โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร (Stomach cancer) : อาการ สาเหตุ การรักษา

โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร (Stomach cancer) คือ การที่เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตในกระเพาะอาหาร บางครั้งเราเรียกโรคนี้ว่า มะเร็งระบบทางเดินอาหาร มะเร็งประเภทนี้ยากที่จะทำการวินิจฉัย เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการในระยะที่มะเร็งเริ่มต้น  มะเร็งกระเพาะอาหาร มีสาเหตุการตายอันดับที่ 3 จากการตายจากโรคมะเร็งทั้งหมดทั่วโลก สำหรับประเทศไทย มะเร็งกระเพาะอาหาร เป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับที่ 6 ในผู้ชาย และอันดับที่ 9 ในผู้หญิง โดยพบ 5 รายในประชากร 100,000 คน ถึงแม้จะพบได้ไม่บ่อยในคนไทยแต่ผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหารในประเทศไทย มักพบในระยะท้ายของโรค  ในขณะที่มะเร็งกระเพาะอาหารนั้นค่อนจะวินิจฉัยได้ยาก เมื่อเทียบกับมะเร็งชนิดอื่น ๆ หนึ่งในอันตรายที่ใของโรคนี้คือความยากลำบากในการวินิจฉัย เนื่องจากโรคมะเร็งกระเพาะอาหารมักจะไม่แสดงอาการใดๆ ในระยะเริ่มแรก แต่ก็มักจะไม่ได้รับการวินิจฉัยจนกว่าที่เซลล์มะเร็งจะแพร่กระจายไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ยากต่อการรักษา โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร (Stomach cancer)

อาการโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร

มะเร็งกระเพาะอาหารโดยปกติจะไม่ส่งสัญญาณในระยะเริ่มต้น ซึ่งนับเป็นเรื่องโชคร้ายเนื่องจากผู้ป่วยจะไม่สามารถรู้ตัวได้เลยจนกว่าเซลล์มะเร็งจะแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ  อาการทั่วไปของผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหารได้แก่

สาเหตุของมะเร็งกระเพาะอาหาร

กระเพาะอาหารและหลอดอาหารเป็นเพียงส่วนหนึ่งของทางเดินอาหารส่วนบน กระเพาะอาหารมีหน้าที่ในการย่อยอาหารและจากนั้นย้ายสารอาหารไปยังอวัยวะย่อยอาหาร คือ ลำไส้เล็กและใหญ่ มะเร็งกระเพาะอาหารเกิดขึ้นเมื่อเซลล์ของกระเพาะอาหารเกิดการกลายเป็นเซลล์มะเร็งและเจริญเติบโต จนกลายเป็นเนื้องอก ระยะเวลาในการพัฒนาเซลล์มะเร็งใช้เวลาหลายปี

ปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร

มะเร็งกระเพาะอาหารนั้นเป็นเนื้องอกที่อยู่ในกระเพาะอาหาร อย่างไรก็ตามบางปัจจัยสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นได้ ปัจจัยพวกนี้ได้แก่โรคบางประการได้แก่
  • มะเร็งต่อมน้ำเหลือง Lymphoma (กลุ่มโรคมะเร็งเลือด)
  • การติดเชื้อแบคทีเรีย H. pylori  (การติดเชื้อในกระเพาะอาหารที่พบบ่อยซึ่งบางครั้งอาจนำไปสู่การเป็นแผลในกระเพาะอาหาร)
  • เนื้องอกในส่วนอื่น ๆ ของระบบย่อยอาหาร
  • ติ่งเนื้อในกระเพาะอาหาร (การเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเนื้อเยื่อที่ก่อตัวในเยื่อบุกระเพาะอาหาร)
มะเร็งกระเพาะอาหารสามารถเกิดขึ้นได้ในบุคคลต่อไปนี้:
  • ผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป
  • เพศชาย
  • ผู้สูบบุหรี่
  • บุคคลที่มีสมาชิกในครอบครัวมีประวัติผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร
  • คนเอเชียหรืออเมริกาใต้หรือเบราลุส
คุณมีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารหากคุณมีพฤติกรรมดังต่อไปนี้
  • กินอาหารรสเค็มหรือแปรรูป
  • กินเนื้อมากเกินไป
  • มีประวัติการผิดปกติจากการดื่มแอลกอฮอล์
  • ไม่ออกกำลังกาย
  • ไม่ปรุงอาหารอย่างถูกวิธี
คุณอาจจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยหากมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร และแพทย์จะทำการตรวจคัดกรองให้กับผู้ที่มีแนวโน้ม เนื่องจากมะเร็งกระเพาะอาหารมักจะไม่แสดงอาการ

การวินิจฉัยมะเร็งกระเพาะอาหาร

อาการมะเร็งกระเพาะอาหารระยะแรกจะไม่ปรากฏอาการทำให้ไม่สามารถวินิจฉัยได้ กรณีที่เซลล์มะเร็งลุกลามและมะเร็งกระเพาะอาหารอาการเริ่มปรากฏแพทย์จะทำการวินิจฉัยด้วยการตรวจร่างกายก่อน เพื่อตรวจสอบความผิดปกติใด ๆ พวกเขาอาจสั่งการตรวจเลือด รวมถึงการตรวจหาแบคทีเรีย H. pylori อาจจะมีการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม หากแพทย์ตรวจพบว่า ผู้ป่วยมีอาการโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร เช่น การตรวจเนื้องอกที่น่าสงสัย และความผิดปกติอื่น ๆ ในกระเพาะอาหารรวมถึงหลอดอาหาร ได้แก่
  • การส่องกล้องตรวจสอบระบบย่อยอาหารส่วนบน
  • การตรวจชิ้นเนื้อ
  • การฉายภาพ เช่น ซีที สแกน CT scans และ เอ็กซเรย์ X-rays

การรักษามะเร็งกระเพาะอาหาร

การรักษาและการพยาบาลผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหารสามารถรักษาด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
  • ยาเคมีบำบัด
  • การบำบัดด้วยรังสี
  • ผ่าตัด
  • การฉีดวัคซีนหรือยา
การรักษาอย่างถูกวิธีนั้นขึ้นกับต้นกำเนิดของโรคและระยะของมะเร็ง อายุและสุขภาพโดยรวมก็เป็นสิ่งสำคัญ นอกเหนือจากการรักษาเซลล์มะเร็งในกระเพาะอาหาร ยังต้องป้องกันไม่ให้เซลล์แพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ  มะเร็งกระเพาะอาหารเมื่อปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้รักษาอาจแพร่กระจายไปยังอวัยวะดังนี้

การป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหาร

มะเร็งกระเพาะอาหารนั้นไม่สามารถป้องกัน แต่อย่างไรก็ตามคุณสามารถลดความเสี่ยงของมะเร็งได้ดังนี้
  • รักษาน้ำหนักเพื่อสุขภาพ
  • การรับประทานอาหารครบทั้ง 5 หมู่และมีไขมันต่ำ
  • เลิกสูบบุหรี่
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ในบางกรณีแพทย์จะทำการให้ยาเพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร มักจะใช้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคอื่นๆ ในระบบทางเดินอาหารที่มีความเสี่ยงจะเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้ารับคัดกรองเบื้องต้น การทดสอบนี้มีประโยชน์ในการตรวจหามะเร็งกระเพาะอาหาร แพทย์ของคุณอาจใช้การตรวจคัดกรองต่อไปนี้ เพื่อตรวจหาสัญญาณของโรค
  • การตรวจร่างกาย
  • การทดสอบในห้องปฏิบัติการ เช่น การทดสอบเลือด และปัสสาวะ
  • ขั้นตอนการฉายภาพเช่น X-rays และ CT scan
  • การตรวจสอบพันธุกรรม
แม้ว่ามะเร็งกระเพาะอาหาร จะเป็น มะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับ 6 ของโลก แต่จำนวนผู้ป่วยกลับลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่มีการรับประกันว่าคุณจะป้องกันได้ แต่มีหลายอย่างที่คุณสามารถทำได้เพื่อลดโอกาสที่คุณจะเป็นโรคนี้  
  • ตรวจสอบแผล  เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร ( H. pylori ) เป็นแบคทีเรียทั่วไป ไม่ได้ทำให้คนป่วยเสมอไป แต่อาจทำให้ เยื่อบุ กระเพาะอาหาร ติดเชื้อและทำให้เกิดแผลได้ นอกจากนี้ยังเป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งหมายความว่าสามารถก่อให้เกิดมะเร็งได้ หากคุณมีแผลในกระเพาะอาหาร แพทย์ของคุณอาจต้องตรวจดูว่าคุณมี การติดเชื้อ H. pylori หรือไม่และทำการรักษา
  • การทานอาหารที่มีผักและผลไม้สดจำนวนมาก ซึ่งสามารถลดโอกาสในการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้ ส้ม มะนาว และเกรปฟรุตเป็นตัวเลือกที่ดี ด้วยเกรปฟรุต คุณอาจต้องถามแพทย์ว่าจะมีผลกับยาที่คุณรับประทานหรือไม่ (รวมถึงสแตตินซึ่งหลายคนใช้เพื่อลด ระดับ LDL หรือคอเลสเตอรอล ที่ ไม่ดี เลือกปลา สัตว์ปีก หรือถั่ว แทนเนื้อสัตว์แปรรูปหรือเนื้อแดง และขนมปังโฮลเกรน พาสต้า และซีเรียลแทนธัญพืชขัดสี (เช่น แป้งโฮลวีตแทนแป้งขัดขาว)
  • ลดอาหารรมควัน  ดอง เค็ม  เนื่องจากเกลือและสารกันบูดในปริมาณมากสามารถทำร้ายเยื่อบุกระเพาะอาหารและทำให้คุณมีโอกาสเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารมากขึ้น  
  •  การสูบบุหรี่ทำให้คุณเสี่ยงต่อมะเร็งหลายชนิด รวมถึงมะเร็งกระเพาะอาหาร หากคุณต้องการความช่วยเหลือในการเลิกบุหรี่ ให้ปรึกษาแพทย์ของคุณ และหลีกเลี่ยง “ ควันบุหรี่ มือสอง ” ของผู้อื่นด้วย
  • การออกกำลังกายเป็นกิจวัตรประจำวันที่ได้ผลตั้งแต่หัวจรดเท้า การมีร่างกายที่แข็งแรงและกระฉับกระเฉงสามารถลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งประเภทต่างๆ และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้
  • ตรวจสอบน้ำหนักของคุณ ผู้ที่มีน้ำหนักเกินอาจมีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็ง กระเพาะอาหาร หากคุณไม่แน่ใจว่าน้ำหนักของคุณอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่ ให้ปรึกษาแพทย์
  • ใช้แอสไพรินอย่างชาญฉลาด คุณอาจใช้ยาแอสไพริน ไอบูโพรเฟน และ ยาที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์อื่นๆที่คล้ายกันเพื่อบรรเทาอาการปวดมีไข้หรือบวม นอกจากนี้ยังอาจลดโอกาสในการเป็นมะเร็ง กระเพาะอาหารและ ลำไส้ใหญ่ แต่คุณไม่ควรใช้ยาเหล่านั้นเพื่อป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหาร เพราะอาจทำให้เลือดออกภายในได้ แพทย์ของคุณสามารถอธิบายสิ่งที่ดี 

ภาพรวมในระยะยาว

ผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะอาหารส่วนมากที่หายจากโรคนี้คือผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกทาง แต่หากไม่ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและทันเวลา จะทำให้การรักษามะเร็งกระเพาะอาหารเป็นไปได้ยากขึ้น การรักษามะเร็งกระเพาะอาหารเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เนื่องจากกว่าจะปรากฏอาการก็เป็นมะเร็งกระเพาะอาหารระยะสุดท้าย และหากเซลล์มะเร็งของคุณได้ลุกลามไป คุณจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาอย่างใกล้ชิดจากผู้เชี่ยวชาญ การเข้ารับการรักษาอย่างใกล้ชิดจะเป็นการตรวจติดตามว่ายารักษา หรือวิธีการรักษาที่แพทย์ใช้กับผู้ป่วยนั้นมีประสิทธิภาพหรือไม่
นี่คือลิงค์แหล่งที่มาของบทความของเรา
  • https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/stomach-cancer/symptoms-causes/syc-20352438
  • https://www.cancer.org/cancer/stomach-cancer/about/what-is-stomach-cancer.html
  • https://www.webmd.com/cancer/stomach-gastric-cancer
  • https://www.nhs.uk/conditions/stomach-cancer/

เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team

แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด