การปลูกผม (Hair Transplants) : วิธีการ และผลข้างเคียง

การปลูกผม (Hair Transplants) ทำเพื่อเพิ่มผมให้มีมากขึ้นในบริเวณศีรษะของคุณที่อาจจะมีผมบางหรือล้าน ซึ่งทำได้โดยการนำผมจากส่วนที่หนาของหนังศีรษะ หรือส่วนอื่นๆของร่างกายนำมาปลูกลงบนหนังศีรษะที่มีผมบางหรือล้าน ทั่วโลกประมาณร้อยละ 60 เป็นผู้ชายและร้อยละ 50 เป็นผู้หญิงที่มีปัญหาผมร่วง เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ผู้คนมักซื้อผลิตภัณฑ์จากร้านขายยาเอง เช่น Minoxidil (Rogaine) การปลูกผมเป็นวิธีหนึ่งในการฟื้นฟูเส้นผม ซึ่งการปลูกผมครั้งแรกเกิดขึ้นในปีค.ศ.1939 ในประเทศญี่ปุ่น โดยมีผมที่หนังศีรษะเพียงเส้นเดียว ในทศวรรษต่อมาแพทย์ได้พัฒนาเทคนิค The “Plug” technique ซึ่งเป็นนวัฒตกรรมการปลูกผมที่เป็นกระจุกขนาดใหญ่ เมื่อเวลาผ่านไป ศัลยแพทย์เริ่มใช้การปลูกผมขนาดเล็กลงเรื่อยๆเพื่อลดร่องรอยการปลูกผม ให้ดูใกล้เคียงผมที่งอกมาเองมากที่สุด

ศัลยกรรมปลูกผมถาวรได้ผลหรือไม่ 

การปลูกผมส่วนใหญ่ประสบผลสำเร็จมากกว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ซื้อจากร้านขายยาเอง แต่ก็มีบางปัจจัยที่ต้องพิจารณา:
  • ร้อยละ 10-80 ของการปลูกผม ผมจะกลับมาเติบโตเต็มที่ใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน
  • เช่นเดียวกับผมปกติ ผมที่ได้จากการปลูกผมจะบางลงเมื่อเวลาผ่านไป
  • ผู้ที่มีรูขุมขนแต่ไม่มีขนหรือผมงอกออกมา (เป็นถุงที่มักมีขนอยู่ใต้ผิวหนัง แต่ไม่มีขนอีกต่อไป) อาจทำให้ประสิทธิภาพในการปลูกผมน้อยกว่า แต่จากการศึกษาในปีค.ศ.2016 ชี้ให้เห็นว่าการรักษาด้วยพลาสมาสามารถช่วยให้เส้นขนที่ปลูกถ่ายกลับคืนมาได้มากถึงร้อยละ 75 หรือมากกว่านั้น
การปลูกผมไม่ได้ผลกับทุกคน ส่วนใหญ่จะใช้เพื่อฟื้นฟูเส้นผมหากคุณศีรษะล้านหรือผมบางตามธรรมชาติหรือผมร่วงเนื่องจากการบาดเจ็บ การปลูกถ่ายส่วนใหญ่ทำด้วยเส้นผมที่มีอยู่ของคุณ ดังนั้นจึงไม่ได้ผลดีสำหรับการรักษาคนที่มี
  • การมีผมบางหรือศีรษะล้านเป็นวงกว้าง
  • ผมร่วงจากสารเคมีหรือยาอื่นๆ
  • หนังศีรษะมีแผลเป็นที่หนาจากการบาดเจ็บ

การปลูกผมมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?

การปลูกผมมีตั้งแต่ราคาประมาณ 12,000 บาทขึ้นไป ค่าใช้จ่ายครั้งสุดท้ายอาจขึ้นอยูทกับ:
  • ขอบเขตของขั้นตอนในการปลูกผม
  • ความพร้อมของศัลยแพทย์
  • ประสบการณ์ของศัลยแพทย์
  • การเลือกเทคนิคในการปลูกผมของศัลยแพทย์
เนื่องจากการปลูกผมเป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงามทางประกันชีวิตจึงไม่จ่ายเงินสำหรับหัตการดังกล่าว ยาที่ใช้หลังการดูแลอาจเพิ่มค่าใช้จ่ายขั้นสุดท้าย

การปลูกผมทำอย่างไร 

ง่ายๆก็คือ การปลูกผมจะนำเอาเส้นผมที่คุณมี ย้ายไปยังบริเวณที่คุณไม่มีผม ซึ่งโดยทั่วไปจะนำมาจากด้านหลังศีรษะ (ท้ายทอย) แต่ยังไม่สามารถนำมาจากส่วนอื่นๆของร่างกายได้ ก่อนที่จะเริ่มทำการปลูกถ่าย ศัลยแพทย์จะทำการฆ่าเชื้อบริเวณที่จะถอนขนออกและฉีดยาชาเฉพาะที่ คุณสามารถขอยาสลบเพื่อให้นอนหลับไปขณะทำการปลูกผมได้ จากนั้นศัลยแพทย์จะทำการเตรียมวิธีในการปลูกผมหนึ่งจากสองวิธี ได้แก่ FUT หรือ FUEHair Transplants

Follicular Unit Transplantation (FUT)

FUT หรือบางครั้งรู้จักกันในชื่อ follicular unit strip surgery (FUSS) ในการเตรียมหัตถการ FUT ศัลยแพทย์จะทำตามขั้นตอนดังนี้:
  1. ใช้หนังศีรษะ โดยศัลยแพทย์จะเอาหนังศีรษะของคุณออกเป็นชิ้นๆ ซึ่งมักใช้หนังศีรษะบริเวณท้ายทอย โดยชิ้นส่วนของหนังศีรษะที่ตัดเป็นชิ้นๆจะมีแถบยาวขนาด 6-10 นิ้ว แต่ยังสามารถยืดจากหูข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่งได้อยู่
  2. แพทย์จะเย็บปิดบริเวณที่นำเอาหนังศีรษะออก
  3. ศัลยแพทย์และผู้ช่วยจะทำการแบ่งแยกชิ้นส่วนของหนังศีรษะให้เล็กลงด้วยมีดผ่าตัด พวกเขาจะแยกเป็นชิ้นเล็กๆกว่า 2,000 ชิ้น เรียกว่า กราฟ(grafts) กราฟบางชิ้นอาจประกอบด้วยผมเพียงเส้นเดียว
  4. ศัลยแพทย์จะใช้เข็มหรือมีดทำรูเล็กๆบนหนังศีรษะเพื่อทำการปลูกผมลงไป
  5. ศัลยแพทย์จะใส่ผมที่ได้จากการแบ่งหนังศีรษะออกมาเป็นชิ้นส่วนเล็กๆลงไปในรู ซึ่งขั้นตอนนี้เรียกว่า grafting
  6. จากนั้นพวกเขาจะทำการปิดโดยใช้ผ้าพันแผล หรือผ้ากอซ
จำนวนของกราฟที่คุณจะได้รับขึ้นอยู่กับ:
  • ประเภทของผมที่คุณมี
  • ขนาดของชิ้นส่วนที่ทำการปลูกถ่าย
  • คุณภาพ(โดยเฉพาะความหนา)ของผม
  • สีผม

Follicular Unit Extraction (FUE)

การเตรียมหัตถการ FUE ศัลยแพทย์จะทำตามขั้นตอนดังนี้:
  1. ทำการโกนผมบริเวณท้ายทอยออก
  2. ศัลยแพทย์จะนำเอารูขุมขนออกจากหนังศีรษะ คุณจะเห็นเครื่องหมายเล็กๆที่รูขุมขนแต่ละชิ้นถูกลบออก
  3. เช่นเดียวกับวิธี FUT ศัลยแพทย์จะทำการเจาะรูเล็กบนหนังศีรษะของคุณและต่อกราฟเข้าไปในรู
  4. จากนั้นปิดส่วนที่ผ่าตัดด้วยผ้าพันแผลหรือผ้ากอซ

ระยะเวลาการฟื้นตัว

FUT และ FUE อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงถึงหลายวันจึงจะเสร็จสมบูรณ์ ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณงานที่ศัลยแพทย์ทำ คุณจะกลับบ้านถายในวันนั้นหลังทำเสร็จ  เมื่อทำการปลูกผมเสร็จ ศัลยแพทย์จะเอาผ้าพันแผลออกอย่างระมัดระวัง บริเวณนั้นอาจบวม ศัลยแพทย์อาจฉีดไตรแอมซิโนโลน(triamcinolone) เข้าไปในบริเวณนั้นเพื่อลดอาการบวมลง คุณจะรู้สึกเจ็บบริเวณที่ทำการปลูกผมรวมถึงบริเวณที่นำขนออกมาด้วย โดยอีกไม่กี่วันศัลยแพทย์อาจให้:
  • ยาแก้ปวด เช่น Ibuprofen (Advil)
  • ยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ 
  • ยาต้านการอักเสบ เช่น ยาสเตียรอยแบบรับประทาน เพื่อลดบวม
  • ยา เช่น Finasteride (Propecia) หรือ Minoxidil (Rogaine) เพื่อช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของผม
นี้เป็นการดูแลภายหลังการปลูกผม:
  • รอ 2-3 วันหลังการผ่าตัดค่อยสระผม โดยใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนเท่านั้นในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก
  • คุณสามารถกลับไปทำงาน หรือใช้ชีวิตปกติได้ภายใน 3 วัน
  • อย่ากดแปรง หรือหวีลงบนกราฟใหม่เป็นเวลาประมาณ 3 สัปดาห์
  • ห้ามใส่หมวกทุกชนิด หรือเสื้อที่สวมผ่านศีรษะจะกว่าแพทย์จะอนุญาต
  • ห้ามออกกำลังกายประมาณหนึ่งสัปดาห์
ไม่ต้องเป็นกังวลหากผมจะร่วงบ้าง นี่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ ผมที่ได้รับการปลูกอาจไม่โตเท่าที่ควรหรือเข้าได้กับเส้นผมรอบๆได้ไม่กี่เดือน

ผลข้างเคียงจากการปลูกผม

ผลข้างเคียงส่วนใหญ่คือแผลเป็น ซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ผลข้างเคียงอื่นๆที่เป็นไปได้ ได้แก่:
  • การติดเชื้อ
  • มีสารคัดหลั่งหรือหนองโดยรอบบริเวณที่ผ่าตัด
  • ปวดหนังศีรษะ, คัน และบวม
  • เกิดการอักเสบของรูขุมขน (Folliculitis)
  • เลือดออก
  • ไร้ความรู้สึกรอบๆบริเวณที่ผ่าตัด
  • บริเวณที่มองเห็นได้ของเส้นผมซึ่งไม่เข้ากับเส้นผมโดยรอบ หรือมีลักษณะบางลงอย่างเห็นได้ชัด
  • มีผมร่วงอย่างต่อเนื่องหากยังมีผมล้านอยู่
Minoxidil และ Propecia อาจมีผลข้างเคียงได้ เช่น :
  • ระคายเคืองหนังศีรษะ
  • เวียนศีรษะ
  • เจ็บหน้าอก
  • ปวดศีรษะ
  • หัวใจเต้นผิดปกติ
  • มือ, เท้า หรือหน้าอกบวม
  • เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

การหาศัลยแพทย์

สามารถเยี่ยมชมเวปไซต์ American Academy of Plastic Surgeons เพื่อดูข้อมูลอ้างอิงถึงศัลยแพทย์ที่อยู่ใกล้คุณที่ทำการปลูกผม นี่เป็นเทคนิคบางอย่างเมื่อคุณกำลังมองหาศัลยแพทย์เพื่อทำการปลูกผม:
  • เลือกเฉพาะศัลยแพทย์ที่มีใบอนุญาตและได้รับการรับรอง
  • ยืนยันบันทึกขั้นตอนการปลูกถ่ายเส้นผมที่ประสบความสำเร็จ โดยการขอดูผลงาน.
  • อ่านบทวิจารณ์เกี่ยวกับพวกเขา

ทางเลือกอื่นนอกจากการศัลยกรรมปลูกผม คือ ยาปลูกผม

ในปัจจุบันมียาปลูกผมที่ได้ผลมากมายรวมไปถึงสมุนไพรที่มาจากธรรมชาติ นั่นอาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ราคาย่อมเยาว์กว่า

ใครไม่เหมาะกับการปลูกผม

การปลูกผมอาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน และมีปัจจัยและเงื่อนไขบางประการที่อาจทำให้บุคคลไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมสำหรับขั้นตอนนี้ ต่อไปนี้คือสาเหตุบางประการที่ทำให้บางคนไม่เป็นผู้เข้ารับการปลูกผม:
  • อายุ : ผู้สูงอายุที่มีปัญหาผมร่วงมากและศีรษะล้านอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี
  • สภาวะทางการแพทย์ที่ไม่สามารถควบคุมได้:หากคุณมีสภาวะทางการแพทย์บางอย่าง เช่น เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ โรคภูมิต้านตนเอง หรือปัญหาการแข็งตัวของเลือด คุณอาจไม่เหมาะสำหรับการผ่าตัด สุขภาพโดยรวมของคุณคือการพิจารณาที่สำคัญ
  • การติดเชื้อหรือสภาวะของหนังศีรษะ:การติดเชื้อหรือสภาวะของหนังศีรษะ เช่น โรคสะเก็ดเงินหรือผิวหนังอักเสบรุนแรง อาจรบกวนกระบวนการบำบัดและอาจทำให้คุณขาดคุณสมบัติในฐานะผู้สมัคร
  • ความคาดหวังที่ไม่สมจริง:สิ่งสำคัญคือต้องมีความคาดหวังตามความเป็นจริงเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการปลูกผม หากคุณคาดหวังว่าจะมีผมเต็มศีรษะหรือมีเป้าหมายที่ไม่สมจริง การปลูกผมอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ถูกต้อง
  • การสูบบุหรี่จัดหรือการใช้ยา:การสูบบุหรี่และยาบางชนิดอาจทำให้กระบวนการบำบัดลดลงและลดความสำเร็จของการปลูกถ่าย ศัลยแพทย์บางรายอาจกำหนดให้ผู้ป่วยเลิกสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงยาบางชนิดก่อนทำหัตถการ
  • แนวโน้มการเกิดแผลเป็น:หากคุณมีแนวโน้มที่จะเกิดแผลเป็นนูนหรือแผลเป็นนูน (แผลเป็นนูนและหนาขึ้น) คุณอาจมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดแผลเป็นหลังการปลูกผม
  • ผมร่วงไม่คงที่:การปลูกผมมีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับผู้ที่มีรูปแบบผมร่วงคงที่ หากผมร่วงของคุณยังคงเกิดขึ้น แนะนำให้รอจนกว่าอาการผมร่วงจะคงที่
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผมที่มีคุณสมบัติเหมาะสมซึ่งสามารถประเมินสถานการณ์เฉพาะของคุณ หารือเกี่ยวกับเป้าหมายของคุณ และพิจารณาว่าคุณเป็นผู้ที่เหมาะสมสำหรับขั้นตอนนี้หรือไม่ 

ประเด็นสำคัญ

พูดคุยกับแพทย์หรือศัลยแพทย์ปลูกถ่ายเส้นผมก่อนที่จะตัดสินใจเข้ารับการปลูกผม ทำความเข้าใจว่าไม่มีการรับประกันว่าจะประสบความสำเร็จ แต่การเกิดแผลเป็นนั้นเป็นความเสี่ยง คุณอาจไม่มีสิทธิ์สำหรับขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณหรือคุณภาพของเส้นผมของคุณ

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/hair-loss/hair-transplants
  • https://www.nhs.uk/conditions/cosmetic-procedures/hair-transplant/
  • https://www.hrbr.co.uk/what-is-a-hair-transplant/
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด