หนึ่งในความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการทำกิจกรรมกลางแจ้งคือ การอยู่กลางแดดอ่อนๆ อยู่ใต้แสงอันอบอุ่น แสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลต (รังสียูวี) และการสัมผัสรังสีเหล่านั้นสามารถก่อให้เกิดอาการผิวไหม้แดด ผิวแก่ก่อนวัย และมะเร็งผิวหนัง
การเลือกเสื้อผ้าที่ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องแสงแดด และได้ผ่านการทดสอบว่าสามารถป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตได้ จะช่วยทำให้ควบคุมการสัมผัสรังสีในระดับทั้งหมดได้
อัตรา UPF25คือผ้าที่ยอมให้รังสียูวีผ่าน 1/25 (ราว 4 เปอร์เซ็นต์) ผ้าที่มีอัตรา UPF 50 คือการยอมให้ยูวีผ่าน 1/50 (ราว 2 เปอร์เซ็นต์) เท่านั้น และผ้าที่ยอมให้ยูวีผ่านน้อยกว่า 2 เปอร์เซ็นต์จะติดฉลาก UPF 50+
ทำไมจึงไม่เคยเห็นอัตราที่ต่ำกว่า UPF : ผ้าที่มีอัตราต่ำกว่า UPF 15จะไม่ถูกจัดว่าเป็นเสื้อผ้าป้องกันรังสียูวี ยกตัวอย่างเช่น เสื้อเชิ้ตผ้าคอตต้อนสีขาวที่มีอัตรา UPF 5 นั้นหมายความว่ายอมให้รังสียูวีผ่าน 20 เปอร์เซ็นต์ (1/5)
ปัจจัยที่ใช้ในเป็นเกณฑ์ UPF: นักซื้อควรต้องมองหาค่า UPF ที่ระบุไว้ที่ผ้าเท่านั้น โดยใช้เกณฑ์ดังต่อไปนี้:
ใครคือคนที่ได้รับประโยชน์จากเสื้อกันยูวี
อัตราเสื้อผ้า UPF ช่วยปกป้องทุกคนจากความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เกิดจากแสงยูวี แต่จะมีประโยชน์เป็นพิเศษสำหรับ:- คนที่ไวต่อแสงแดด: คนที่มีผิวขาวจะไหม้แดดได้ง่ายกว่า และมีความเสี่ยงต่อรังสียูวิได้มากกว่า
- เด็ก: เด็กมีผิวที่บอบบาง ความเสียหายในช่วงเด็กสามารถเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดปัญหาในช่วงบั้นปลายของชีวิต
- คนที่อยู่ในพื้นที่สูง บริเวณเส้นศูนย์สูตร หรืออยู่กับหิมะหรือน้ำ: ความเข้มข้นของแสงอาทิตย์คือสิ่งที่ส่งผลในแต่ละสิ่งแวดล้อม
- คนที่รับประทานยา: การไวต่อแสงอาทิตย์เพิ่มมากขึ้นได้โดยการใช้ยาซึ่งรวมถึงยารักษาสิว ยาแก้แพ้ ยาปฏิชีวนะ ยาต้านการอักเสบบางชนิด และอาหารเสริมสมุนไพร ควรตรวจสอบยาทั้งหมดที่ใช้อย่างระมัดระวัง
เกณฑ์วัดการป้องกันของเสื้อผ้าป้องกันยูวี
UPF คือเกณฑ์การวัดที่ใช้กับเครื่องแต่งกาย เหมือนกันกับค่า SPF (ค่าป้องกันแสงแดด) คืออัตราที่ใช้ในผลิตภัณฑ์กันแดด เมื่อไปที่ร้านเสื้อผ้าให้มองหาค่า UPFสูงเพื่อการป้องกันแสงแดดได้ดีกว่าอัตรา UPF | การป้องกัน | ประสิทธิภาพในการรับรังสียูวี (%) |
15, 20 | ดี | 6.7-4.2 |
25, 30, 35 | ดีมาก | 4.1-2.6 |
40, 45, 50, 50+ | ดีเยี่ยม | น้อยกว่า 2.5 |
- โครงสร้างConstruction: ความหนาแน่น โครงสร้างที่ยอมให้แสงยูวีผ่าน ผ้าที่มีความหนาช่วยลดการสัมผัสยูวี
- สีColor: ผ้าสีเข้มสามารถดูดซับรังสีอื่นๆได้มากกว่า ซึ่งรวมถึงรังสียูวีด้วย ในสีเดียวกัน สีที่สดใสดีกว่าสีที่อ่อนกว่า
- การรักษาTreatments: สารเคมี และสีย้อมมีประสิทธิภาพต่อการดูดซับแสงยูวีซึ่งสามารถนำไปใช้เพื่อเพิ่มอัตรา UPF
- ชนิดของเนื้อผ้าFiber type: โพลีเอสเตอร์ คือ สิ่งที่ในการขัดขวางแสงยูวี รวมถึงผ้าไนลอนด้วย ผ้าขนสัตว์และผ้าไหมมีประสิทธิภาพปานกลาง คอตต้อน เรยอน ลินิน และผ้าใยกัญชงมีคะแนนต่ำหากปราศจากการเพิ่มเติมสาร
- ความเปียกชื้นของผ้า: วัสดุทุกชนิดเมื่อเปียกชื้นจะลดอัตรา UPF ของเนื้อผ้าลง ผ้าโพลีเอสเตอร์อาจป้องกันได้น้อยกว่าเมื่อเปียกชื้น
- การสวมใส่ของผ้า: ผ้าที่เริ่มเก่าหรือซีดอาจทำให้ประสิทธิภาพในการกันแสงยูวีลดน้อยลง
- ความยืดหยุ่นของผ้า: ผ้าที่ยืดอาจสูญเสียอัตรา UPF ลงอย่างเห็นได้ชัดเจน จึงควรเปลี่ยนใหม่เมื่อรัดแน่นมากเกินไป
- น้ำยาซักผ้าที่ผสมน้ำยาฟอกขาว Detergents with brighteners: น้ำยาซักผ้าส่วนใหญ่มักมีส่วนประกอบเหล่านี้ และสารฟอกขาวนี้ส่งผลให้ค่า UPF หายไป
- การหดตัวShrinkage: ผ้าที่หดตัวทำให้เส่นใยแน่นขึ้น ส่งผลให้ค่า UPF เพิ่มขึ้น
- เสื้อผ้าที่มีอัตรา UPF ขึ้นอยู่กับหลังการซัก: เมื่อซักแล้วมีสีตก ค่า UPF ก็จะลดลง
- เสื้อผ้าที่มีคุณสมบัติของ UPF ตามธรรมชาติ: UPF ควรไม่มีการเปลี่ยนแปลงหลังการซัก -นอกเสียจากเพราะผ้าเริ่มขาด หรือสีจางลง
ลักษณะของเสื้อผ้า UPF
- ครอบคลุมมากขึ้น: เสื้อเชิ้ตบางชนิดมีปกเสื้อกันแสงแดด หรือที่บริเวณข้อมือที่มีรูปทรงขยายครอบคลุมไปถึงหลังมือ หมวกที่มีปีกกว้างและคลุมมาที่คอ
- การระบายอากาศ: ใยผ้าที่แน่น ผ้าหนา และที่คลอบคลุมมากขึ้นสามารถเก็บความร้อนไว้ภายใน ดังนั้นจึงควรมองหาตัวเลือกอื่น
- ตัดเย็บแบบหลวมๆ: การใช้เสื้อผ้าที่แน่นเกินไปผ้าจะมีการยืดขยายซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพในการกั้นแสงยูวีลดน้อยลง
- ผ้าชนิดแห้งไว: ผ้าเปียกทำให้อัตราค่าUPF ลดลงได้อย่างเห็นได้ชัดดังนั้นผ้าชนิดแห้งไวจะช่วยทำให้อัตรา UPF กลับคืน UPF กลับคืนได้ในไม่ช้า
ทางกันแดดเสมอแม้จะสวมใส่เสื้อผ้า
เสื้อผ้าที่มี UPFเพียงอย่างเดียวยังไม่สามารถป้องกันได้เต็มที่ การป้องกันแสงยูวียังคงต้องการ -:สวมเสื้อผ้าป้องกันยูวี- ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงในทุกบริเวณที่มีการสัมผัสกับผิว
- สวมแว่นตากันแดดที่สามารถป้องกันรังสียูวีได้ 100 เปอร์เซ็นต์
- ติดตาม และจำกัดช่วงเวลาในการโนรังสียูวี โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางวันที่สูงสุด ราว 9 โมงเช้าถึง 3 โมงเย็น
- จำไว้เสมอว่าแม้มีแผ่นกรองแสงก็ตามแต่แสงยูวีก็ยังคงทำให้ผิวเสียหายได้ ดังนั้นจึงควรป้องกันตัวเองแม้ในวันที่เต็มไปด้วยเมฆก็ตาม
ใครที่ควรใช้เสื้อผ้าป้องกันยูวี
บุคคลที่มีผิวแพ้ง่าย:
ประวัติความเป็นมาของผิวไหม้แดด:
- บุคคลที่มีประวัติผิวไหม้แดดหรือไวต่อแสงแดดเนื่องจากสภาวะต่างๆ เช่น การปะทุของแสงหลายรูปแบบ (PMLE) จะได้รับประโยชน์อย่างมากจากเสื้อผ้าที่ป้องกันแสงแดด เสื้อผ้าเหล่านี้ช่วยป้องกันรังสียูวีที่เป็นอันตรายอีกชั้นหนึ่ง
สภาพผิว:
- ผู้ที่มีสภาพผิว เช่น กลากหรือโรซาเซียอาจพบว่าเสื้อผ้าที่ป้องกันแสงแดดช่วยลดการระคายเคืองและอาการวูบวาบที่เกิดจากแสงแดด
ผู้ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง:
นักกีฬาและผู้ชื่นชอบกีฬา:
- ผู้ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น วิ่ง เดินป่า หรือเล่นกีฬา ต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นเวลานาน เสื้อผ้าป้องกันแสงแดดเป็นวิธีที่สะดวกและมีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงของการถูกแดดเผาและความเสียหายต่อผิวหนังในระยะยาว
ผู้ที่เที่ยวชายหาดและนักว่ายน้ำ:
- ผู้ชื่นชอบชายหาดและนักว่ายน้ำใช้เวลาอาบแดดเป็นเวลานาน เสื้อผ้าที่ป้องกันแสงแดด รวมถึงแรชการ์ดและเสื้อว่ายน้ำสามารถให้การปกปิดได้ครอบคลุม ช่วยลดความจำเป็นในการทาครีมกันแดดซ้ำอย่างต่อเนื่อง
คำแนะนำทางการแพทย์:
ผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็ง:
- บุคคลที่ต่อสู้กับโรคมะเร็งผิวหนังหรือมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากประวัติครอบครัวมักได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพให้สวมชุดป้องกันแสงแดดเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการป้องกันแสงแดด
ยาไวแสง:
- ยาบางชนิดทำให้บุคคลมีความไวต่อแสงแดดมากขึ้น ผู้ที่รับประทานยาดังกล่าว เช่น ยาปฏิชีวนะหรือการรักษาสิว จะได้รับประโยชน์จากการปกป้องเพิ่มเติมด้วยเสื้อผ้าป้องกันแสงแดด
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น