ความโกรธกับโรคหัวใจ (Anger & Heart Disease)

ความอดกลั้นของคุณสั้นแค่ไหน  คำตอบสำหรับคำถามนี้ มีส่วนในการกำหนดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจของคุณ ถ้าความอดกลั้นของคุณมักจะต่ำ (นั่นคือถ้าคุณโกรธ หรือโมโหเร็ว) การอดกลั้นที่นานขึ้นอาจทำให้มีอายุยืนยาวขึ้นด้วย มีหลักฐานที่แสดงอย่างชัดเจนว่าความโกรธ ความเกลียดชัง และการถากถางนั้น เชื่อมโยงกับความเสี่ยงโรคของหัวใจที่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงมีอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ในความเป็นจริงแล้ว  คนโกรธง่ายอาจส่งผลต่อความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้เช่นเดียวกับการสูบบุหรี่ โรคอ้วนแ ละการไม่ออกกำลังกาย แต่การมองโลกในแง่ดี การพยายามไม่ตอบโต้ การมีมุมมองเชิงบวก และการมีส่วนร่วมในการสร้างเสียงหัวเราะบ่อยๆ อาจช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตและสุขภาพของคุณได้

อารมณ์โกรธกับความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ

มีการศึกษาพบว่าคนที่โกรธบ่อยๆ และมักโกรธอย่างรุนแรง มีความเสี่ยงสูงมากต่อเหตุการณ์ที่เกี่ยวโรคหัวใจทั้งหมด รวมไปถึง หัวใจวาย หัวใจวายแบบเงียบ และ  การผ่าตัดบายพาส ทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตอย่างกะทันหันเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ เมื่อมีเครียดผู้ชายมีแนวโน้มที่จะแสดงอารมณ์โกรธหรือโมโหออกมาได้มากกว่าผู้หญิง ซึ่งอาจเป็นเพราะปัจจัยทางวัฒนธรรม และบางทีอาจรู้สึกหงุดหงิดที่ไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์บางอย่างได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายหนุ่มที่มักโกรธเพราะความเครียด จะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจก่อนอายุ 55 ปี เพิ่มมากขึ้น (เรียกว่า“ โรคหัวใจก่อนวัยอันควร”) และทำให้มีอาการหัวใจวาย อย่างไรก็ตามทั้งชายและหญิงอาจแสดงลักษณะของบุคลิกภาพแบบ“ A” ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะอธิบายว่า เป็นคนที่มุ่งมั่นที่จะเอาชนะ มีความเครียด มีความอดกลั้นต่ำอย่างสมบูรณ์แบบ  และบุคคลที่ลักษณะบุคลิกภาพแบบ“ A” ยังมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย แต่จากหลักฐานล่าสุดชี้ให้เห็นว่า ความโกรธหรือความเกลียดชังน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ในคนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงของโรคหัวใจเพิ่มขึ้น นี่เป็นการช่วยให้กำลังใจ เพราะแม้การเปลี่ยนลักษณะบุคลิกภาพบางอย่างทำได้ยาก แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะรับมือกับความโกรธและจัดการกับความเครียดเพื่อที่จะไม่ให้มันครอบงำคุณ เป็นที่แน่นอนว่า วิธีปฏิบัติที่ดีที่สุดคืออย่าโกรธตั้งแต่แรก แต่จะเป็นการพูดง่ายกว่าที่จะบอกว่าหายโกรธไปแล้ว ซึ่งในความเป็นจริงบางครั้งก็เป็นไปไม่ได้ ในสถานการณ์เหล่านั้นการยอมรับว่าคุณโกรธ และคิดในเชิงบวกเพื่อพยายามเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่ทำให้คุณโกรธ  นี่อาจหมายถึงการนำตัวเองออกมาจากสถานการณ์นั้นและพูดคุยกับบางคนที่เป็นกลางและยินดีรับฟังเพียง และเพียงแค่รับฟังเท่านั้นก็อาจช่วยได้ Anger & <a href=Heart Disease” width=”600″ height=”366″ />

Mind Over Matter 

ดูเหมือนว่า การมองโลกในแง่ดี การมีมุมมองในเชิงบวก จะช่วยป้องกันโรคหัวใจ ได้บ้าง ผลการศึกษาล่าสุดมีแนวโน้มที่แสดงให้เห็นว่าคนที่เป็นโรคหัวใจที่มีกำลังใจเกี่ยวกับการฟื้นตัวของพวกเขาว่าจะมีอาการดีขึ้น (แม้จะมีความเจ็บป่วยรุนแรงเพียงใดก็ตาม) มีโอกาสที่จะเสียชีวิตในช่วง 15 ปี น้อยกว่าผู้ป่วยที่มีความไม่มีความหวังที่จะหายป่วย นี่เป็นข่าวที่ดีมาก! คุณอาจสามารถควบคุมสุขภาพได้มากกว่าที่คิด หากคุณคิดในแง่บวกคุณอาจสามารถทำให้สุขภาพของหัวใจของคุณดีขึ้น รู้สึกดีขึ้น และมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น มีทฤษฎีคือ ผู้มองโลกในแง่ดีมี วิธีการในการรับมือที่ดีกว่า เช่น พยายามหาวิธีปรับปรุงสุขภาพโดยรวมของตนอย่างกระตือรือร้น และกระตือรือร้นที่จะปฏิบัติตามแผนการรักษาพยาบาลที่กำหนดไว้อย่างมากขึ้น ส่วนคนที่มองโลกในแง่ร้ายอาจไม่กระตือรือร้นในการรักษาสุขภาพและอาจรู้สึกถึงความเครียดโดยรวมในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกายและขัดขวางไม่ให้คนเหล่านั้นปฏิบัติตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพและแผนการรักษาของพวกเขา

No Laughing Matter: Laughing Matters

แม้ว่าการพิสูจน์จะทำได้ไม่ง่ายนัก แต่ก็มีหลักฐานบางอย่างที่แสดงให้เห็นว่า การหัวเราะอาจช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด การพักผ่อน และการนอนหลับ สิ่งที่ทำให้รู้สึกดีขึ้นอาจไม่ใช่การหัวเราะ แต่อาจเป็นไปได้ว่ามีทัศนคติเชิงบวก การมีอารมณ์ที่ดี การมีอารมณ์ขัน หรือได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนและครอบครัวอาจมีบทบาทต่อสุขภาพด้วยเช่นกัน ไม่ว่าเสียงหัวเราะจะช่วยทำให้คุณมีสุขภาพดีขึ้นหรือไม่ แต่การช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตและการมีความสุขของคุณอาจส่งผลต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ต้องสงสัยเลย โดยทั่วไปแล้ว คนส่วนใหญ่ (ยกเว้นคนที่มีอาการซึมเศร้าทางคลินิก) สามารถควบคุมแนวทางการดำเนินชีวิตและสุขภาพของตนเองได้ คุณไม่สามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต แต่คุณสามารถควบคุมวิธีที่คุณตอบสนองต่อทุกสิ่งในชีวิตได้ เมื่อคุณเลือกที่จะใช้ชีวิตด้วยมุมมองเชิงบวกและมีอารมณ์ขัน คุณอาจจัดการกับความเครียดได้สำเร็จและได้รับผลตอบแทนมากมาย เช่น การสนับสนุนทางสังคม ความสุข และบางทีก็อาจจะมีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดีขึ้นได้

เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีจัดการกับความเครียด

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีลดผลกระทบจากความเครียดที่มีต่อสุขภาพของคุณสามารถดูได้ที่ SecondsCount Stress Management Center. นอกจากนี้เรายังขอเชิญให้คุณตรวจสอบบทความที่เป็นประโยชน์เหล่านี้:
  • อะไรคือสาเหตุของความเครียด 
  • ความเครียดส่งผลต่อสุขภาพของคุณอย่างไร?
  • วิธีจัดการกับความเครียด
  • วิธีกำจัดวงจรของความเครียด:  คำแนะนำทีละขั้นตอน 
ทีมงานของ SecondsCount ได้พัฒนาเครื่องมือเพื่อช่วยให้คุณฉุกคิดได้ว่า ความเครียดอาจส่งผลต่อคุณอย่างไร ซึ่งคุณอาจต้องการพูดคุยในสิ่งที่คุณเรียนรู้กับกลุ่มคนที่ดูแลสุขภาพของคุณ
  • Seconds Count Stress Quiz: ความเครียดมีมากแค่ไหน 
  • ฉันเครียดหรือซึมเศร้า หรือกำลังเป็นทั้ง 2 อย่าง 

นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา 

แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด