เราสามารถตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจได้โดยจับชีพจรและนับจำนวนครั้งที่หัวใจเต้นใน 1 นาที
อัตราการเต้นของหัวใจมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับว่าคุณกำลังทำสิ่งใดอยู่ ยกตัวอย่างเช่น หัวใจอาจเต้นช้าหากคุณกำลังนอนหลับและอาจมีอัตราที่เร็วขึ้นเมื่อคุณออกกำลังกาย
เพื่อให้ได้อัตราการเต้นของหัวใจในขณะพักผ่อน คุณมีความจำเป็นต้องนั่งพักนิ่งๆอย่างน้อย 5 นาทีก่อนจะตรวจเช็คชีพจรของตัวเอง
วิธีการจับชีพจรด้วยตนเอง
คุณสามารถจับชีพจรตัวเองได้ที่บริเวณข้อมือหรือที่คอ การหาชีพจรที่บริเวณข้อมือ:- ยื่นมือข้างใดข้างหนึ่งขึ้นโดยหันฝ่ามือขึ้นด้านบน
- วางนิ้วชี้และนิ้วกลางลงมืออีกข้างตรงบริเวณข้อมือ โดยเอานิ้วหัวแม่มือไว้ที่ด้านล่าง-เราจะไม่ใช้นิ้วหัวแม่มือเป็นตัวจับชีพจร
- กดเบาๆที่ข้อมือจนกระทั่งคุณรู้สึกถึงชีพจรที่เต้นอยู่่-หากคุณหาไม่พบ ลองพยายามกดให้แรงขึ้นอีกนิดหรือเคลื่อนนิ้วหาไปในบริเวณรอบๆ
- กดนิ้วชี้และนิ้วกลางลงที่บริเวณด้านข้างของลำคอ ช่วงใต้กรามลงมาและอยู่ข้างๆหลอดลม-ไม่ใช่นิ้วหัวแม่มือ
- กดลงเบาๆจนรู้สึกถึงชีพจร-หากหาไม่พบให้ลองกดแรงขึ้นอีกนิดหรือเคลื่อนนิ้วไปรอบๆ
การตรวจเช็คการเต้นของชีพจร
เมื่อคุณจับเจอการเต้นของชีพจรแล้ว ทั้งสองรูปแบบ:- ให้นับจำนวนการเต้นที่คุณรู้สึกเป็นเวลา 60 วินาที
- ให้นับจำนวนการเต้นเป็นเวลา 30 วินาที จากนั้นนำมาคูณด้วย 2
อัตราการเต้นของหัวใจปกติคืออะไร
อัตราการเต้นของผู้ใหญ่ในขณะพักควรอยู่ระหว่าง 60-100 bpm แต่สำหรับคนที่มีร่างกายแข็งแรงมากๆ อัตราการเต้นของหัวใจขณะพักมักจะอัตราที่ต่ำ ยกตัวอย่างเช่น พวกนักกีฬาอาจมีอัตราการเต้นของหัวใจในขณะพักอยู่ระหว่าง 40-60 bpm หรือต่ำกว่านั้นได้ ยังถือว่าชีพจรปกติอยู่ ควรพบแพทย์หากตรวจเช็คแล้วคุณคิดว่าคุณมีอัตราการเต้นของหัวใจอย่างต่อเนื่องมากเกินกว่า 120 bpm หรือต่ำกว่า 40 bpm ถึงแม้จะดูเป็นปกติสำหรับคุณก็ตามการออกกำลังกายและชีพจรของคุณ
หากคุณตรวจเช็คชีพจรของคุณในช่วงระหว่างการออกกำลังกายหรือหลังการออกกำลังกายทันที ซึ่งอาจใช้เครื่องวัดจากโรงยิม คุณจะได้ทราบอัตราการเต้นของหัวใจที่มีประโยชน์เพื่อเก็บเป็นบันทึกไว้เพื่อทราบอัตราการเต้นทั้งแบบขณะพักและขณะออกกำลังกาย การออกกำลังแบบแอโรบิค เช่นการเดิน วิ่งและว่ายน้ำเป็นรูปแบบการออกกำลังกายที่ดีเพราะสามารถช่วยทำให้อัตราการหายใจและหัวใจดีมากขึ้นเมื่อสัญญาณหัวใจเต้นผิดปกติสื่อถึงอะไร
ชีพจรที่ผิดปกติหรือผิดปกติอาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางการแพทย์ที่ซ่อนอยู่ หากคุณหรือคนที่คุณรู้จักประสบกับสัญญาณที่เป็นอันตรายของชีพจรที่ผิดปกติ สิ่งสำคัญคือต้องไปพบแพทย์ทันที:- หัวใจเต้นเร็ว : หัวใจเต้นเร็วเป็นภาวะที่มีอัตราการเต้นของหัวใจเร็วเกินไป (มักกำหนดเป็นอัตราการเต้นของหัวใจขณะพักมากกว่า 100 ครั้งต่อนาที) อาการต่างๆ ได้แก่ ใจสั่น เวียนศีรษะ หายใจลำบาก เจ็บหน้าอก และเป็นลม อาจเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น ภาวะหัวใจ มีไข้ โรคโลหิตจาง หรือการใช้ยาบางชนิด
- หัวใจเต้นช้ากว่าปกติ : หัวใจเต้นช้ากว่าปกติ เป็นภาวะที่อัตราการเต้นของหัวใจช้าเกินไป (มักกำหนดเป็นอัตราการเต้นของหัวใจขณะพักต่ำกว่า 60 ครั้งต่อนาทีในผู้ใหญ่) อาการต่างๆ ได้แก่ วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด เป็นลม เหนื่อยล้า และหายใจไม่สะดวก หัวใจเต้นช้าอาจเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าของหัวใจหรือการใช้ยาบางชนิด
- ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพริ้ว : ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพริ้ว คือภาวะหัวใจเต้นผิดปกติและมักจะเต้นเร็วซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคหลอดเลือดสมอง หัวใจล้มเหลว และภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ อาการอาจรวมถึงใจสั่น ความรู้สึกไม่สบายหน้าอก เวียนศีรษะ และเหนื่อยล้า
- ภาวะหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ : ภาวะหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ เป็นการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติเป็นพิเศษซึ่งอาจรู้สึกเหมือนกระพือปีกหรือเต้นแรงที่หน้าอก แม้ว่า ภาวะหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ จะพบได้ทั่วไปและมักไม่เป็นอันตราย แต่ก็อาจเป็นสัญญาณของภาวะหัวใจที่ซ่อนอยู่ได้ในบางกรณี
- ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่ห้องล่าง : ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะที่ห้องล่างเป็นโรคจังหวะการเต้นของหัวใจที่รวดเร็วและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ใจสั่น เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก และหมดสติ
- ภาวะหัวใจห้องล่างเต้นแผ่วระรัว : ภาวะหัวใจห้องล่างเต้นแผ่วระรัว เป็นโรคจังหวะการเต้นของหัวใจที่วุ่นวายและเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งทำให้หัวใจสั่นแทนที่จะสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์และอาจนำไปสู่ภาวะหัวใจหยุดเต้นกะทันหันได้
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.nhs.uk/common-health-questions/accidents-first-aid-and-treatments/how-do-i-check-my-pulse/
- https://www.healthline.com/health/heart-disease/ideal-heart-rate
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น