ยาโคลไตรมาโซล (Clotrimazole) – การใช้งาน, ผลข้างเคียง

ชื่อสามัญ

ชื่อทางการค้า

ข้อบ่งใช้ยาโคลไตรมาโซล

กลไกการออกฤทธิ์ของยาโคลไตรมาโซล

ผลข้างเคียงของยาโคลไตรมาโซล

• หากใช้ยากับผิวหนัง อาจก่อให้เกิดผื่นแดง อาการระคายเคืองจากการallergy-0094/”>แพ้ยา ผิวหนังอักเสบ บวม แดง แสบ
• หากเป็นยารับประทาน อาจระคายเคืองทางเดินอาหาร ปัสสาวะขัด ภาวะซึมเศร้า เพิ่มเอนไซม์ตับ
• หากเป็นยาทาภายในช่องปาก อาจเกิดอาการแสบ และคันในช่องปาก

ข้อควรระวัง

• ห้ามใช้ในผู้ที่มีประวัติแพ้โคลไตรมาโซล
• หลีกเลี่ยงการทายาสัมผัสถูกดวงตา
• ระวังการใช้ยาในเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี
• การใช้ยาในสตรีมีครรภ์ ยาโคลไตรมาโซลชนิดเม็ดรับประทานถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Category C คือ ควรระมัดระวังในการใช้ยาในสตรีมีครรภ์ และคุณแม่ที่ให้นมบุตร ส่วนชนิดทาภายนอกถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Category B คือ ตัวยาค่อนข้างปลอดภัยในสตรีมีครรภ์
• หากคุณกำลังรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, สมุนไพร หรือวิตามินอยู่ ควรแจ้งให้แพทย์ หรือเภสัชกรทราบก่อนเริ่มใช้ยา
• ควรแจ้งประวัติทางการแพทย์ หรือประวัติการแพ้ยาให้แก่แพทย์ หรือเภสัชกรทราบ เพื่อปรับขนาด หรือชนิดของยาให้เหมาะสมกับคุณ และประโยชน์สูงสุดในการรักษา

การเก็บรักษายา

ใครที่ควรหลีกเลี่ยง Clotrimazole

• โรคภูมิแพ้:
  • บุคคลที่ทราบว่ามีอาการแพ้หรือแพ้ยาโคลไตรมาโซลหรือส่วนประกอบใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้ ปฏิกิริยาการแพ้อาจมีตั้งแต่การระคายเคืองผิวหนังเล็กน้อยไปจนถึงปฏิกิริยาที่รุนแรงมากขึ้น
• การตั้งครรภ์และให้นมบุตร:
  • แม้ว่าการใช้ยาโคลไตรมาโซลเฉพาะที่โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตร แต่ขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนใช้ยาใดๆ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
• บาดแผลเปิดหรือผิวหนังแตก:
  • ไม่ควรใช้ Clotrimazole กับแผลเปิดหรือผิวหนังที่แตก เนื่องจากอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการดูดซึมทั่วร่างกาย
• การติดเชื้อในช่องคลอด:
  • แม้ว่าโคลไตรมาโซลมักใช้รักษาโรคติดเชื้อราในช่องคลอด แต่ผู้ที่มีอาการคันและรู้สึกไม่สบายบริเวณช่องคลอดเป็นครั้งแรกควรปรึกษาผู้ให้บริการด้านการแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่แม่นยำ ก่อนที่จะรักษาตัวเองด้วยโคลไตรมาโซล
• บุคคลที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง:
  • บุคคลที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ที่ติดเชื้อ HIV/AIDS หรือเข้ารับการบำบัดด้วยยากดภูมิคุ้มกัน อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อการติดเชื้อรา การใช้ clotrimazole ในกรณีเหล่านี้ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
• โรคเบาหวาน:
  • ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานหรือภาวะอื่นๆ ที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันอาจมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อราได้ง่าย สิ่งสำคัญคือต้องจัดการสภาวะสุขภาพที่สำคัญและปรึกษากับผู้ให้บริการด้านการแพทย์หากพิจารณาใช้ clotrimazole
• เด็ก:
  • การใช้โคลไตรมาโซลในทารกและเด็กเล็กควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ปฏิบัติตามปริมาณที่แนะนำและคำแนะนำในการใช้งานสำหรับเด็กเสมอ
• ยาอื่นๆ:
  • บุคคลที่รับประทานยาบางชนิด โดยเฉพาะยาต้านการแข็งตัวของเลือด (ทินเนอร์เลือด) ควรปรึกษากับผู้ให้บริการด้านสุขภาพก่อนใช้ยา clotrimazole เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบที่อาจเกิดขึ้น
• การติดเชื้อเรื้อรังหรือเกิดซ้ำ:
  • หากการติดเชื้อไม่ดีขึ้นด้วยการรักษาด้วยโคลไตรมาโซลหรือเกิดขึ้นซ้ำๆ บ่อยครั้ง จำเป็นต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อประเมินผลเพิ่มเติมและจัดการอย่างเหมาะสม

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

• https://www.webmd.com/drugs/2/drug-4316/clotrimazole-topical/details
• https://www.nhs.uk/medicines/clotrimazole/
• https://medlineplus.gov/druginfo/meds/a682753.html