กับสิว
ล้างมือก่อนที่จะทายาลงบนผิว ค่อย ๆ ล้างผิวที่ได้ระบผลกระทบด้วยสบู่อ่อน ๆ และเช็ดให้แห้ง ทายาลงบนผิวบาง ๆ วันละครั้งหรือตามที่แพทย์สั่ง ใช้ปริมาณเท่าเม็ดถั่ว ใช้ยาบนผิวเท่านั้น ไม่ใช้ยาทาปากด้านใน ในจมูกหรือปาก หรือเนื้อเยื่อต่าง ๆ ห้ามใช้ยาบริเวณที่เป็นแผลเปิด ถลอก ไหม้ หรือแผลที่เป็นผิวหนังอักเสบ หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ตา หากยาเข้าตา ให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาด พบแพทย์หากมีอาการระคายเคืองตา ล้างมือหลังการใช้ยาเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้มือที่เปื้อนยาสัมผัสตา ปริมาณยาและการรักษาขึ้นอยู่กับโรคและการตอบสนองต่อการรักษา ระหว่างการใช้ยาใน 2-3 สัปดาห์แรก สิวอาจจะแย่ลงเพราะยาไปจัดการกับสิวที่อยู่ในผิวหนัง การใช้ยาเป็นประจำจะทำให้ได้ประโยชน์จากยา เพื่อให้จำได้ ควรใช้ยาในเวลาเดิมทุก ๆ วัน อย่าใช้ในปริมาณมากหรือบ่อยกว่าที่แนะนำ เพราะไม่ทำให้ผิวดีขึ้นไวกว่าเดิม แต่จะทำให้เกิดความเสี่ยงของอาการแดง ผิวลอก และปวด หากอาการไม่ดีขึ้นอต่แย่ลง ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ ยานี้ถูกดูดซึมได้ทางผิวหนังและอาจเป็นอันตรายต่อทารกที่ยังไม่เกิด ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรือกำลังจะตั้งครรภ์ไม่ควรใช้ยานี้ อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ: โรคผิวหนังอักเสบผลข้างเคียง
ผิวแดง แห้ง ลอก ไหม้เล็กน้อย บวม หรืออาการสิวที่แย่ลงอาจเกิดขึ้นในช่วง 4 สัปดาห์แรกของการใช้ยานี้ เมื่อใช้ต่อไปเรื่อย ๆ อาการเหล่านี้จะลดลง หากอาการเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือแย่ลงให้พบแพทย์ แพทย์อาจให้คุณใช้ครีมให้ความชุ่มชื้น ลดความถี่ของการใช้ยาลง หรือให้หยุดใช้ อาการแพ้ที่รุนแรงจากการใช้ยานี้เกิดขึ้นได้น้อย อย่างไรก็ตาม ให้พบแพทย์ทันทีหากมีอาการเหล่านี้ ผื่น คันหรือบวม (โดยเฉพาะที่หน้า ลิ้น คอ) เวียนศีรษะอย่างรุนแรง หายใจลำบากข้อควรระวัง
ก่อนใช้ยานี้ ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบหากคุณแพ้ adapalene/”>adapalene/”>adapalene/”>adapalene/”>adapalene/”>adapalene/”>adapalene/”>adapalene หรือ benzoyl peroxide หรือยาในกลุ่มกรดวิตามินเอ เช่น isotretinoin หรือหากคุณมีอาการแพ้อื่น ๆ ยานี้อาจมีส่วนผสมที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ จึงควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเสมอ ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติการเจ็บป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคผิวหนัง เช่น โรคผิวหนังอักเสบ ยานี้อาจทำให้สีผมหรือสีเสื้อผ้าซีด จึงควรระมัดระวังเมื่อทายาใกล้เส้นผม ในขณะที่สวมใส่เสื้อผ้า หรือผ้าปูที่นอนในกรณีที่ทายาทิ้งไว้ทั้งคืน ยานี้อาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดด ควรจำกัดเวลาการออกแดด หลีกเลี่ยงการอาบแดด ทาครีมกันแดดเสมอ ควรพบแพทย์ทันทีหากคุณมีผิวไหม้จากแสงแดด มีตุ่มน้ำ หรือผิวแดง รอให้ผิวหายจากการถูกแดดเผาก่อนจึงจะใช้ยานี้ได้อีกครั้ง อากาศที่รุนแรง เช่น ลม หรือหนาวอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ: การเลือกครีมกันแดด หลีกเลี่ยงการเลเซอร์ แวกซ์ หรือการใช้สารเคมีเพื่อกำจัดขนในบริเวณที่ใช้ยานี้ ยานี้ดูดซึมผ่านผิวหนังและอาจเป็นอันตรายต่อทารกที่ยังไม่เกิด ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หรือวางแผนที่จะตั้งครรภ์ไม่ควรใช้ยานี้ แจ้งแพทย์หากคุณตั้งครรภ์หรือเตรียมตัวที่จะตั้งครรภ์ คุณไม่ควรตั้งครรภ์ในขณะที่ใช้ยานี้ เพราะอาจเป็นอันตรายต่อทารกได้ ยังไม่เป็นที่ทราบกันว่ายานี้สามารถส่งผ่านไปในน้ำนมได้หรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์หากคุณให้นมลูกอยู่ กลไกการออกฤทธิ์ การรวมกันของ Adapalene และ Benzoyl Peroxide ทำงานร่วมกันเพื่อจัดการกับปัจจัยหลายประการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาของสิว:
- ลดการอักเสบ : ทั้ง Adapalene และ Benzoyl Peroxide มีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่ช่วยให้ผิวระคายเคือง สงบลง และลดรอยแดงและบวมที่เกี่ยวข้องกับรอยโรคสิว
- ไม่อุดตันรูขุมขน : Adapalene ส่งเสริมการหมุนเวียนของเซลล์ผิว ป้องกันการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้วซึ่งสามารถปิดกั้นรูขุมขนได้ Benzoyl Peroxide ช่วยขจัดสิ่งอุดตันที่มีอยู่ด้วยฤทธิ์เคราโตไลติก
- ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย : Benzoyl Peroxide ฆ่าเชื้อ P. Acnes ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีส่วนทำให้เกิดสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การป้องกันการเกิดสิวในอนาคต : ด้วยการจัดการกับต้นตอของสิว (การอักเสบ การเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และรูขุมขนอุดตัน) การผสมผสานนี้ช่วยป้องกันการเกิดรอยโรคจากสิวใหม่
- ทำความสะอาดผิว : ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน และซับให้แห้ง
- ทาเจลบาง ๆ : ทาเจลบาง ๆ ให้ทั่วบริเวณที่ได้รับผลกระทบ ไม่ใช่แค่เฉพาะจุด
- หลีกเลี่ยงบริเวณที่บอบบาง : หลีกเลี่ยงการทาเจลบนบริเวณที่บอบบาง เช่น ดวงตา ริมฝีปาก และเยื่อเมือก
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น