จุดเด่นของยาทาดาลาฟิล
- ทาดาลาฟิลชนิดเม็ดรับประทานมีทั้งแบบยาสามัญและยาทางการค้า โดยชื่อยาทางการค้าคือ Cialis, Adcirca
- ทาดาลาฟิลมีแต่แบบชนิดเม็ดรับประทานเพียงอย่างเดียว
- ทาดาลาฟิลใช้ในการรักษาอาการในผู้ชายอยู่ 2 สภาวะ: ต่อมลูกหมากโต (benign prostatic hyperplasia :BPH) และ อวัยวะเพศไม่แข็งตัว (erectile dysfunction :ED) ซึ่งก็มีการใช้ทาดาลาฟิลในการรักษาภาวะความดันโลหิตในปอดสูง(pulmonary arterial hypertension :PAH)ด้วยเช่นกัน
ข้อควรระวังที่สำคัญ
- โรคหัวใจ: ไม่ควรใช้ยาทาดาลาฟิลเมื่อคุณมีอาการของโรคหัวใจและแพทย์ได้แนะนำให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมทางเพศ รีบโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินหากคุณมีอาการของโรคหัวใจขณะมีกิจกรรมทางเพศ เช่น อาการเจ็บแน่นหน้าอก, เวียนศีรษะ หรือคลื่นไส้ กิจกรรมทางเพศทำให้เกิดแรงกดดัน หรือสร้างสภาวะเครียดให้กับหัวใจของคุณ โดยเฉพาะเมื่อหัวใจของคุณพร้อมที่จะอ่อนแรงจากภาวะหัวใจล้มเหลวหรือโรคหัวใจ
- ภาวะองคชาตแข็งค้าง (Priapism) : เป็นภาวะที่องคชาตแข็งตัวค้างอยู่อย่างนั้น แม้ว่าจะไม่ได้รับการกระตุ้นเพิ่มอีกก็ตาม หากไม่ได้รับการรักษาอาจเกิดความเสียหายกับองคชาตอย่างถาวร ซึ่งควาเสียหายที่สำคัญคือการที่องคชาตอาจไม่สามารถกลับมาแข็งตัวได้อีก หากองคชาตแข็งตัวนานกว่า 4 ชม.ควรแจ้งแพทย์โดยเร็ว
Tadalafil คืออะไร
ทาดาลาฟิล (Tadalafil) เป็นยาที่ต้องมีใบสั่งแพทย์ เป็นยาที่มาในรูปแบบเม็ดรับประทาน ทาดาลาฟิลชนิดเม็ดรับประทานมีทั้งแบบที่เป็นตัวยาสามัญและตัวยาทางการค้าชื่อ Cialis และ Adcirca ซึ่งตัวยาสามัญมักมีราคาที่ถูกกว่า แต่บางครั้งอาจมีขนาดยาที่ไม่หลากหลายเมื่อเทียบกับตัวยาทางการค้าCialis ใช้เพื่ออะไร
Cialis ใช้ในการรักษาผู้ชายที่มีปัญหาต่อมลูกหมากโต หรือ อวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือทั้งสองอย่าง ส่วน Adcirca ใช้ในการรักษาภาวะความดันโลหิตภายในปอดสูง ต่อมลูกหมากโต เป็นภาวะที่ต่อมลูกหมากมีขนาดใหญ่ขึ้นผิดปกติแต่ไม่ใช่เนื้อร้าย โดยภาวะดังกล่าวจะไปกดเบียดท่อปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะลำบาก ปวดเวลาปัสสาวะ และทำให้ต้องปัสสาวะบ่อยครั้ง ภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัว เป็นภาวะที่องคชาตมีเลือดมาเลี้ยงไม่เพียงพอที่จะทำให้เกิดการแข็งตัวและเพิ่มขนาดเวลามีการตื่นตัวทางเพศเกิดขึ้น ซึ่งภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัวสามารถป้องกันได้หากอวัยวะเพศยังคงแข็งตัว ภาวะความดันโลหิตภายในปอดสูง เป็นภาวะที่พบได้น้อย แต่เป็นภาวะความดันโลหิตสูงที่สำคัญ โดยเกิดขึ้นภายในหลอดเลือดแดงภายในปอด ซึ่งเป็นหลอดเลือดที่มาเลี้ยงปอดการออกฤทธิ์
ทาดาลาฟิลถูกจัดให้อยู่ในยากลุ่มยับยั้งฟอสโฟไดเอสเตอเรส ชนิดที่ 5 (phosphodiesterase type 5 (PDE5) inhibitors) ทาดาลาฟิลอาจช่วยให้กล้ามเนื้อต่อมลูกหมากและกระเพาะปัสสาวะผ่อนคลาย ช่วยบรรเทาอาการต่อมลูกหมากโตให้ดีขึ้น ทาดาลาฟิลยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดมายังองคชาต ทำให้ผู้ชายสามารถเกิดการแข็งตัวของอวัยวะเพศและคงอยู่อย่างนั้น จึงเป็นการบรรเทาอาการองคชาตไม่แข็งตัวได้ แต่คุณต้องมีอารมณ์ทางเพศร่วมด้วยยาถึงจะออกฤทธิ์ช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัว สำหรับภาวะความดันโลหิตภายในปอดสูง ทาดาลาฟิลจะทำให้หลอดเลือดภายในปอดคลายตัว เพิ่มการไหลเวียนของเลือดมายังปอดผลข้างเคียงของทาดาลาฟิล
ทาดาลาฟิลชนิดเม็ดรับประทานมักไม่ทำให้เกิดอาการง่วงนอน เว้นเสียแต่เกิดจากสาเหตุอื่นผลข้างเคียงทั่วไป
ผลข้างเคียงทั่วไปที่เกิดขึ้นได้ เช่น:- ปวดศีรษะ
- ปวดท้อง
- ปวดหลัง
- ปวดกล้ามเนื้อ
- เกิดรอยแดงตามผิวหนัง (Flushing)
- คัดจมูก น้ำมูกไหล
- ท้องร่วง
ผลข้างเคียงที่รุนแรง
หากคุณมีอาการที่รุนแรงจนคุกคามชีวิต ให้รีบโทรหาหน่วยฉุกเฉิน 1669 เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที อาการได้แก่:- องคชาตแข็งค้าง (Priapism):
- องคชาตเกิดการแข็งตัวอย่างอยู่อย่างนั้น ทำให้เจ็บปวดมาก
- การมองเห็นเปลี่ยนไป:
- เห็นแสงทีฟ้าเวลามองไปที่วัตถุ
- บอกความแตกต่างระหว่างสีเขียวกับสีฟ้าได้ยากมาก
- การมองเห็นลดลงอย่างกระทันหันจากตาข้างเดียวจนลามเป็นทั้งสองข้าง
- ผมร่วง:
- ผมหลุดร่วงอย่างรวดเร็ว
- ได้ยินเสียงดังภายในหู
- เวียนศีรษะ
- ความดันโลหิตต่ำ:
- รู้สึกมึนงง หรือวิงเวียนศีรษะ
- เป็นลม
- เจ็บแน่นหน้าอก (Angina)
ทาดาลาฟิลอาจเกิดปฏิกิริยาต่อกันกับยาอื่นๆ
ทาดาลาฟิลชนิดเม็ดรับประทานสามารถเกิดปฏิกิริยาต่อกันกับยาอื่นๆ, วิตามิน หรือสมุนไพรที่คุณรับประทาน การเกิดปฏิกิริยาต่อกันจะเกิดเมื่อส่วนประกอบของยาแต่ละตัวเปลี่ยนการออกฤทธิ์ของยา ซึ่งอาจเป็นอันตรายหรือป้องกันไม่ให้ยาออกฤทธิ์ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปฏิกิริยาต่อกันของยา แพทย์จะบริหารยาทั้งหมดของคุณอย่างระมัดระวัง คุณควรแจ้งรายการยาทั้งหมดที่คุณรับประทานแก่แพทย์ เพื่อค้นหาว่ายาตัวไหนก่อปฏิกิริยาต่อกันบ้าง ตัวอย่างยาที่อาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อกันกับทาดาลาฟิลกลุ่มยาที่มีผลต่อความดันโลหิต
โดยยากลุ่มที่จะกล่าวต่อไปนี้จะมีผลต่อความดันโลหิต ทำให้ความดันโลหิตของคุณต่ำอย่างกระทันหัน ต่ำถึงขั้นอันตรายได้ เป็นสาเหตุให้วิงเวียนศีรษะและเป็นลมในเวลาต่อมา ยาขยายหลอดเลือด (Nitrates)- Nitroglycerin
- Isosorbide dinitrate
- Isosorbide mononitrate
- Amyl nitrite
- Butyl nitrite
- Terazosin
- Tamsulosin
- Doxazosin
- Prazosin
- Alfuzosin
- Ritonavir
- Lopinavir/ritonavir
- Ketoconazole
- Itraconazole
- Clarithromycin
- Erythromycin
- Telithromycin
- Rifampin
- Sildenafil
- Vardenafil
- Riociguat
- Magnesium hydroxide/ Aluminum hydroxide
- Carbamazepine
- Phenytoin
- Phenobarbital
ข้อควรระวัง
ทาดาลาฟิลมาพร้อมกับข้อควรระวังหลายประการอาการแพ้
หากอาการเป็นมากขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ หรือโทร 1669 เรียกหน่วยฉุกเฉิน หากเคยมีประวัติallergy-0094/”>แพ้ยาทาดาลาฟิลมาแล้ว ไม่ควรใช้ยาดังกล่าวอีก เพราะอาการแพ้อาจรุนแรงขึ้น อาจถึงแก่ชีวิตได้เกรฟฟรุ๊ต (Grapefruit)
การรับประทานเกรฟฟรุ๊ต หรือส้มโอ อาจส่งผลเพิ่มระดับของทาดาลาฟิลในกระแสเลือดได้ นั้นยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสเกิดผลข้างเคียงจากยาแอลกอฮอล์
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากขณะที่ใช้ยาทาดาลาฟิลไปด้วยนั้น ทั้งแอลกอฮอร์และทาดาลาฟิลจะไปออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือด ผลที่ตามมาคือ ความดันโลหิตที่ต่ำผู้ที่มีภาวะสุขภาพ
โรคหัวใจ: กิจกรรมทางเพศอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้ การใช้ทาดาลาฟิลอาจยิ่งเพิ่มความเสี่ยงนั้น จึงไม่ควรใช้ยาทาดาลาฟิลในผู้ที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจ หรือแพทย์ประจำตัวให้หลีกเลี่ยงกิจกรรมทางเพศ ผู้ที่อวัยวะเพศแข็งตัวนาน: ภาวะที่ควรระวังคือภาวะองคชาตแข็งค้าง (Priapism) ซึ่งภาวะดังกล่าวทำให้เจ็บปวดมาก เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากเคยมีประวัติดังกล่าว อาการได้แก่:- ปัญหาเกี่ยวกับเลือด เช่น โรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว (Sickle cell anemia), โรคมะเร็งไขกระดูก (multiple myeloma) หรือโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (leukemia)
- โรคเพโรนีย์ (Peyronie’s disease) เป็นโรคที่อวัยวะเพศโค้งงอผิดรูป
ข้อควรระวังในคนกลุ่มอื่นๆ
ในหญิงตั้งครรภ์: มีการศึกษาในสัตว์ทดลอง ไม่มีผลบอกว่ามีผลต่อเด็กในครรภ์ อย่างไรก็ตามยังไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจใช้ยาดังกล่าวในหญิงตั้งครรภ์สำหรับภาวะความดันโลหิตสูงในปอด แจ้งให้แพทย์ทราบหารคุณตั้งครรภ์หรือกำลังวางแผลที่จะมีบุตร คุณแม่ที่ให้นมบุตร: ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าตัวยาทาดาลาฟิลผ่านทางนมแม่หรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา ในผู้สูงอายุ: ในผู้ที่อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป กระบวนการทางร่างกายจะดำเนินไปอย่างเชื่องช้า ฉะนั้นแพทย์จะเริ่มยาในขนาดต่ำให้ก่อน แต่จะเพิ่มขนาดยาขึ้นไปไม่มาก เพราะขนาดยาในปริมาณมากอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ในเด็ก: ยังไม่มีการศึกษาตัวยาในเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปีวิธีใช้ยา
อาจไม่มีขนาดยาที่แน่นอน แพทย์จะปรับขนาดยาตามความเหมาะสมกับคุณ เพราะขนาดยาขึ้นอยู่กับ:- อายุ
- อาการของโรคขณะที่ทำการรักษา
- ความรุนแรงของโรค
- ยาอื่นๆที่ใช้ในการรักษา
- ปฏิกิริยาของคุณที่มีต่อยาในครั้งแรก
ขนาดยา
ชื่สามัญ: Tadalafil รูปแบบ: ชนิดเม็ดรับประทาน- ขนาด: 2.5 มก, 5 มก, 10 มก และ 20 มก.
- รูปแบบ: ชนิดเม็ดรับประทาน
- ขนาด: 2.5 มก, 5 มก, 10 มก และ 20 มก.
สำหรับต่อมลูกหมากโต (Benign prostatic hyperplasia :BPH)
ผู้ใหญ่ (อายุ 18–64 ปี)- ขนาดทั่วไป: 5 มก. 1 เม็ด/วัน
- ให้รับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวัน ไม่รับประทานยามากกว่าที่แพทย์สั่ง
- การรับประทานร่วมกับยาอื่น: หากรับประทานยาทาดาลาฟิลร่วมกับ finasteride ซึ่งเป็นยารักษาต่อมลูกหมากโตเหมือนกัน ให้คุณรับประทานทาดาลาฟิล 5 มก.วันละครั้ง นาน 26 สัปดาห์
สำหรับภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัว (Erectile dysfunction :ED)
ผู้ใหญ่ (อายุ 18–64 ปี) ให้รับประทานทาดาลาฟิลเมื่อจำเป็นหรือวันละครั้งเท่านั้น ห้ามรับประทานเกินกว่าวันละหนึ่งครั้ง ขนาดยาเมื่อจำเป็น :- ขนาดเริ่มต้น: 10 มก.
- การเพิ่มขนาดยา: แพทย์จะเพิ่มขนาดยาไปเป็น 20 มก.หรือปรับลดขนาดยาลงเหลือ 5 มก. ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของยาว่าออกฤทธิ์มากน้อยแค่ไหน
- ใช้ยาเมื่อไร: รับประทานยาทาดาลาฟิล 1 เม็ดก่อนมีกิจกรรมทางเพศ โดยคุณจะสามารถมีกิจกรรมทางเพศได้ 30 นาทีหลังรับประทานยาและยาวนานไปจนถึง 36 ชม.
- ขนาดเริ่มต้น: 2.5 มก./วัน
- การเพิ่มขนาดยา: แพทย์จะเพิ่มขนาดยาไปเป็น 5 มก./วัน ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของยาว่าออกฤทธิ์มากน้อยแค่ไหน
- ใช้ยาเมื่อไร: รับประทานยาทาดาลาฟิลทุกวัน โดยรับประทานในเวลาเดียวกันในแต่ละวัน คุณอาจลองมีกิจกรรมทางเพศระหว่างการใช้ยาได้
สำหรับภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัว และต่อมลูกหมากโต (Erectile dysfunction and benign prostatic hyperplasia :ED/BPH)
ผู้ใหญ่ (อายุ 18–64 ปี)- ขนาดทั่วไป: 5 มก. 1 เม็ด/วัน
- ใช้ยาเมื่อไร: รับประทานในเวลาเดียวกันในแต่ละวัน ห้ามรับประทานยาเกินกว่า 1 ครั้งต่อวัน คุณอาจลองมีกิจกรรมทางเพศระหว่างการใช้ยาได้ แต่คุณต้องมีอารมณ์ทางเพศร่วมด้วยเพื่อช่วยให้ยามีประสิทธิภาพในการทำให้อวัยวะเพศเกิดการแข็งตัว
สำหรับความดัลโลหิตสูงภายในปอด (Pulmonary arterial hypertension : PAH)
ชื่อทางการค้า: Adcirca- รูปแบบ: ชนิดเม็ดรับประทาน
- ขนาด: 20 มก.
- ขนาดเริ่มต้น: 40 มก. (รับประทานเม็ดละ 20 มก.จำนวน 2 เม็ด) วันละครั้ง
- ใช้ยาเมื่อไร: รับประทานในเวลาเดียวกันในแต่ละวัน
ข้อควรพิจารณาในการให้ยาขนาดพิเศษ
- ผู้ที่เป็นโรคไต: ร่างกายจะขับยาทาดาลาฟิลออกทางไต หากไตของคุณทำงานบกพร่อง การทานยามากๆอาจก่อให้เกิดการสะสมภายในร่างกาย เพื่อให้ร่างกายขจัดยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แพทย์ให้ยาในขนาดต่ำ โดยขนาดยาจะเป็นไปตามที่แพทย์กำหนด ขึ้นอยู่กับการทำงานของไต หรือการฟอกเลือดของคุณ
- ผู้ที่เป็นโรคตับ: ทาดาลาฟิลผ่านกระบวนการสังเคราะห์ยาที่ตับ ฉะนั้นหากตับของคุณทำงานบกพร่อง อาจเกิดการสะสมของยาภายในร่างกายได้ การลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น แพทย์ก็จะให้ยาในขนาดต่ำ และปรับยาตามหน้าที่ของตับที่เป็นอยู่
รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง
การใช้ยาทาดาลาฟิลเป็นเวลานาน อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงได้ หากคุณไม่รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง หากไม่รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง: หากคุณกำลังรักษาภาวะต่อมลูกหมากโต อาการของคุณจะไม่ดีขึ้น ทั้งยังจะเพิ่มความลำบากในการปัสสาวะ, เบ่งปัสสาวะ และปัสสาวะไม่พุ่ง รวมไปถึงปัสสาวะบ่อย หากคุณกำลังรักษาภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัว องคชาตของคุณก็จะไปแข็งตัว แม้ว่าจะมีอารมณ์ทางเพศ หรือมีกิจกรรมทางเพศ หากคุณกำลังรักษาภาวะความดันโลหิตสูงภายในปอด มันจะไม่ช่วยให้อาการของคุณดีขึ้น ยิ่งทำให้อาการยิ่งแย่ลง เช่น หายใจถี่ขึ้นขณะออกกำลังกาย หากทานยาเกินขนาด:ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสเกิดผลข้างเคียงของยา หากลืมยา: ให้รับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่ไม่มากไปกว่า 1 ครั้ง/วัน อย่ารับประทานยาเป็นสองเท่า เพราะอาจเกิดอันตรายได้ อย่างไรถึงเรียกว่ายามีประสิทธิภาพในการออกฤทธิ์: อาการของคุณจะดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นอาการของต่อมลูกหมากโต, อาการของอวัยวะเพศที่ไม่แข็งตัว หรือภาวะความดันโลหิตภายในปอดสูงข้อควรพิจารณาที่สำคัญ
ข้อมูลทั่วไป
- หากแพทย์สั่งให้ทานยาวันละครั้ง คุณควรรับประทานยาทุกวัน โดยเป็นเวลาเดียวกันในแต่ละวัน
- หากตัด หรือหักเม็ดยา ให้รับประทานตามขนาดที่ระบุไว้
การเก็บรักษา
- เก็บยาไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิ 15-30°C (59-86°F)
- อย่าเก็บยาไว้ในที่ที่อุณหภูมิสูง
- หลีกเลี่ยงที่ที่มีความชื้น เช่นห้องน้ำ
ใครที่ควรหลีกเลี่ยง Tadalafil
Tadalafil เป็นยาที่ใช้กันทั่วไปในการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) และอาการของต่อมลูกหมากโต (BPH) นอกจากนี้ยังกำหนดไว้ภายใต้ชื่อแบรนด์ Adcirca เพื่อใช้รักษาความดันโลหิตสูงในปอด แม้ว่าโดยทั่วไปแล้ว Tadalafil จะสามารถใช้ Tadalafil ได้ดีสำหรับหลาย ๆ คน แต่ก็มีกลุ่มคนบางกลุ่มที่ไม่ควรรับประทานยานี้หรือควรใช้ด้วยความระมัดระวัง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพก่อนที่จะเริ่ม Tadalafil หรือยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์อื่นๆ ข้อควรพิจารณาบางประการมีดังนี้:- ยาไนเตรต:
-
-
- บุคคลที่รับประทานไนเตรตเพื่อรักษาอาการเจ็บหน้าอกหรือภาวะหัวใจ เช่น ไนโตรกลีเซอรีน ไม่ควรใช้ Tadalafil การรวมกันของ Tadalafil กับไนเตรตอาจทำให้ความดันโลหิตลดลงเป็นอันตรายได้
-
- อัลฟ่าบล็อคเกอร์:
-
-
- Tadalafil สามารถโต้ตอบกับอัลฟาบล็อคเกอร์ ซึ่งเป็นยาที่กำหนดให้โดยทั่วไปสำหรับการรักษาความดันโลหิตสูงและภาวะต่อมลูกหมาก การใช้ Tadalafil กับอัลฟาบล็อคเกอร์อาจทำให้ความดันโลหิตลดลงได้
-
- น้ำเกรพฟรุต:
-
-
- ไม่แนะนำให้ดื่มน้ำเกรพฟรุตในขณะที่รับประทาน Tadalafil เนื่องจากอาจทำให้ระดับยาในเลือดเพิ่มขึ้น และอาจนำไปสู่ความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงเพิ่มขึ้น
-
- สภาพหัวใจที่ร้ายแรง:
-
-
- บุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจอย่างรุนแรง เช่น เพิ่งมีอาการหัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบที่ไม่แน่นอน หรือภาวะหัวใจล้มเหลวอย่างรุนแรง อาจได้รับคำแนะนำให้หลีกเลี่ยง Tadalafil หรือใช้ด้วยความระมัดระวังเนื่องจากอาจมีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ
-
- การด้อยค่าของตับหรือไต:
-
-
- ผู้ที่มีความบกพร่องทางตับหรือไตอย่างรุนแรงอาจจำเป็นต้องปรับขนาดยาหรือติดตามอย่างระมัดระวังเมื่อใช้ Tadalafil
-
- ปัญหาสายตา:
-
-
- บุคคลที่มีประวัติปัญหาการมองเห็น รวมถึงโรคตาทางพันธุกรรมที่หายากที่เรียกว่า retinitis pigmentosa ควรใช้ Tadalafil ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็น
-
- โรคภูมิแพ้และภูมิไวเกิน:
-
-
- บุคคลที่ทราบว่าเป็นโรคภูมิแพ้หรือแพ้ Tadalafil หรือส่วนประกอบใด ๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานี้
-
- ความผิดปกติของอวัยวะเพศชาย:
-
- ควรใช้ Tadalafil ด้วยความระมัดระวังในบุคคลที่มีความผิดปกติทางกายวิภาคของอวัยวะเพศชาย เช่น โรค Peyronie เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน
นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.webmd.com/drugs/2/drug-77875/tadalafil-oral/details
- https://www.nhs.uk/medicines/tadalafil/
- https://medlineplus.gov/druginfo/meds/a604008.html
Tadalafil.จะขอซื้อได้อย่างไรครับ