ประโยชน์ และข้อควรระวังของหอยนางรม (Benefits and Dangers of Oysters)

21.11.2567

หอยนางรม (Oysters) เป็นหอย 2 ฝา น้ำเค็มที่อาศัยอยู่ในแหล่งทางทะเล เช่น อ่าว และมหาสมุทร เป็นต้น หอยนางรมเป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศ ช่วยกรองมลพิษออกจากน้ำ และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เช่น เพรียง และหอยแมลงภู่ หอยนางรมมีหลายประเภท – เนื้อที่ชุ่มฉ่ำ และมีรสชาติของพวกมันถือเป็นอาหารอันโอชะทั่วโลก หอยนางรมมีแคลอรีต่ำ แต่เต็มไปด้วยสารอาหาร เช่น โปรตีน ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ วิตามิน และแร่ธาตุ

หอยนางรมอุดมไปด้วยแร่ธาตุนานาชนิด

หอยนางรม 100 กรัม ให้คุณค่าทางโภชนาการ RDI มากกว่า 100% ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบี 12 สังกะสี และทองแดง และมากกว่า 75% ของความต้องการซีลีเนียม และวิตามินดีในแต่ละวันของคุณ หอยนางรมเป็นแหล่งที่ดีของกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นกลุ่มไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนที่มีบทบาทสำคัญในร่างกายของคุณ เช่น ควบคุมการอักเสบ และรักษาสุขภาพหัวใจ และสมองของคุณ หอยนางรมเต็มไปด้วยสารอาหาร มีวิตามิน และแร่ธาตุสูงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง

วิตามินบี 12 มีความสำคัญต่อการบำรุงรักษาระบบประสาท เมตาบอลิซึม และการสร้างเซลล์เม็ดเลือด เป็นวิตามินที่คนส่วนมากมีปัญหาขาดแคลน
สังกะสี มีบทบาทสำคัญในสุขภาพของระบบภูมิคุ้มกัน การเผาผลาญอาหาร และการเจริญเติบโตของเซลล์ หอยนางรม100 กรัม ให้สังกะสีได้มากกว่า 600% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน
ซีลีเนียม รักษาการทำงานของต่อมไทรอยด์ และการเผาผลาญที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพช่วยป้องกันความเสียหายต่อเซลล์ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ
วิตามินดี สำคัญต่อสุขภาพภูมิคุ้มกัน การเจริญเติบโตของเซลล์ และสุขภาพกระดูก พบการขาดแคลนในคนส่วนใหญ่โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในสภาพอากาศหนาวเย็น
ธาตุเหล็ก ร่างกายต้องการธาตุเหล็กเพื่อสร้างเฮโมโกลบินและไมโอโกลบิน ซึ่งเป็นโปรตีนที่นำพาออกซิเจนไปทั่วร่างกาย

สังกะสีมีความเกี่ยวข้องกับสมรรถภาพทางเพศหรือไม่ อ่านที่นี่

หอยนางรมแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง

หอยนางรมเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงที่ดีเยี่ยม หอยนางรม 100 กรัม มีโปรตีน 7 กรัม หอยนางรามเป็นแหล่งโปรตีนที่สมบูรณ์ ซึ่งหมายความว่า มีกรดอะมิโนที่จำเป็นทั้งหมด 9 ชนิดที่ร่างกายต้องการ การเพิ่มแหล่งโปรตีนในอาหาร และของว่างสามารถช่วยให้ความรู้สึกอิ่ม และส่งเสริมการลดน้ำหนัก อาหารที่อุดมด้วยโปรตีนช่วยรักษาความหิวโดยการเพิ่มระดับของฮอร์โมนที่ส่งเสริมความอิ่ม เช่น เปปไทด์ YY และ Cholecystokinin และการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงอาจเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยเบาหวาน อาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน อ่านต่อที่นี่ Benefits and Dangers of Oysters

หอยนางรมมีสารต้านอนุมูลอิสระ

หอยนางรมมีมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ค้นพบล่าสุดที่เรียกว่า 3,5-Dihydroxy-4-methoxybenzyl alcohol (DHMBA) โดย DHMBA เป็นสารประกอบฟีนอลที่แสดงฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ จากการศึกษาในห้องปฏิบัติการแสดงให้เห็นว่า มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับความเครียดออกซิเดชันมากกว่า Trolox ถึง 15 เท่า โดย Trolox เป็นวิตามินอีรูปแบบสังเคราะห์ที่ใช้กันทั่วไปในการป้องกันความเสียหายที่เกิดจากความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน รับมือกับความเครียดด้วยวิธีง่าย ๆ อ่านต่อที่นี่

สิ่งที่ควรระวังในหอยนางรม

แม้จะชัดเจนว่าหอยนางรมมีประโยชน์ต่อสุขภาพที่น่าประทับใจ แต่ก็มีข้อกังวลบางประการที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริโภคหอยนางรมแบบดิบๆ

หอยนางรมอาจมีการปนเปื้อนของแบคทีเรีย การรับประทานเนื้อหอยนางรมดิบมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อแบคทีเรียมากขึ้นได้แก่ แบคทีเรีย Vibrio รวมถึง Vibrio vulnificus และ Vibrio parahaemolyticus โดยเป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ท้องร่วง อาเจียน มีไข้ และสภาวะที่ร้ายแรงอื่นๆ เช่น ภาวะโลหิตเป็นพิษ ซึ่งเป็นการติดเชื้อในเลือดอย่างร้ายแรงซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้
สารปนเปื้อนอื่นๆ หอยนางรมอาจจะมีไวรัสประเภท Norwalk และ Enteroviruses ที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ และหอยนางรมอาจมีสารปนเปื้อนทางเคมี รวมถึงโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว แคดเมียม และปรอท เป็นต้น

เนื่องจากความเสี่ยงด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นเหล่านี้ เด็ก ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง และสตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตรควรหลีกเลี่ยงการรับประทานหอยนางรม และอาหารทะเลดิบ. แพ้อาหารทะเลควรทำอย่างไร อ่านต่อที่นี่

ความเสี่ยงอื่นๆ

หอยนางรมมีสังกะสีในปริมาณสูงเป็นพิเศษ แม้ว่าแร่ธาตุนี้มีความสำคัญต่อสุขภาพ แต่การบริโภคมากเกินไปอาจเป็นอันตรายได้ ส่วนมากความเป็นพิษของสังกะสีมักพบในการอาหารเสริม แต่การรับประทานหอยนางรมมากเกินไปบ่อยเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น ระดับแร่ธาตุทองแดง และธาตุเหล็ก ที่สามารถดูดซึมได้ลดลงจากการเพิ่มขึ้นของระดับสังกะสี