการเจริญเติบโตของเล็บ : เล็บบนนิ้วแต่ละนิ้วอาจยาวได้ในอัตราที่แตกต่างกัน และบางคนอาจมีเล็บที่ยาวเร็วกว่าคนอื่นๆ นิ้วกลางมักจะมีเล็บที่โตเร็วที่สุด
- สุขภาพเล็บ : สุขภาพเล็บสามารถสะท้อนถึงสุขภาพโดยรวมได้ การเปลี่ยนแปลงสี พื้นผิว หรือความหนาของเล็บอาจบ่งบอกถึงสภาวะทางการแพทย์หรือภาวะขาดสารอาหาร
- การดูแลเล็บ : การดูแลเล็บที่เหมาะสมรวมถึงการรักษาความสะอาดและตัดแต่งเล็บ แต่หลีกเลี่ยงการตัดเล็บให้สั้นเกินไปหรือดันหนังกำพร้ามากเกินไป เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
- ความผิดปกติของเล็บ : ความผิดปกติของเล็บต่างๆ อาจส่งผลต่อรูปลักษณ์และสุขภาพของเล็บ รวมถึงการติดเชื้อรา เล็บคุด เล็บขบ และโรคสะเก็ดเงินที่เล็บ หากคุณสงสัยว่าเป็นโรคเล็บ ให้ปรึกษาผู้ให้บริการด้านสุขภาพหรือแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษา
- ความชุ่มชื้น : เล็บอาจเปราะได้หากแห้งเกินไป การทามอยเจอร์ไรเซอร์บนเล็บและหนังกำพร้าสามารถช่วยให้เล็บและหนังกำพร้าชุ่มชื้นได้
- โภชนาการ : อาหารที่สมดุลด้วยสารอาหารที่เพียงพอ โดยเฉพาะโปรตีน ไบโอติน และวิตามิน เช่น A และ C เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของเล็บที่แข็งแรง
- การป้องกัน : เล็บช่วยปกป้องปลายนิ้วที่บอบบาง นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือสำหรับงานต่างๆ เช่น หยิบของเล็กๆ ได้อีกด้วย
- การกัดเล็บ : การกัดเล็บสามารถทำลายเล็บและผิวหนังโดยรอบ ทำให้เกิดการติดเชื้อและปัญหาอื่นๆ การทำลายนิสัยนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพเล็บ
- การเจริญเติบโตของเล็บหลังการบาดเจ็บ : หากคุณทำให้เล็บได้รับบาดเจ็บ อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าเล็บจะงอกกลับมาสมบูรณ์ อัตราการงอกใหม่อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการบาดเจ็บ
- ลายเล็บและเทรนด์ : หลายๆ คนชอบตกแต่งเล็บด้วยยาทาเล็บ เพ้นท์เล็บ หรือการต่อเล็บเทียม เช่น เล็บอะคริลิกหรือเจล
- การป้องกันรังสี UV : เล็บมือจะช่วยปกป้องผิวหนังที่อยู่ด้านล่างจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่เป็นอันตรายจากแสงแดด
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น