เมื่อสังคม และวัฒนธรรมถูกเชื่อมต่อถึงกันมากขึ้นโดยผ่านเทคโนโลยี การใช้หูฟังก็เริ่มเพิ่มขึ้น หูฟังคือตัวช่วยให้ผู้คนได้เพลิดเพลินกับเสียงเพลง และได้สนทนากันทุกที่ทุกเวลา สะดวกในการใช้งานหูฟัง และความคล่องตัวที่ได้มานั้นไม่ใช่สิ่งที่เกินจริงแต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันนี้ การทำงานของคนเราใช้เวลามากขึ้นกับการประชุมออนไลน์ แม้หูฟังจะมีความสะดวกสบาย และใช้งานได้สะดวกมากขึ้น แต่คำถามเกี่ยวกับเสียงหูฟังเบาแค่ไหนจึงปลอดภัยในการใช้งานก็ยังเป็นที่ถกเถียงกัน เพียงแค่ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับระดับเสียงที่ปลอดภัยและควรหยุดพักการใช้หูฟังนานแค่ไหน
เสียงส่งผลกับการได้ยินได้อย่างไร
เพราะเสียงไม่ใช่เพียงสิ่งที่เกิดจากเครื่องมือสื่อสารเท่านั้น แต่ยังอยู่รายล้อมในสิ่งแวดล้อมด้วย การฟังเสียงคือสิ่งสำคัญในการสื่อสารที่สำคัญ ซึ่งอยู่ในสภาพแวดล้อมโดยทั่วไป โดยหูชั้นในจะมีความไวต่อการรับรู้เสียงอย่างมีสมดุล มีเซลล์หลายพันเซลล์ในหู บางเซลล์จะมีโครงสร้างคล้ายขนเล็ก ๆ เรียกว่าเซลล์ขน ทำหน้าที่นำเสียงที่ได้ยินจากหูส่งไปยังสมอง เพื่อประมวลผลต่อไป เสียงที่ดังมากเกินไปอาจทำให้เซลล์เหล่านี้เสียหายอย่างถาวร ทำให้กระบวนการรับส่งสัญญาณเสียงถูกรบกวน ความเสียหายอาจเกิดขึ้นจากการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ขนกับเซลล์ประสาท ซึ่งเกิดจากการถูกรบกวนโดยเสียงที่ดังเกินไป แม้ว่าเซลล์ขนจะยังปกติก็ตาม เพราะเสียงที่ดังเกินไปนั้นเป็นอันตราย อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ มลภาวะทางอากาศหูฟังเสียงเบาแค่ไหนจึงปลอดภัย
มีการจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับระดับเสียงหรือระดับเดซิเบล (dB) ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่ควรทราบคือเมื่อพิจารณาการใส่หูฟัง หรืออุปกรณ์รับฟังเสียงส่วนบุคคลสามารถปรับระดับเสียงได้สูงถึง 105 ถึง 110 เดซิเบล การสัมผัสกับระดับเสียงที่ดังกว่า 85 เดซิเบล (เทียบเท่าเสียงของเครื่องตัดหญ้า หรือเครื่องเป่าลม) อาจทำให้ประสาทหูเสียหายได้ ยิ่งได้รับเสียงยาวนานกว่า 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะเสียงที่ดัง 105 ถึง 110 เดซิเบล อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ภายใน 5 นาที กรณีเสียงเบากว่า 70 เดซิเบล จะไม่ทำให้หูเสียหายอย่างมีนัยสำคัญ นี่คือสิ่งสำคัญที่ต้องรู้ เพราะปริมาณเสียงดังที่สุดของหูฟังนั้นมีเกณฑ์ที่จะทำให้หูเกิดความเสียหายได้ (ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่) ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ผู้ฟังจะต้องตระหนักว่าอุปกรณ์ส่วนมากสามารถทำให้เกิดอันตรายได้ แม้ว่าหูฟังจะสร้างความสะดวกสบายสำหรับผู้ฟังก็ตาม อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจ หูชั้นกลางอักเสบนานแค่ไหน จึงจะถือว่านานเกินไป
นอกจากระดับเสียงแล้ว ระยะเวลาของการเปิดเสียงยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้หูเสียหายได้ กล่าวคือนอกจากเสียงดังจะสามารถสร้างความเสียหายให้หูได้มากขึ้นเมื่อรับฟังนานขึ้น มีกฎหมายกำหนดให้นายจ้างเตรียมอุปกรณ์ป้องกันเสียงให้กับพนักงานที่ได้ยินเสียงเฉลี่ย 85 เดซิเบล นานต่อเนื่องกว่า 8 ชั่วโมง แม้ว่าเสียงจะดังมากไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เมื่อรับฟังอย่างยาวนานก็สามารถสร้างความเสียหายได้ ภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง คงเป็นเรื่องง่ายที่จะจินตนาการไปถึงการฟังเพลงด้วยหูฟังเป็นเวลานาน 1 ชั่วโมงหรือนานกว่านั้นจะส่งผลอย่างไร ที่สำคัญควรเปิดเสียงในระดับเสียงที่สบายและปลอดภัยก็จะสามารถฟังได้นานมากขึ้น ต้องรักษาสมดุลระหว่างระยะเวลาการฟังเสียง กับระดับความดังของเสียงด้วย หูอาจได้รับความเสียหายจากเสียงที่ดังเกินไป ยิ่งเมื่อรวมระยะเวลาของการฟังก็จะยิ่งสร้างปัญหาการได้ยินที่อาจเกิดขึ้น มีคำแนะนำสำหรับการใส่หูฟังที่ดีต่อสุขภาพข้อแนะนำการฟังที่ปลอดภัย
- สังเกตว่าตนเองใช้หูฟังนานแค่ไหน และเสียงดังแค่ไหน
- หยุดพัก เมื่อใช้หูฟังเป็นเวลานาน และต้องแน่ใจว่าฟังเสียงในระดับที่สบาย
- การเตรียมตัว หากมีโอกาสร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีแนวโน้มว่าจะรับฟังเสียงดังเป็นเวลานาน (เช่น คอนเสิร์ตหรือการแข่งขันกีฬา) ให้ลองนำที่อุดหูหรืออุปกรณ์สำหรับปกป้องหูจากสถานการณ์ที่อาจสร้างความเสียหายได้ อย่างเอียร์ปลั๊กแบบโฟมธรรมดา ไปจนถึงที่ครอบหูฟังที่มีคุณสมบัติในการตัดเสียงรบกวน หรือที่ครอบหูที่ปรับแต่ง ขึ้นเพื่อนักโสตสัมผัสวิทยามาใช้
- สุดท้าย อย่าลังเลที่จะพูดคุยกับแพทย์โสตศอนาสิก หรือโสตศอนาสิกแพทย์ เมื่อมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการใช้หูฟัง หรือระดับเสียงที่ปลอดภัย สุขภาพการได้ยินนั้นมีความสำคัญและซับซ้อน และสามารถช่วยคุณปฏิบัติตัวเพื่อปกป้องหู ในขณะที่ใส่หูฟัง
การเลือกหูฟัง
การเลือกหูฟังที่เหมาะสมจะต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ เพื่อให้ตรงกับความชอบ ไลฟ์สไตล์ และความต้องการเฉพาะของคุณ ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกหูฟัง:-
ประเภทของหูฟัง:
-
-
- แบบครอบหู (ครอบหู):หูฟังเหล่านี้ปิดหูได้สนิท และโดยทั่วไปให้การแยกเสียงและความสบายที่ดีกว่า เหมาะสำหรับการใช้งานที่ยาวนาน
- On-Ear (Supra-aural):วางอยู่บนหูแต่ไม่ได้ปิดไว้จนสุด พกพาสะดวกกว่าแต่อาจไม่สะดวกเป็นเวลานาน
- หูฟังชนิดใส่ในหู (หูฟังหรือหูฟังเอียร์บัด):ขนาดกะทัดรัดและพกพาได้ โดยสามารถใส่ลงในช่องหูได้โดยตรง เหมาะสำหรับการใช้งานระหว่างเดินทางแต่อาจไม่สามารถป้องกันเสียงรบกวนได้มากนัก
-
-
คุณภาพเสียง:
-
-
- พิจารณาคุณภาพเสียงที่คุณต้องการ ผู้ที่ชอบฟังเพลงอาจชอบหูฟังที่มีการตอบสนองความถี่คงที่ ในขณะที่คนอื่นๆ อาจชอบเสียงเบสที่หนักแน่น อ่านบทวิจารณ์ และหากเป็นไปได้ ให้ลองใช้หูฟังก่อนซื้อ
-
-
การตัดเสียงรบกวน:
-
-
- การตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ (ANC) มีประโยชน์ในการลดเสียงรบกวนรอบข้าง หากคุณเดินทางหรือทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังบ่อยครั้ง ให้ลองใช้หูฟังที่มีคุณสมบัติตัดเสียงรบกวนที่มีประสิทธิภาพ
-
-
ความสะดวกสบายและพอดี:
-
-
- มองหาหูฟังที่มีสายคาดศีรษะแบบปรับได้และที่ครอบหูบุนวมเพื่อความสบายระหว่างการใช้งานเป็นเวลานาน
- หูฟังอินเอียร์ควรมีขนาดจุกหูฟังที่แตกต่างกันเพื่อให้แน่ใจว่าสวมใส่ได้พอดี
-
-
ไร้สายหรือแบบมีสาย:
-
-
- พิจารณาว่าคุณชอบความสะดวกสบายของหูฟังไร้สาย (บลูทูธ) หรือคุณพอใจกับตัวเลือกแบบมีสายหรือไม่ หูฟังไร้สายให้อิสระมากกว่าแต่ต้องชาร์จ
-
-
อายุการใช้งานแบตเตอรี่:
-
-
- สำหรับหูฟังไร้สาย ให้ตรวจสอบอายุการใช้งานแบตเตอรี่ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่วางแผนจะใช้หูฟังเป็นระยะเวลานาน
-
-
ลองก่อนตัดสินใจซื้อ:
-
- ทุกครั้งที่เป็นไปได้ ให้ลองใช้หูฟังก่อนตัดสินใจซื้อ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถประเมินความสะดวกสบาย คุณภาพเสียง และคุณสมบัติอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจว่าจะตรงตามความคาดหวังของคุณ
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น