ผักที่ดีที่สุดสำหรับทำน้ำผัก (Vegetable Juice)

น้ำผัก คือ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา น้ำผักปั่นได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่ผู้รักสุขภาพ ที่มองหาวิธีการที่รวดเร็วและสะดวกในการเพิ่มปริมาณสารอาหารให้ร่างกาย อย่างไรก็ตาม หากเพิ่งเริ่มคั้นน้ำผัก อาจพบว่ามันยากที่จะเลือกผักชนิดใดมาใช้ การปวดกล้ามเนื้อหลังคือหนึ่งในอาการเจ็บป่วยที่พบได้ทั่วไป จากการศึกษาพบว่า 8 ใน 10 คนของชาวอเมริกันมีอาการเจ็บหลังซึ่งมักเป็นกับบริเวณแผ่นหลังช่วงล่าง อาจเกิดอาการเคล็ดเกิดขึ้นในขณะทำงานในสวน ยกของ หรือทำความสะอาดบ้าน หรืออาจเกิดขึ้นเนื่องจากหลังได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาหรือภาวะเรื้อรังเช่น โรคข้ออักเสบหรือโรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบชนิดติดยึด การเจ็บหลังอย่างรุนแรงหรือฉับพลันควรได้รับการตรวจจากแพทย์หรือนักกายภาพบำบัด ซึ่งมีอาการเจ็บที่ไม่ยอมหาย แต่ในบางครั้งอาจรักษาปวดหลังล่างที่ไม่หายนี้ได้ด้วยตัวของคุณเองดังนี้

1.คะน้า

คะน้าเป็นผักใบเขียวที่มีรสชาติอ่อน ๆ เข้ากันได้ดีกับผลไม้และผักอื่น ๆ ในน้ำผักปั่น เป็นส่วนผสมที่อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญหลายชนิด รวมทั้งวิตามิน A, C และ K คะน้าดิบมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงเป็นพิเศษ เช่น เบต้าแคโรทีน สารต้านอนุมูลอิสระทำให้โมเลกุลที่เป็นอันตรายกลายเป็นกลาง หรือที่เรียกว่าอนุมูลอิสระเพื่อช่วยป้องกันสภาวะต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ การดื่มน้ำคะน้าสามารถลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ซึ่งรวมถึงคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ด้วย ผลการศึกษาหนึ่งในผู้ชายที่มีระดับคอเลสเตอรอลสูงพบว่าการดื่มน้ำคะน้า 5 ออนซ์ (150 มล.) ทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน สามารถลดคอเลสเตอรอล LDL (ไม่ดี) ลงได้ 10% และเพิ่ม HDL ที่ป้องกันโรคหัวใจได้ 27%

2. แครอท

แครอทมีรสหวานเล็กน้อยและมีคุณค่าทางโภชนาการที่ดี แครอทจึงเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการทำน้ำปั่นเพื่อสุขภาพ มีแคลอรีต่ำ มีวิตามินเอ ไบโอติน และโพแทสเซียมสูง แครอทเป็นผักเพื่อสุขภาพที่เต็มไปด้วยแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นรงควัตถุจากพืชที่ทำงานเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพต่อร่างกาย ได้แก่ เบต้าแคโรทีน ไลโคปีน อัลฟาแคโรทีน และลูทีน ผลการศึกษาพบว่าการรับประทานอาหารที่มีแคโรทีนอยด์สูงนั้นสัมพันธ์กับความเสี่ยงของโรคตาเสื่อม โรคหัวใจ และมะเร็งบางชนิด รวมทั้งโรคเกี่ยวกับต่อมลูกหมากที่ลดลง ความหวานของน้ำแครอทเข้ากันได้ดีกับผักและผลไม้ทั่วไป เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว ขิง และหัวบีท

3. หัวบีท

นอกจากสีสันที่สดใส และรสชาติที่เหมือนดินแล้ว หัวบีทยังเพิ่มประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายให้กับการกินน้ําผักปั่นทุกวัน หัวบีทยังมีคุณค่าทางโภชนการทั้งแมงกานีส โพแทสเซียม และโฟเลต หัวบีทมีไนเตรตสูง ซึ่งเป็นสารประกอบจากพืชที่ดีต่อสุขภาพ ผลการศึกษาพบว่าน้ำบีทรูทที่อุดมด้วยไนเตรตอาจช่วยเพิ่มความดันโลหิต สมรรถภาพทางกายและจิตใจ บีทรูทไม่เพียงช่วยเพิ่มรสชาติให้กับน้ำผักแล้ว แต่ส่วนยอดสีเขียวของบีทรูทก็ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง และสามารถคั้นเป็นน้ำผักได้เช่นกัน เมื่อโพแทสเซียมในเลือดต่ำจะเป็นอย่างไรอ่านต่อที่นี่  vegetable juice

4. รักษาน้ำหนักตัวให้มีความเหมาะสม

การมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจะทำให้แผ่นหลังด้านล่างรับน้ำหนักมากขึ้น การลดน้ำหนักสามารถช่วยอาการเจ็บได้เพราะเป็นการไปลดแรงกดลงบนกระดูกสันหลัง หากต้องการความช่วยเหลือ ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเรื่องการรับประทานอาหารและแผนการออกกำลังกายที่อาจได้ผลดีที่สุดสำหรับคุณ

5. เลิกบุหรี่

จากการวิจัยพบว่าหากสูบบุหรี่จะมีโอกาสเป็นโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมหรือมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลังอื่นๆได้มากกว่าคนไม่สูบบุหรี่ถึง 4 เท่า นิโคตินในบุหรี่และผลิตภัณฑ์บุหรี่อื่นๆสามารถทำให้กระดูกสันหลังอ่อนแอและนำเอาสารอาหารที่จำเป็นออกจาก Spongy Disks ที่เป็นตัวรองรับข้อต่อของคุณ การมีกระดูกสันหลังที่แข็งแรงจะช่วยให้หลังมีความยืดหยุ่นและป้องกันกล้ามเนื้อจากการแข็งและเจ็บ

6. บรอกโคลี

บรอกโคลีเป็นผักตระกูลกะหล่ำที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เป็นแหล่งที่ดีของสารอาหารสำคัญ เช่น โพแทสเซียมและวิตามิน A, B6 และ C นอกจากนี้ยังมี kaempferol ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีประสิทธิภาพ และสามารถต่อต้านอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ลดการอักเสบ และลดการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ การรับประทานผักสีเขียวที่อุดมไปด้วย kaempferol และสารต้านอนุมูลอิสระ 1 หน่วยบริโภคต่อวัน ยังช่วยชะลอความเสื่อมของอารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับอายุ ใส่หัวบรอกโคลีและก้านลงในเครื่องคั้นน้ำผักเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้กับสูตรน้ำผักสีเขียว

วิธีรักษาวิตตามินในน้ำผักให้ได้ดีที่สุด

เพื่อรักษาปริมาณวิตามินในน้ำผัก สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์บางประการระหว่างกระบวนการคั้นน้ำและการเก็บรักษา เคล็ดลับบางประการที่จะช่วยรักษาวิตามินในน้ำผัก:
  • เลือกผักผลไม้สดคุณภาพสูง : เริ่มต้นด้วยผักสดคุณภาพสูงที่ปราศจากรอยช้ำ รอยตำหนิ หรือสัญญาณการเน่าเสีย เลือกใช้ผลิตผลออร์แกนิกเมื่อเป็นไปได้เพื่อลดการสัมผัสยาฆ่าแมลงและสารเคมีอื่นๆ
  • ล้างให้สะอาด : ล้างผักให้สะอาดโดยใช้น้ำเย็นเพื่อกำจัดสิ่งสกปรก เศษซาก และยาฆ่าแมลงที่ตกค้าง คุณยังสามารถใช้แปรงปัดผักเพื่อขัดพื้นผิวของผักเนื้อแข็ง เช่น แครอทหรือแตงกวา
  • ลดความร้อนและออกซิเดชัน : ความร้อนและออกซิเดชันสามารถย่อยสลายวิตามินในน้ำผักได้ เพื่อลดความร้อน ให้ใช้เครื่องคั้นน้ำผลไม้แบบกดช้าหรือสกัดเย็นแทนเครื่องคั้นน้ำผลไม้แบบหมุนเหวี่ยงความเร็วสูง ซึ่งจะสร้างความร้อนในระหว่างกระบวนการคั้นน้ำ นอกจากนี้ ให้คั้นน้ำผลไม้เป็นชุดเล็กๆ และดื่มน้ำผลไม้ทันทีเพื่อลดการเกิดออกซิเดชัน
  • จัดเก็บอย่างเหมาะสม : หากคุณต้องการเก็บน้ำผักเพื่อการบริโภคในภายหลัง ให้เก็บไว้ในภาชนะสุญญากาศในตู้เย็น ภาชนะแก้วเป็นที่นิยมมากกว่าพลาสติกเพราะมีโอกาสน้อยที่จะชะสารเคมีลงในน้ำผลไม้ ดื่มน้ำผลไม้ภายใน 24-48 ชั่วโมงเพื่อความสดและคงสารอาหารสูงสุด
  • ลดการสัมผัสกับแสงให้น้อยที่สุด : การสัมผัสกับแสงอาจทำให้วิตามินเสื่อมถอย ดังนั้นควรเก็บน้ำผักไว้ในภาชนะทึบแสงหรือสีเข้มเพื่อป้องกันแสง
  • ลองเติมส้ม : การเติมผลไม้รสเปรี้ยว เช่น มะนาวหรือมะนาวลงในน้ำผักไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มรสชาติเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาปริมาณวิตามินอีกด้วย ผลไม้รสเปรี้ยวอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและสามารถช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชันของวิตามินอื่นๆ ในน้ำผลไม้ได้
  • ดื่มทันที : เพื่อให้ได้ปริมาณวิตามินสูงสุด ให้ดื่มน้ำผักทันทีหลังคั้นน้ำ ผักคั้นสดยังคงรักษาระดับวิตามินและสารอาหารอื่นๆ ในระดับสูงสุด
การปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้ คุณสามารถช่วยรักษาปริมาณวิตามินในน้ำผักได้ และมั่นใจได้ว่าคุณได้รับประโยชน์ทางโภชนาการสูงสุดจากน้ำผลไม้ทำเอง
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด