สำหรับบางคน นกพิราบถือเป็นสัตว์ที่ช่วยสร้างสีสันในชีวิต เพียงแค่มีเศษขนมปังไม่กี่ชิ้น และสำหรับบางคน นกพิราบก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า “หนูที่มีปีก” เพราะเป็นพาหะของเชื้อโรคที่เป็นอันตราย คำถามคือนกพิราบสามารถแพร่เชื้อโรคได้จริง หรือเป็นเพียงสิ่งที่เล่าต่อๆกันมาเท่านั้น?
แต่ก็น่าเสียดายที่คำบอกเล่าเหล่านั้นเป็นความจริง นกพิราบมีเชื้อโรคจำนวนมากซึ่งสามารถแพร่กระจายได้มากกว่า 60 สายพันธุ์ แต่มีน้อยมากที่จะเป็นอันตรายต่อมนุษย์
นกพิราบสามารถแพร่เชื้อโรคได้อย่างไร
นกพิราบสามารถแพร่เชื้อโรคผ่านขี้นกพิราบ แม้ว่าเราทุกคนรู้ดีว่าไม่ควรสัมผัสขี้นกพิราบด้วยมือเปล่า แต่ก็มีสิ่งที่น่ากังวลกว่านั้น ขี้นกพิราบที่มีเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสมักถูกทิ้งไว้ตามถนน ขอบหน้าต่างและรถยนต์ และเมื่อแห้งแล้วจะกลายเป็นผง ซึ่งง่ายต่อการแพร่กระจายทางอากาศและสูดดมเข้าไป ซึ่งการสูดดมนี้เป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้เชื้อโรคสามารถแพร่กระจายสู่คนได้โรคที่พบบ่อยที่สุดจากนกพิราบแพร่เชื้อ หรือนกพิราบเป็นพาหะ โดยสามารถแพร่สู่คน ได้แก่ :
- เชื้ออีโคไล (E. coli.) สามารถแพร่ได้โดย เมื่อมูลของนกพิราบตกลงในแหล่งน้ำหรืออาหาร จากนั้นมนุษย์ก็บริโภคเข้าไป แต่โดยทั่วไปเราสามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการล้างอาหาร ทำให้สะอาดก่อนนำมาปรุงหรือรับประทาน โดยเชื้อนี้ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ได้แก่ คลื่นไส้ มีไข้ และเป็นตะคริว
- เชื้อไข้สมองอักเสบเซนต์หลุยส์ (St. Louis encephalitis) โดยเชื้อนี้สามารถแพร่โดยมียุงเป็นพาหะ ดูดเลือดของนกพิราบที่มีเชื้อ ซึ่งอาการของโรคทำให้เกิดการอักเสบของระบบประสาทและเป็นอันตรายกับคนทุกวัย บางรายอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ได้แก่ ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป อาการต่าง ๆ ได้แก่ ง่วงนอน ปวดศีรษะ และมีไข้
- เชื้อฮิสโตพลาสโมซิส (Histoplasmosis) ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ ซึ่งเกิดจากเชื้อราที่เติบโตในขี้นกพิราบ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
- เชื้อแคนดิไดอะซิส (Candidiasis) เชื้อนี้สามารถแพร่ผ่านทางเดินหายใจ สาเหตุเกิดจากเชื้อราที่พบในขี้นกพิราบ โดยบริเวณที่จะได้รับผลกระทบได้แก่ ผิวหนัง ปาก ระบบทางเดินหายใจ ลำไส้ และทางเดินปัสสาวะโดยเฉพาะในผู้หญิง
- เชื้อซาลโมเนลโลสิส (Salmonellosis) โรคนี้มักถูกเรียกว่า “โรคอาหารเป็นพิษ” สามารถแพร่กระจายผ่านขี้นกพิราบที่ติดเชื้อ เมื่อแห้งจะกลายเป็นฝุ่นสามารถปนเปื้อนในอาหารได้
การป้องกันนกพิราบ
นอกจากจะเป็นพาหะนำโรคแล้ว นกพิราบยังสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินได้อีกด้วย เช่น ฝูงนกสร้างความเสียหายต่ออาคาร โดยรังของพวกมันอาจรบกวนการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องปรับอากาศได้ นอกจากนี้ขี้นกพิราบไม่เพียงแต่ไม่ถูกสุขอนามัยเท่านั้น ยังสามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการลื่นล้มเมื่อเหยียบ เพื่อลดความเสี่ยงของโรค และช่วยให้ทรัพย์สินปลอดภัยจากนกพิราบ ควรทำความสะอาดขี้นกพิราบทันทีที่พบโดยเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ควรใส่ชุดป้องกันที่เป็นรูปแบบใช้แล้วทิ้ง สวมถุงคลุมรองเท้า หน้ากากกรองอากาศ และถุงมือคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับนกพิราบ
- ทำไมจึงมีนกพิราบมากมายในเมือง
-
-
- นกพิราบปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในเมืองได้ดี โดยพบแหล่งอาหารมากมาย ที่อาศัย และที่พักพิงในเมืองต่างๆ กิจกรรมของมนุษย์ เช่น การมีเศษอาหารและอาคารที่เหมาะสมสำหรับทำรัง มีส่วนทำให้ประชากรพวกมันเจริญรุ่งเรือง
-
- นกพิราบนำทางและหาทางกลับบ้านได้อย่างไร
-
-
- นกพิราบมีสัญชาตญาณในการกลับบ้านที่น่าทึ่ง ช่วยให้พวกมันสามารถเดินทางในระยะทางไกลและหาทางกลับไปยังห้องใต้หลังคาบ้านได้ กลไกเบื้องหลังความสามารถนี้ยังไม่เป็นที่เข้าใจแน่ชัด แต่น่าจะเกี่ยวข้องกับการผสมผสานระหว่างการมองเห็น แม่เหล็ก และการดมกลิ่น
-
- ทำไมนกพิราบถึงส่ายหัว
-
-
- นกพิราบส่ายหัวด้วยเหตุผลหลายประการ รวมถึงการมองเห็นที่ดีขึ้นและการรับรู้เชิงลึก การเคลื่อนไหวของศีรษะช่วยให้การมองเห็นมั่นคง ช่วยให้โฟกัสไปที่จุดเฉพาะและตรวจจับการเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
-
- นกพิราบสามารถจำมนุษย์แต่ละคนได้หรือไม่
-
-
- การวิจัยชี้ให้เห็นว่านกพิราบมีความสามารถในการจดจำบุคคลได้ พวกมันสามารถจดจำใบหน้าของมนุษย์ได้และอาจปรับพฤติกรรมตามปฏิสัมพันธ์ในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากปฏิสัมพันธ์เหล่านั้นเกี่ยวข้องกับการให้อาหาร
-
- นกพิราบผสมพันธุ์ตลอดชีวิตหรือไม่
-
-
- นกพิราบเป็นที่รู้จักจากการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและมีคู่ตัวเดียว คู่ผสมพันธุ์มักจะอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตและทำงานร่วมกันในงานต่างๆ เช่น สร้างรังและดูแลลูกนก
-
- นกพิราบถือเป็นศัตรูพืชหรือไม่
-
-
- นกพิราบถือเป็นสัตว์รบกวนในเขตเมืองบางแห่ง เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับมูลของพวกมัน ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับอาคารและพื้นที่สาธารณะได้ อย่างไรก็ตาม พวกเขายังให้ความสำคัญกับความสามารถในการปรับตัว พฤติกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และบทบาททางประวัติศาสตร์อีกด้วย
-
- อายุขัยของนกพิราบอยู่ที่เท่าไหร่
-
-
- อายุขัยของนกพิราบแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สายพันธุ์และสภาพแวดล้อม ในป่า นกพิราบโดยทั่วไปมีอายุประมาณ 3 ถึง 5 ปี ในขณะที่นกพิราบที่ถูกกักขังจะมีอายุยืนยาวกว่า ซึ่งมักมีอายุเกิน 10 ปี
-
- นกพิราบสามารถเป็นพาหะนำโรคได้หรือไม่
-
- แม้ว่านกพิราบสามารถเป็นพาหะนำโรคบางชนิดได้ แต่โดยทั่วไปแล้วความเสี่ยงในการแพร่เชื้อสู่มนุษย์ยังต่ำ อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสมูลนกพิราบโดยตรง และรักษาสุขอนามัยที่ดีเมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับมูลนกพิราบ
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.bphc.org/whatwedo/infectious-diseases/Infectious-Diseases-A-to-Z/Pages/Pigeons.aspx
- https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/15066331/
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น