Dicloxacillin คืออะไร
Dicloxacillin คือ ยาที่รักษาโรคติดเชื้อที่มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย ไดคลอกซาซิลลินคือยาในกลุ่มยาเพนิซิลลิน ให้ผลโดยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ยาปฏิชวนะเช่น ยาไดคลอกซาซิลลินจะใช้ไม่ได้ผลกับโรคหวัด หรือการติดเชื้อไวรัสอื่นๆ การใช้ยาปฏิชีวนะเมื่อไม่มีความจำเป็นนั้นจะยิ่งไปเพิ่มความเสี่ยงในการรับเชื้อภายหลังซึ่งจะดื้อยาในการรักษายา Dicloxacillin 500 mg ใช้อย่างไร
Dicloxacillin มาในรูปของแคปซูลเพื่อรับประทาน มักต้องทานทุก 6 ชั่วโมง (สี่ครั้งต่อวัน) ยาไดคลอกซาซิลลินควรรับประทานตอนท้องว่างอย่างน้อย 1 หรือ 2 ชั่วโมงหลังมื้ออาหาร การครอบคลุมการรักษาขึ้นอยู่กับลักษณะการติดเชื้อ ควรรับประทานยาไดคลอกซาซิลลินในเวลาเดิมทุกๆวัน ปฏิบัติตามคำแนะนำใบสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อรับคำอธิบายในส่วนที่คุณไม่เข้าใจ รับประทานตรงตามแพทย์สั่ง ห้ามรับประทานมากหรือน้อยกว่าที่แพทย์สั่ง รับประทานยาไดคลอกซาซิลลินในขณะนั่งหรือยืนพร้อมน้ำอย่างน้อย 4 ออนซ์ (120มล.) ห้ามนอนหรือเข้านอนทันทีหลังรับประทานยา Dicloxacillin รับประทานยาไดคลอกซาซิลลินจนหมดตามใบสั่งแพทย์แม้จะรู้สึกดีขึ้นแล้วก็ตาม ไม่ควรหยุดยาไดคลอกซาซิลลินโดยปราศจากคำสั่งแพทย์ หากคุณหยุดยาไดคลอกซาซิลลินเร็วเกินไปหรือกินไม่ครบ การรักษาโรคติดเชื้อของคุณอาจไม่ครบสมบูรณ์และทำให้เชื้อแบคทีเรียดื้อต่อยาปฏิชีวนะก่อนการรับประทานยา Dicloxacillin
- แจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบหากคุณallergy-0094/”>แพ้ยาไดคลอกซาซิลลิน ยาปฏิชีวนะเพนิซิลลินอื่นๆ ยาปฏิชีวนะเซฟาโลสปอรินเช่น เซฟาคลอร์ เซฟาดรอกซิล เซฟาโซลิน(Ancef, Kefzol) เซเฟปไทม์(Maxipime) เซฟิซิม(Suprax) เซโฟแทกซีม(Claforan) เซโฟตีแทน เซฟฟอกซิทิน(Mefoxin) เซฟโพดอกซีม เซฟโพรซิล เซฟทาโรลีน(Teflaro) เซฟตาซิดิม(Fortaz, Tazicef, in Avycaz) เซฟทิบิวเท็น เซฟไตรอะโซน เซฟูรอกซิม(Ceftin, Zinacef) เซฟาเลกซิน(Keflex) ยาอื่นๆ หรือยาที่เป็นส่วนผสมในไดคลอกซาซิลลินแคปซูล ปรึกษาเภสัชกรสำหรับรายชื่อส่วนผสม
- แจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบว่าคุณกำลังทานยาตามใบสั่งแพทย์หรือไม่มีใบสั่งแพทย์อะไรบ้าง รวมถึงวิตามินและอาหารเสริม ควรแน่ใจว่าต้องแจ้งยาดังกล่าวนี้ด้วย โพรเบเนซิด ยาปฏิชีวนะเตตราไซคลีนเช่น เดเมโคลไซคลีน ด็อกซีไซคลิน(Doxy, Oracea, Vibramycin) (Probalan, in Col-probenecid) มิโนไซคลิน(Dynacin, Minocin, Solodyn) เตตราไซคลีน(Achromycin V, in Pylera) ไทกีไซคลีน(Tygacil) และวาร์ฟาริน(Coumadin, Jantoven) แพทย์อาจต้องปรับเปลี่ยนปริมาณยาหรือคอยเฝ้าติดตามระวังเรื่องผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- แจ้งให้แพทย์ทราบหากมีหรือเคยมอาการแพ้ หอบหืดหรือโรคไต
- แจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณกำลังตั้งครรภ์ วางแผนจะตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร
รับประทานยาทันทที่นึกขึ้นได้ แต่หากเกือบใกล้เวลาในการทานยามื้อถัดไป ให้ข้ามยามื้อก่อนหน้าไปได้เลยและกลับไปกินตามเวลาปกติที่เคย ห้ามรับประทานยาเพิ่มเป็นสองเท่าหากลืมเด็ดขาดยาไดคลอกซาซิลลินมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
ไดคลอกซาซิลลินอาจส่งผลข้างเคียง แจ้งให้แพทย์ทราบหากมีอาการต่อไปนี้รุนแรงหรือไม่ยอมหาย:- ท้องเสีย
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- ลิ้นเป็นฝ้า ดำ
- มีการระคายเคืองที่ปาก
- ข้อต่อบวม
หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ โทรหาแพทย์ฉุกเฉินทันที
- ผื่นขึ้น
- เกิดอาการคัน
- ลมพิษ
- กลืนหรือหายใจลำบาก
- หายใจมีเสียงหวี๊ด
- บวมที่ใบหน้า คอ ลิ้น ริมฝีปากหรือตา
- ปวดข้อหรือกล้ามเนื้อ
- ปวดท้อง
- มีรอยช้ำและเลือดที่ผิดปกติ
- อาการไข้กลับ เจ็บคอ หนาวสั่น หรือสัญญานอื่นๆที่แสดงให้เห็นว่ามีการติดเชื้อ
- ท้องเสียรุนแรง(ถ่ายเหลวหรือมีเลือดปน)ซึ่งอาจขึ้นร่วมกับมีไข้หรือไม่มีก็ได้ ปวดเกร็งท้อง (อาจเกิดขึ้นมากกว่า 2 เดือนหลังการรักษา)
ควรเก็บรักษาและกำจัดยาไดคลอกซาซิลลินอย่างไร
เก็บยาดังกล่าวไว้ในบรรจุภัณฑ์ที่ให้มา และเก็บให้พ้นมือเด็ก เก็บชนิดแคปซูลไว้ที่อุณหภูมิห้องและห่างจากความร้อนและความชื้น (ไม่ควรเก็บในห้องน้ำ) สิ่งที่สำคัญคือควรเก็บยาทุกชนิดไว้ในที่ไกลมือเด็ก และภาชนะบรรจุยา (เช่น กล่องใส่ยาช่วยจำและรวมถึงยาหยอดตา ครีม แผ่นแปะและยาสูดพ่น) และทนมือเด็กและยากที่เด็กจะเปิดได้ง่าย เพื่อป้องกันเด็กจากสารพิษ ปิดฝาล็อคให้ปลอดภัยแน่นหนาอยู่เสมอ และเก็บทันทีในที่ปลอดภัยหลังใช้-ที่สูง และและพ้นสายตาและการเอื้อมถึง ยาที่ไม่ใช้แล้วควรกำจัดให้พ้นจากสัตว์เลี้ยง เด็กและคนอื่นๆที่ไม่ได้รับประทานยาดังกล่าว อย่างไรก็ตามคุณไม่ควรทิ้งลงในโถชักโครก แทนที่กันทางที่ดีที่สุดในการกำจัดยานี้คือนำยากลับคืนสู่โปรแกรมรับคืนยา ปรึกษาเภสัชกรสำหรับรายละเอียดในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินหรือทานยาเกินขนาด
ในรายที่ทานยาเกินขนาด โทรสายด่วนฉุกเฉินที่ 1669 หากผู้ประสบเหตุหมดสติ ชักหรือมีปัญหาการหายใจ หรือปลุกไม่ตื่นข้อมูลอื่นๆที่ควรรู้
ไปตามที่แพทย์นัดทุกครั้ง แพทย์อาจทำการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบการตอบสนองของยาไดคลอกซาซิลลิน ห้ามนำยาตนเองให้คนอื่นรับประทาน ตามใบสั่งจากแพทย์อาจไม่สามารถซื้อเพิ่มเติมเองได้ หากคุณยังคงมีอาการการติดเชื้ออยู่หลังทานยาไดคลอกซาซิลลินหมดแล้วให้โทรปรึกษาแพทย์ เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องจดรายชื่อยาทั้งชนิดแพทย์สั่งและไม่ใช่แพทย์สั่ง(หาซื้อเองได้ตามร้านขายยาทั่วไป) ที่คุณกำลังรับประทานอยู่ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์เช่นวิตามิน เกลือแร่ หรืออาหารเสริมอื่น และคุณควรนำรายชื่อดังกล่าวไปกับคุณทุกครั้งที่ไปพบแพทย์หรือเมื่อต้องเข้านอนรักษาตัวในโรงพยาบาล ถือเป็นข้อมูลที่สำคัญยิ่งในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นใครที่ไม่ควรทานยาไดคลอกซาซิลลิน
Dicloxacillin เป็นยาปฏิชีวนะที่มีสเปกตรัมแคบซึ่งอยู่ในกลุ่มเพนิซิลลิน แม้ว่าโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับบุคคลจำนวนมาก แต่ก็มีกลุ่มคนบางกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงไดคลอกซาซิลลิน หรือใช้ด้วยความระมัดระวังเนื่องจากมีความเสี่ยงและข้อห้ามที่อาจเกิดขึ้น ข้อควรพิจารณาบางประการมีดังนี้:- การแพ้ยาเพนิซิลลิน:
-
-
- บุคคลที่ทราบว่าแพ้ยาเพนิซิลลิน รวมถึงไดคลอกซาซิลลิน ไม่ควรรับประทานยานี้ ปฏิกิริยาการแพ้อาจมีตั้งแต่ผื่นเล็กน้อยไปจนถึงปฏิกิริยารุนแรงที่คุกคามถึงชีวิต
-
- ประวัติอาการแพ้อย่างรุนแรง:
-
-
- บุคคลที่มีประวัติอาการแพ้อย่างรุนแรง (ภูมิแพ้) ต่อยาปฏิชีวนะ beta-lactam เช่น penicillins หรือ cephalosporins ควรหลีกเลี่ยง dicloxacillin
-
- การติดเชื้อคลอสตริเดียม ดิฟิซายล์:
-
-
- เช่นเดียวกับยาปฏิชีวนะหลายชนิด Dicloxacillin สามารถทำลายสมดุลปกติของแบคทีเรียในระบบย่อยอาหารและนำไปสู่การเติบโตของแบคทีเรีย Clostridium difficile มากเกินไป บุคคลที่ทราบหรือสงสัยว่าติดเชื้อ Clostridium difficile ควรหลีกเลี่ยง dicloxacillin เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์
-
- โรคตับ:
-
-
- Dicloxacillin ถูกกำจัดออกจากร่างกายเป็นหลักผ่านทางตับ บุคคลที่เป็นโรคตับขั้นรุนแรงอาจจำเป็นต้องปรับขนาดยาหรือติดตามอย่างระมัดระวังเมื่อใช้ไดคลอกซาซิลลิน
-
- โรคดีซ่าน หรือความผิดปกติของตับ:
-
-
- หากบุคคลมีประวัติเป็นโรคดีซ่านในท่อน้ำดีหรือความผิดปกติของตับ ยาอาจไม่เหมาะสำหรับใช้งาน
-
- Mononucleosis (การติดเชื้อไวรัส Epstein-Barr):
-
-
- Dicloxacillin ไม่ได้ผลกับการติดเชื้อไวรัส ไม่แนะนำสำหรับการรักษา mononucleosis (การติดเชื้อไวรัส Epstein-Barr) ที่จริงแล้วการใช้ในกรณีเช่นนี้อาจทำให้เกิดผื่นที่ผิวหนังได้
-
- โรคไต:
-
-
- แม้ว่าไดคลอกซาซิลลินจะถูกกำจัดออกทางตับเป็นหลัก แต่ผู้ที่เป็นโรคไตขั้นรุนแรงอาจจำเป็นต้องปรับขนาดยาหรือติดตามผล
-
- ให้นมบุตร:
-
-
- โดยทั่วไปแล้ว Dicloxacillin ถือว่าปลอดภัยสำหรับการใช้ระหว่างให้นมบุตร อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับยาอื่นๆ จำเป็นต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อชั่งน้ำหนักถึงประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
-
- การตั้งครรภ์:
-
- โดยทั่วไปถือว่าไดคลอกซาซิลลินปลอดภัยสำหรับการใช้ในระหว่างตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับยาอื่นๆ บุคคลที่ตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.everydayhealth.com/drugs/dicloxacillin
- https://www.webmd.com/drugs/2/drug-10328/dicloxacillin-oral/details
เหงือกบวมและมีฟันผุ ทำให้แก้มบวม จึงไปซื้อยาทาน เภสัสให้ยา Diclox 500 500 mg ให้ทานก่อนอาหารเช้า เย็น แต่ไปทานเป็น 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น ทานเมื่อวานก่อนนอน ครั้งแรก และของวันนี้ทานครบสามมื้อ อาการบวมยังไม่ดีขึ้น แต่เวลาทานก่อนอาหารแป๊บเดียว เพราะไม่ทราบว่าต้องก่อน 1 ชั่วโมง ถ้าจะไปถอนฟันเลยพรุ่งนี้จะได้หรือไม่ และต้องปฎิบัติตัวอย่างไรบ้าง ค่ะ มียาแก้ปวดที่เภสัชให้มาด้วย ชื่อ Mednil 500 ค่ะ