ผู้เขียน Dr. Sommai Kanchana
0
ยาโคลนาซีแพม

Clonazepam คืออะไร

ยาโคลนาซีแพม Clonazepam คือยารักษาอาการชัก ตื่นตระหนก และหวาดวิตก เป็นกลุ่มยาที่ใช้รักษาอาการทางจิตเวชที่ช่วยให้ผู้ป่วยเกิดความผ่อนคลายของกล้ามเนื้อ หรือเรียกกันว่า ยากลุ่มเบนโซไดอะซีปีน (Benzodiazepines: BZD) ยา Clonazepam ออกฤทธิ์ต่อสารสื่อประสาทที่ชื่อว่า กรดแกมมาอะมิโนบิวทีริก (Gamma-Aminobutyric Acid) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า กาบา (GABA) ที่ช่วยยับยั้งการนำกระแสสัญญาณประสาทบางส่วนไปยังสมอง ปัจจุบันมีการจัดจำหน่าย Clonazepam ในชื่อทางการค้าอื่น ๆ มากมาย เช่น Rivotril, Clonaril, Povanil, Convolsil, Prenarpilและ Klonopin ยา Clonazepam เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 4 ลำดับที่ 11 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 พ.ศ. 2561 พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559  ซึ่งห้ามมิให้มีการจำหน่ายเว้นแต่ได้รับอนุญาต หรือมีใบสั่งจากแพทย์ ใช้เป็นยาที่ต้องควบคุมการใช้ เนื่องจากอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย หรือทำให้เกิดอาการติดยาได้หากไม่ระมัดระวังการใช้ยา

วิธีการใช้ยาโคลนาซีแพม

  • การรับประทานยาควรปฏิบัติตามรายละเอียดที่ระบุเอาไว้บนฉลาก หรือตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด ไม่ควรใช้ยาในปริมาณที่มากกว่า หรือติดต่อกันนานกว่าที่แพทย์กำหนด หากมีข้อสงสัยให้สอบถามแพทย์หรือเภสชักรทุกครั้ง
  • ยานี้รับประทานก่อน หรือหลังอาหารก็ได้
  • เพื่อให้ยามีประสิทธิภาพในการรักษา ควรรับประทานยาให้เป็นกิจวัตร ในเวลาเดิมทุก ๆ วัน
  • ยานี้ใช้รักษาในระยะเวลาไม่นานเท่านั้น ห้ามใช้ติดต่อกันนานเกิน 9 สัปดาห์ โดยไม่ได้อยู่ในการควบคุมของแพทย์ เพราะกรณีที่ต้องใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานแพทย์จะพิจารณาวินิจฉัยผลกระทบของร่างกายผู้ป่วยเป็นประจำ
  • ไม่ควรหยุดใช้ยานี้เองอย่างกะทันหัน เพราะอาจทำให้เกิดอาการถอนยาได้ เช่น อาการชักเกร็ง ดังนั้นหากต้องการหยุดยาต้องแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้าก่อนทุกคครั้ง
  • หลีกเลี่ยงการขับขี่ยานพาหนะ หรือทำงานที่ต้องใช้สมาธิ เพราะยา Clonazepam 0.5 mg อาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ หรือง่วงซึมรุนแรงได้ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
  • เก็บยาให้พ้นจากมือเด็ก และหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้อื่นใช้ยานี้ร่วมด้วย โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติติดยาเสพติดมาก่อน เนื่องจากยานี้มีฤทธิ์ทำให้เสพติดได้
  • กรณีลืมรับประทานยาตามเวลาที่กำหนด ให้รับประทานยาทันที แต่หากใกล้ถึงเวลารับประทานยาในมื้อต่อไป ให้ข้ามไปกินยาในมื้อถัดไปเลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า และหากพบอาการผิดปกติหลังใช้ยา ควรรีบแจ้งให้แพทย์ทราบ
  • ให้เก็บยาไว้ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส เก็บให้พ้นจากแสงแดด และความชื้น หากยาหมดอายุให้ทำลายทันที

ข้อควรระวังของการใช้ยาโคลนาซีแพม

  • ผู้ป่วยต้อหินไม่ควรใช้ยาชนิดนี้
  • ผู้ป่วยที่มีภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง หลอดลมอักเสบเรื้อรัง หรือปัญหาปอดอื่น ๆ ไม่ควรใช้ยานี้
  • ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia Gravis) ไม่ควรใช้ยานี้
  • ผู้ป่วยที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep apnea) ไม่ควรใช้ยานี้
  • ผู้ป่วยโรคโพรพีเรีย (Porphyria) ต้องระมัดระวังการใช้งาน
  • ผู้ป่วยที่มีประวัติเสพติดแอลกอฮอล์ หรือสารเสพติดต้องระมัดระวังในการใช้ยา
  • ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า หรือมีความอยากคิดฆ่าตัวตายต้องระมัดระวังในการใช้งาน เพราะยานี้อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดความคิดอยากฆ่าตัวตาย
  • ไม่แนะนำให้หยุดยานี้ในทันที
  • ผู้ป่วยโรคไต โรคตับ ควรระมัดระวังในการใช้ยา
  • สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตรต้องใช้ยาอย่างระมัดระวัง

อาการถอนยาโคลนาซีแพม

เมื่อผู้ป่วยใช้ยา Clonazepam ติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ  อาจมีโอกาสติดยาได้  หากเกิดภาวะติดยา ห้ามหยุดยาทันที เพราะอาจเกิดอาการถอนยาที่เป็นอันตราย และทำให้เกิดอาการชักได้ อาการถอนยาคืออาการประสาทหลอน ตัวสั่น ตะคริว หวาดวิตก เหงื่อออกผิดปกติ และนอนไม่หลับ

ใครที่ไม่ควรใช้ยาโคลนาซีแพม

Clonazepam เป็นยาที่อยู่ในกลุ่มเบนโซไดอะซีพีน และมักใช้รักษาอาการต่างๆ เช่น โรควิตกกังวล โรคตื่นตระหนก และอาการชักบางประเภท อย่างไรก็ตาม มีบุคคลบางกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาโคลนาซีแพม หรือใช้ด้วยความระมัดระวังเนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียง การมีปฏิสัมพันธ์ หรือข้อพิจารณาด้านสุขภาพอื่นๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนเริ่มหรือเลิกใช้ยาใดๆ ต่อไปนี้คือกลุ่มคนบางกลุ่มที่ควรใช้ความระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงยา clonazepam:
  • ปฏิกิริยาการแพ้:
      • บุคคลที่ทราบว่าแพ้ยา clonazepam หรือยาเบนโซไดอะซีพีนอื่นๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ ปฏิกิริยาการแพ้อาจมีตั้งแต่ผื่นผิวหนังเล็กน้อยไปจนถึงปฏิกิริยารุนแรงและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
  • โรคต้อหินมุมแคบเฉียบพลัน:
      • Clonazepam อาจทำให้ความดันในลูกตาเพิ่มขึ้น ผู้ที่เป็นโรคต้อหินชนิดมุมแคบเฉียบพลันควรหลีกเลี่ยงยา clonazepam เนื่องจากอาจทำให้อาการนี้แย่ลงได้
  • ประวัติการใช้สารเสพติด:
      • บุคคลที่มีประวัติการใช้สารเสพติด รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือยาเสพติด อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะติดหรือติดยา clonazepam อาจจำเป็นต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิดและการพิจารณาทางเลือกการรักษาอย่างรอบคอบ
  • โรคตับ:
      • Clonazepam ถูกเผาผลาญในตับ และผู้ที่เป็นโรคตับอาจต้องปรับขนาดยาหรือติดตามอย่างใกล้ชิด ในกรณีที่รุนแรงของโรคตับ อาจไม่แนะนำให้ใช้ยาโคลนาซีแพม
  • โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงกราวิส:
      • Clonazepam อาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงแย่ลงในผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (myasthenia Gravis) ซึ่งเป็นโรคทางประสาทและกล้ามเนื้อที่มีลักษณะเฉพาะคือกล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • การตั้งครรภ์และให้นมบุตร:
      • Clonazepam สามารถข้ามรกและส่งผ่านเข้าสู่เต้านมได้ บุคคลที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรใช้ clonazepam ด้วยความระมัดระวัง และควรพิจารณาความเสี่ยงและผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างรอบคอบโดยปรึกษากับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ
  • ผู้สูงอายุ:
      • ผู้สูงอายุอาจมีความไวต่อยาระงับประสาทของ clonazepam มากกว่า และควรใช้ความระมัดระวังในการสั่งจ่ายยานี้ให้กับผู้สูงอายุ อาจพิจารณาใช้ขนาดเริ่มต้นที่ต่ำกว่า
  • ภาวะซึมเศร้า:
      • Clonazepam อาจทำให้อาการซึมเศร้าแย่ลง บุคคลที่มีประวัติภาวะซึมเศร้าหรือมีความคิดฆ่าตัวตายควรใช้ clonazepam ด้วยความระมัดระวัง และการติดตามอย่างใกล้ชิดถือเป็นสิ่งสำคัญ
  • ยาบางชนิด:
    • โคลนาซีแพมสามารถโต้ตอบกับยาอื่นๆ ได้ รวมถึงยากดระบบประสาทส่วนกลางอื่นๆ สิ่งสำคัญคือต้องแจ้งให้ผู้ให้บริการด้านการแพทย์ทราบถึงยาทั้งหมด รวมถึงยาที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์และอาหารเสริม เพื่อประเมินปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้น
ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเสมอเพื่อตรวจสอบความเหมาะสมของยา clonazepam โดยพิจารณาจากประวัติสุขภาพของแต่ละบุคคลและยาที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน การหยุดใช้ยา clonazepam ควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อหลีกเลี่ยงอาการถอนยา

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://www.webmd.com/drugs/2/drug-14403-6006/clonazepam-oral/clonazepam-oral/details
  • https://www.nhs.uk/medicines/clonazepam/
  • https://medlineplus.gov/druginfo/meds/a682279.html
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด