หน้าแรก
บทความ
ไกลบูไรด์ (Glyburide)

ไกลบูไรด์ (Glyburide)

ยา
ผู้เขียน Dr. Sommai Kanchana
09.05.2567
0
ไกลบูไรด์

Glyburide คืออะไร

ไกลบูไรด์ (Glyburide) เป็นยาที่ใช้ควบคู่เกี่ยวกับโปรแกรมควบคุมอาหาร และออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสูงในผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 2 นอกจากนี้ยังอาจใช้ร่วมกับยารักษาโรคเบาหวานอื่นๆ เพราะการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะช่วยป้องกันความเสียหายของไต ตาบอด ปัญหาเส้นประสาท แขนขาเสื่อม และปัญหาทางเพศ การควบคุมโรคเบาหวานอย่างเหมาะสมอาจช่วยลดความเสี่ยงของอาการหัวใจวาย หรือโรคหลอดเลือดสมองได้ ไกลบูไรด์อยู่ในกลุ่มยาที่เรียกว่า Sulfonylureas ช่วยลดน้ำตาลในเลือดโดยทำให้เกิดการหลั่งอินซูลินตามธรรมชาติของร่างกาย Glyburide

วิธีใช้ยา Glyburide

โปรดใช้ยาไกลบูไรด์ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งในเรื่องจำนวนครั้ง และปริมาณยา เนื่องจากปริมาณยาจะขึ้นอยู่กับปัจจัยสภาพร่างกาย และการตอบสนองต่อยาของแต่ละคน โดยปกติแพทย์จะให้รับประทานไกลบูไรด์พร้อมอาหารเช้า หรืออาหารมื้อหลักมื้อแรกของวัน ในกรณที่ทั่วไปคือรับประทานวันละ 1 ครั้ง ผู้ป่วยบางรายโดยเฉพาะผู้ที่รับประทานยาในปริมาณสูง แพทย์อาจจะพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่นๆ และให้รับประทานวันละ 2 ครั้ง สรุปคือ ใช้ไกลบูไรด์ตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงจากไกลบูไรด์ แพทย์อาจแนะนำให้คุณเริ่มใช้ยานี้ในขนาดต่ำ ะค่อยๆ เพิ่มขนาดยา โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างระมัดระวัง และหากคุณกำลังใช้ยาเบาหวานชนิดอื่นอยู่แล้ว (เช่น คลอโพรพาไมด์) ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างระมัดระวัง เพื่อหยุดยาเก่า และเริ่มใช้ยาไกลบูไรด์ หากใช้โคลเซเวแลมอยู่ด้วย ให้รับประทานไกลบูไรด์อย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนโคลเซเวแลม ใช้ยาไกลบูไรด์เป็นประจำ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากยา

ผลข้างเคียงของการใช้ไกลบูไรด์

การใช้ไกลบูไรด์อาจมีอาการคลื่นไส้ แสบร้อนกลางอก แน่นท้อง และน้ำหนักขึ้น หากอาการเหล่านี้ไม่หายไป หรือแย่ลง แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบทันที โปรดพบแพทย์โดยด่วนหากคุณมีผลข้างเคียงที่ร้ายแรง ได้แก่
  • สัญญาณของการติดเชื้อ (เช่น เจ็บคอเรื้อรัง มีไข้) 
  • เลือดออกง่าย หรือช้ำ 
  • ปวดท้อง 
  • ตาหรือผิวหนังเหลือง 
  • ปัสสาวะสีเข้ม 
  • อ่อนแรงผิดปกติ 
  • น้ำหนักขึ้นอย่างกะทันหัน 
  • การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจหรืออารมณ์ 
  • มือเท้าบวม
  • อาการชัก
ยานี้อาจทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำ สิ่งนี้อาจเกิดขึ้นได้หากได้รับแคลอรี่จากอาหารไม่เพียงพอ หรือออกกำลังกายหนักผิดปกติ อาการของน้ำตาลในเลือดต่ำ ได้แก่ เหงื่อออกกะทันหัน ตัวสั่น หัวใจเต้นเร็ว หิว มองเห็นภาพซ้อน เวียนศีรษะ หรือมือเท้ารู้สึกเสียวซ่า หากพบปัญหาภาวะน้ำตาลต่ำ ครั้งต่อไปควรพกเม็ดกลูโคส หรือเจล เพื่อรักษาน้ำตาลในเลือดต่ำในกรณีฉุกเฉิน หากฉุกเฉินและหาไม่ได้ ให้เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดอย่างรวดเร็วด้วยแหล่งน้ำตาลอื่นๆ เช่น น้ำตาลทราย น้ำผึ้ง หรือลูกอม หรือดื่มน้ำผลไม้หรือน้ำหวาน  เพื่อช่วยป้องกันน้ำตาลในเลือดต่ำ รับประทานอาหารตามกำหนดเวลา และอย่าข้ามมื้ออาหาร หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นระหว่างใช้ไกลบูไรด์ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ได้แก่ กระหายน้ำ ปัสสาวะมากขึ้น มึนงง  ง่วงนอน หน้าแดง หายใจเร็ว และมีกลิ่นปาก หากมีอาการเหล่านี้ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที เพราะแพทย์อาจจะต้องปรับปริมาณยาไกลบูไรด์ให้เหมาะสม นี่เป็นเพียงผลข้างเคียงบางประการของการใช้ไกลบูไรด์ อาจไม่ครอบคลุม หากมีความผิดปกติอื่นๆ ควรรีบไปพบแพทย์เช่นกัน เพื่อความปลอดภัย

ข้อควรระวังในการใช้ไกลบูไรด์

ก่อนใช้ยาไกลบูไรด์ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงประวัติการแพ้ยา และประวัติการรักษาของคุณ โดยเฉพาะโรคต่อไปนี้
  • โรคตับ 
  • โรคไต 
  • โรคไทรอยด์ 
  • ภาวะฮอร์โมนบางชนิด
  • ความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์ (ภาวะ Hyponatremia) 
  • ปัญหาระบบประสาทบางอย่าง
การใช้ไกลบูไรด์อาจทำให้เกิดอาการตาพร่ามัว วิงเวียนศีรษะ หรือง่วงนอน เนื่องจากน้ำตาลในเลือดต่ำ หรือสูงมาก ห้ามขับรถ ใช้เครื่องจักร หรือทำกิจกรรมใดๆ ที่ต้องใช้ความระมัดระวัง หรือการมองเห็นที่ชัดเจน จนกว่าคุณจะแน่ใจว่าสามารถทำกิจกรรมดังกล่าวได้อย่างปลอดภัย ควรจำกัดแอลกอฮอล์ในขณะที่ใช้ยาไกลบูไรด์ เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดน้ำตาลในเลือดต่ำ และอาจจะเกิดปฏิกิริยาตอบสนอง เช่น หน้าแดง คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ หรือปวดท้อง  ควรงดแอลกอฮอล์ หากไม่สามารถงดได้ควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร เกี่ยวกับการใช้แอลกอฮอล์อย่างปลอดภัย การควบคุมน้ำตาลในเลือดของคุณอาจทำได้ยากขึ้น เมื่อร่างกายของคุณมีความเครียด (เช่น เมีไข้ ติดเชื้อ ได้รับบาดเจ็บ หรือการผ่าตัด) ปรึกษาแพทย์ เพราะอาจต้องมีการเปลี่ยนแปลงแผนการรักษา การใช้ยา หรือการทดสอบน้ำตาลในเลือดเพิ่มเติม ไกลบูไรด์อาจทำให้คุณรู้สึกไวต่อแสงแดดมากขึ้น ทำให้เกิดรอยแดง หรือผื่นได้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดโดยตรง และทาครีมกันแดดหากจำเป็นต้องออกกลางแจ้ง ในสตรีมีครรภ์ควรใช้ยาไกลบูไรด์เมื่อจำเป็นอย่างชัดเจนเท่านั้น การตั้งครรภ์อาจทำให้เกิด หรือทำให้โรคเบาหวานแย่ลง ปรึกษาแผนการรักษากับแพทย์ในการจัดการระดับน้ำตาลในเลือดขณะตั้งครรภ์ แพทย์ของคุณอาจใช้อินซูลินแทนยานี้ในระหว่างตั้งครรภ์ หากใช้ไกลบูไรด์แพทย์อาจเปลี่ยนไปใช้อินซูลินอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนวันคลอดที่คาดไว้ เนื่องจากไกลบูไรด์มีความเสี่ยงที่จะทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำในทารกแรกเกิด ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดเมื่อคุณกำลังตั้งครรภ์และจำเป็นต้องใช้ไกลบูไรด์ รวมทั้งสตรีที่กำลังให้น้ำนมบุตรด้วย

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

  • พราซิควอเทล (Praziquantel)

  • เพทิดีน (Pethidine)

  • แพนคริเอไลเปส (Pancrelipase)

  • ยาออกซี่เมตาโซลีน (Oxymetazoline)

  • นิสตาติน (Nystatin)

  • นอร์ทริโดรน (Norethindrone) 

ติดตาม
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

    บทความสุขภาพล่าสุดสำหรับคุณ