เรียบเรียงและปรับปรุงข้อมูลทางการแพทย์โดย : พญ. พรรณิภา สุขสมบูรณ์กิจ
โรคลมพิษคืออะไร
ลมพิษหรือผื่นคัน หรือ Urticaria หรือ Hives คือ เป็นอาการคันตามผิวหนังที่จะทำให้ผิวหนังเป็นสีแดงหรือชมพู อาจจะมีอาการแสบบวมร่วมด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วลมพิษมักเกิดจากอาการแพ้ต่อบางอย่างเช่น อาหาร ยา หรือสภาพแวดล้อมภายนอก โดยผื่นแพ้อาจจะมีขนาดเล็กมาก หรือบริเวณกว้างก็เป็นได้ ในกรณีที่เกิดอาการลมพิษเฉียบพลัน ผู้ป่วยอาจจะใช้ยาภูมิแพ้บรรเทาอาการได้ ผื่นส่วนใหญ่จะหายไปเอง หากผู้ป่วยมีอาการเป็นผื่นลมพิษเรื้อรัง พร้อมกับอาการแพ้อย่างรุนแรง อาจจำเป็นต้องมีการพบแพทย์ลมพิษเกิดจากสาเหตุอะไร
โรคลมพิษเกิดจากอาการแพ้จากอาหารที่รับประทานเข้าไปหรือการสัมผัสสารที่แพ้ หรือบางครั้งอาจจะโดนแมลงสัตว์กัดต่อย เมื่อคุณมีอาการแพ้ร่างกายของคุณจะเริ่มปล่อยฮิสตามีนเข้าสู่กระแสเลือด ในบางคนสารฮิสตามีนอาจทำให้เกิดผื่นคันลมพิษ อาการบวมคันและอาการหลายอย่างที่เกิดขึ้นจากลมพิษ ลมพิษอาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ นอกจากอาการแพ้ บางครั้งเป็นผลมาจากความเครียด ความเจ็บป่วย หรือการติดเชื้อ บางครั้งอุณหภูมิร้อนหรือเย็นเกินไปอาจจะเป็นสาเหตุได้ หรือจากการระคายเคืองเนื่องจากเหงื่อออกมากเกินไป ในหลายครั้งจึงไม่สามารถระบุสาเหตุที่แท้จริงของลมพิษได้ และในบางคนอาจเป็นลมพิษเนื่องจากฮอร์โมน อย่างเช่นคนท้องอาจจะเป็นลมพิษได้ใครที่มีความเสี่ยงในการเกิดลมพิษ
ผู้ป่วยที่มีอาการภูมิแพ้มักจะเป็นลมพิษ คุณอาจมีความเสี่ยงมากขึ้นหากคุณใช้ยาหรือหากคุณสัมผัสกับสิ่งที่คุณอาจแพ้ เช่น อาหารหรือละอองเกสรโดยไม่รู้ตัว หากคุณป่วยด้วยการติดเชื้อคุณอาจเสี่ยงต่อการเกิดลมพิษด้วยอาการของลมพิษ
เมื่อเป็นลมพิษ ผิวหนังจะมีผื่นนูนแดงคัน น้อยบ้างเยอะบ้าง มีเม็ดแดงๆ ขึ้นตามตัวและมีขนาดแตกต่างกันไป มีอาการคัน แสบร้อนบริเวณดังกล่าว เกิดขึ้นได้บริเวณใบหน้า แขน ขา และลำตัว โดยส่วนใหญ่ ลมพิษอาจหายไปหรือเกิดขึ้นมาอีกครั้งในบางคนอาจจะมีอาการครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งวันประเภทของลมพิษ
ลมพิษที่เกิดจากอาการแพ้
สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของลมพิษคือปฏิกิริยาการแพ้ สิ่งเหล่านี้อาจเกิดจากสารก่อภูมิแพ้หรือลมพิษ :- อาหาร (เช่น ถั่ว นม ไข่)
- สัตว์
- ละอองเกสร
- ฝุ่น
- แมลงสัตว์กัดต่อย
- ยา (ส่วนใหญ่เป็นยาปฏิชีวนะยารักษาโรคมะเร็งและไอบูโปรเฟน)
Anaphylaxis
Anaphylaxis (แอแนฟิแล็กซิส) คือปฏิกิริยาภูมิแพ้รุนแรงอย่างเฉียบพลัน สาเหตุเกิดจากร่างกายได้รับสารกระตุ้นที่เกิดให้แพ้บางชนิด เช่น อาหารหรือยาบางชนิด แมลงกัดต่อย หรือสารอื่น ๆ เนื่องจากระบบภูมิต้านทานของบุคคลนั้นไวต่อสารดังกล่าว และกรณีร้ายแรงอาการนี้จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจนำไปสู่ภาวะช็อกและร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้โรคลมพิษเรื้อรัง (Chronic hives)
ลมพิษชนิดเรื้อรัง (Chronic urticaria) คือลักษณะของลมพิษที่มีอาการเป็นๆ หายๆ ต่อเนื่องกันนานกว่า 6 สัปดาห์ขึ้นไป และอาจจะมีผลมาจากโรคอื่น ๆ ดังนี้เช่น:- โรคเซลิแอค (Celiac Disease) คือโรคที่ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อกลูเตน
- โรคเอสแอลอีหรือโรคพุ่มพวง หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง
- โรคเบาหวานประเภทที่ 1
- โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
- โรคไทรอยด์
อาการผิวแพ้ง่าย (Dermatographism)
ลมพิษชนิดนี้ถือว่าไม่รุนแรง อาจจะเกิดมาจากการเกามากเกินไปเลยทำให้ผิวมีการแดงคัน และอาจจะลุกลามลมพิษที่เกิดจากอุณหภูมิ
บางครั้งการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิสามารถเป็นสาเหตุให้เกิดลมพิษในคนที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอากาศ ลมพิษเย็นที่เกิดขึ้นอาจเกิดขึ้นจากน้ำเย็นหรือการสัมผัสอากาศเย็น ในขณะที่ความร้อนในร่างกายจากการออกกำลังกายอาจทำให้เกิดลมพิษ การออกกำลังกายหรืออากาศที่ร้อนเกินไปอาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดได้ลมพิษที่เกิดจากการติดเชื้อ
การติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดลมพิษ เช่น การติดเชื้อที่ทางเดินปัสสาวะและคอหอย ไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ mononucleosis บางครั้งหากเป็นโรคตับอักเสบและหวัดมักทำให้เกิดลมพิษได้ด้วยเช่นกันโรคลมพิษรักษาอย่างไร
การรักษาในเบื้องต้นคือ ทายาแก้ลมพิษบริเวณผิวหนังที่เป็นผื่นแดง แต่หากอาการไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์เพื่อรับยาที่ถูกต้องและเหมาะสม บางครั้งอาจจะมียาแก้แพ้แบบรับประทานเพื่อบรรเทาอาการ
สำหรับยาทาน เพื่อช่วยควบคุมอาการให้ดีขึ้น แพทย์อาจจะสั่งจ่ายยาให้ดังนี้- ไดเฟนไฮดรามีน (Diphenhydramine)
- เซทริซีน (Cetrizine)
- คลอร์เฟนิรามีน (Chlorpheniramine)
- ไดเฟนไฮดรามีน (Diphenhydramine)
- ไฮดรอกไซซีน (Hydroxyzine)
- ไซโปรเฮปตาดีน (Cyproheptadine)
- ไม่เกาหรือสัมผัสกับผื่นลมพิษโดยตรง
- ลดความเครียดที่มี
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ไม่ควรอาบน้ำร้อน
เราสามารถป้องกันลมพิษไม่ให้เกิดขึ้นได้อย่างไร
การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตประจำวันอาจช่วยให้คุณป้องกันลมพิษไม่ให้เกิดได้ หากคุณมีอาการแพ้และคุณรู้ว่าสารใดมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดอาการแพ้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสและการรับประทานสิ่งที่ทำให้เกิดการแพ้คำถามที่พบบ่อย
ลมพิษเป็นโรคร้ายแรงหรือไม่ ลมพิษในตัวเองไม่ใช่อาการร้ายแรง อย่างไรก็ตาม ลมพิษอาจเกิดขึ้นได้จากปฏิกิริยาการแพ้อย่างรุนแรงที่เรียกว่า แอนาฟิแล็กซิส หากคุณมีอาการของโรคภูมิแพ้ นี่เป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ โทร 1669 ทันทีและขอรถพยาบาลหากคุณหรือคนอื่นกำลังประสบกับภาวะภูมิแพ้ ลมพิษเป็นโรคภูมิแพ้หรือไม่ ลมพิษหรือลมพิษเป็นผื่นชนิดหนึ่ง อาจเป็นผลมาจากการแพ้ ตัวกระตุ้นอื่นๆ เช่น อะดรีนาลิน ภาวะสุขภาพพื้นฐาน หรือปัจจัยอื่นๆ ลมพิษแบบเฉียบพลันจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและหายไปภายใน 6 สัปดาห์ ในขณะที่ลมพิษแบบเรื้อรังสามารถคงอยู่ได้นานหลายเดือนหรือหลายปี โรคลมพิษทำให้เกิดโรคอะไรได้บ้างชลฃต- โรคช่องท้อง
- ผิวหนังอักเสบ
- โรคเบาหวาน
- โรคลูปัส
- โพลีไมโออักเสบ
- โรคไขข้ออักเสบ
- โรคต่อมไทรอยด์
- โรคด่างขาว
ลิงค์ด้านล่างนี้เป็นแหล่งข้อมูลของบทความของเรา
- https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/guide/hives-urticaria-angioedema
- https://www.nhs.uk/conditions/hives/
- https://www.aad.org/public/diseases/a-z/hives-overview
- https://www.drugs.com/health-guide/hives-urticaria.html
- https://medlineplus.gov/hives.html
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น