ผงทานาคา (Thanaka Powder)

21.11.2567

ผงทานาคา คืออะไร

ทานาคา หรือ กาซาน่า มีชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Limonia Acidissima Linn. โดยต้นทานาคาเป็นไม้เนื้อแข็งที่พบตามพื้นที่ในเขตแล้ง (Dry Zone) ตอนกลางของประเทศพม่า หรือแถบเมืองพุกาม มัณฑะเลย์ ชเวโบ เป็นสมุนไพรกับความงามที่มีกลิ่นหอมและเป็นสมุนไพรที่ใช้ประโยชน์ได้เกือบทุกส่วน อาทิเปลือกทานาคาจะนำมาใช้ประโยชน์เมื่อต้นทานาคามีอายุราว ๆ 35 ปี โดยตัดเป็นท่อนๆ ขนาดพอดีมือ แล้วนำส่วนเปลือกไม้มาฝน หรือบดกับหินขัด พรมน้ำลงไปเล็กน้อย จะได้ผงสีออกขาวเหลือง มาใช้ทาหน้า และตัว ไม่พบหลักฐานว่าชาวพม่าใช้แป้งทานาคาประทินผิวกันเมื่อใด ข้อสันนิษฐานแรกคาดว่าชาวมอญได้รับอิทธิพลมาจากชาวฮินดูในประเทศอินเดียในการนำมาใช้ เพราะในราชสำนักของอินเดียมีธรรมเนียมการใช้ไม้จันทน์หอม (Sandal Wood) ทาบริเวณหน้าผาก และสันจมูกของราชโอรส ราชธิดาที่เพิ่งมีประสูติกาลเพื่อรับขวัญ

สรรพคุณ ทานาคา คือ

ส่วนเปลือกของทานาคามีรสขม หอม ใช้แก้ไข้ ขับผายลม บำรุงจิตใจให้ชุ่มชื่น นิยมนำมาใช้ในตำรับยาหอม โดยบดให้เป็นผง แล้วชงกินกับน้ำอุ่น ช่วยบำรุงหัวใจ แก้วิงเวียนศรีษะ แก้อาการอ่อนเพลียได้ หรือนำมาเปลือกต้มกับน้ำร้อนให้หญิงหลังคลอดดื่มเพื่อช่วยบำรุงกำลัง สมุนไพรเพื่อความงามโดยนำเปลือก และแก่นไม้ไปตากแห้ง แล้วนำมาฝน หรือบดเป็นผง ใช้ทานาคาผงทาตัว ทาใบหน้าเพื่อบำรุงผิว ลดผดผื่น สิว ฝ้า รอยด่างดำต่าง ๆ ปัจจุบันมีการนำทานาคามาใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ หรือทำผงทานาคาพอกหน้า ด้วยการผสมกับโยเกิร์ต หรือน้ำผึ้ง ในอัตราส่วน 3 ต่อ 1 แล้วพอกใบหน้าหรือผิวกายนาน 10 – 15 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด แก่นทานาคานิยมนำมาใช้เป็นยาดองเหล้า กินแก้กษัย (อาการป่วยเกิดจากหลายสาเหตุ มักทำให้ร่างกายทรุดโทรม ซูบผอม โลหิตจาง) Thanaka Powder

ส่วนลำต้นนำมาต้มน้ำดื่ม ครั้งละครึ่งแก้ววันละ 3 ครั้ง เช้า กลางวัน เย็น เพื่อบรรเทาอาการปวดตามข้อ ปวดเมื่อย เส้นตึง แก้ร้อนใน แก้อาการของโรคประดง (เป็นโรคที่ทำให้ผิวหนังเกิดผื่นคัน เป็นเม็ดคล้ายผด มักมีอาการคันรุนแรงร่วมด้วย) ผลสุกของทานาคาสามารถรับประทานเป็นอาหารได้ มีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง ทำให้เจริญอาหาร สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับใบหน้า ได้แก่ทานาคานั้นจะช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของผิวจากแสงอัลตร้าไวโอเลต ที่ถือเป็นสาเหตุสำคัญของการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวหนัง และทำให้คอลลาเจนใต้ผิวหนังแข็งแรง และยืดหยุ่น เนื่องจากในทานาคามีสารสำคัญคือ Marmesin ที่เป็นสารกรองแสงอัลตร้าไวโอเลต และช่วยชะลอความแก่ได้ด้วย ทานาคา สิวไม่ใช่สมุนไพรที่ใช้รักษาสิวโดยเฉพาะ แต่พบว่ามีผลในทางอ้อม เพราะช่วยลดผดผื่น อาการคันและระคายเคืองของผิวหน้า และจะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อนำมาผสมกับน้ำมะนาว เพราะมะนาวอุดมด้วยวิตามินซี และกรดผลไม้ที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ช่วยกัดหัวสิว และทำให้หัวสิวแห้ง ก่อนค่อย ๆ ยุบลง แต่การรักษาความสะอาดของใบหน้าก็ยังเป็นกลไกในการลดสิวอยู่

วิธีใช้แป้งทานาคาประทินผิว

ใช้ผสมกับน้ำสะอาดธรรมดา ไม่ควรอุ่นหรือเย็นเกินไป เป็นวิธีการดั่งเดิมที่ชาวพม่านิยมใช้บำรุงผิวมาช้านาน
กรณีเป็นสิวอักเสบ ใช้ทานาคาผงบรรเทาอาการได้ แต่ห้ามออกแรงขัดผิวแรง ๆ โดยเด็ดขาด เพราะยิ่งขัดสิวจะยิ่งเกิดมากขึ้น
ทานาคาเหมาะกับสภาพผิวทุกแบบ ทั้งผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม เวลาทาควรทาอย่างเบามือ สามารถนำทานาคา พอกหน้าทั้งคืนได้
เวลาล้างสมุนไพรทานาคาใช้เพียงน้ำธรรมดาล้างออก ไม่ควรใช้น้ำอุ่น และล้างให้เบาที่สุด ปล่อยน้ำราดบนหน้าสัก 2 – 3 นาที แล้วใช้ฝ่ามือลูบเบา ๆ ให้สะอาด
กรณีใช้ทานาคาผสมน้ำผึ้ง หรือน้ำมะนาว ระหว่าง ทาหน้า อาจนวดเบา ๆ ไปด้วย นานประมาณ 10 นาทีแล้วจึงล้างออก

สรุปแป้งพม่าทานาคาดีไหม

ทานาคาเป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัยเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย แต่ไม่ควรใช้แรงขัดที่รุนแรง แม้แต่กรณีที่ใช้รักษาสิวอุดตัน เพียงพอกหน้าทิ้งไว้ทั้งคือ หรือประมาณ 5 นาที ก็เพียงพอแล้ว เมื่อใช้ไปสักระยะจะแก้ปัญหาหน้ามันได้ ผิวหน้าจะละเอียดเนียนขึ้น บางคนพบว่าหน้าจะขาวขึ้นด้วย หากคุณใช้ทานาคาในระหว่างวัน ให้ตามด้วยครีมกันแดดแบบสเปกตรัมกว้างเพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวีที่เป็นอันตราย ทานาคาให้การปกป้องแสงแดดบ้าง แต่ควรใช้ครีมกันแดดเพิ่มเติมเสมอ สังเกตว่าผิวของคุณตอบสนองต่อทานาคาอย่างไร หากคุณมีอาการระคายเคืองหรือไม่สบายตัว ให้ลดความถี่ในการใช้หรือหยุดใช้ สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงปฏิกิริยาของผิว ทานาคามีชื่อเสียงในด้านคุณสมบัติในการทำความเย็นผิว และเชื่อกันว่ามีประโยชน์ในการดูแลผิวหลายประการ รวมถึงการลดสิว ป้องกันความเสียหายจากแสงแดด และช่วยให้ผิวเรียบเนียน อย่างไรก็ตาม การตอบสนองของแต่ละคนต่อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอาจแตกต่างกันไป ดังนั้นจึงแนะนำให้ทำการทดสอบแพทช์ก่อนทาลงบนบริเวณกว้างของผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีผิวแพ้ง่ายหรือมีแนวโน้มที่จะเกิดอาการแพ้ หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ทานาคา โปรดปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อขอคำแนะนำเฉพาะบุคคล