การรับประทานผัก และผลไม้อาจทำให้เบื่อได้หากคุณไม่ลองผักและผลไม้ชนิดใหม่ ๆ โชคดีที่มีผักและผลไม้ที่อร่อยมากมายให้เราได้เลือกรับประทาน ผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นคือ มะเฟือง
มะเฟืองคืออะไร
มะเฟืองเป็นผลไม้ที่มีรสหวานอมเปรี้ยว ที่มีรูปร่างคล้ายดาว เปลือกของมันสามารถกินได้ เนื้อมีรสหวานอมเปรี้ยว นิยมนำไปประกอบอาหารประเภทต่าง ๆ มะเฟืองนั้นมีสีเหลืองหรือสีเขียว มะเฟืองผลเล็ก ๆ จะมีรสเปรี้ยว และมะเฟืองผลใหญ่ ๆ จะมีรสหวานสารอาหารของมะเฟือง
ในมะเฟืองมีสารอาหารหลายอย่าง โดยเฉพาะเส้นใยอาหารและวิตามินซี เหล่านี้คือสารอาหารที่มีในมะเฟือง 91 กรัม:- ใยอาหาร: 3 กรัม
- โปรตีน: 1 กรัม
- วิตามิน C: 52% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
- วิตามิน B5: 4% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
- โฟเลต: 3% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
- คอปเปอร์: 6% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
- โพแทสเซียม: 3% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
- แม็กนีเซียม: 2% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน
ประโยชน์ของมะเฟือง
ในมะเฟืองยังมีสารอื่น ๆ ที่ทำให้มันเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ มันเป็นผลไม้ที่มีสารประกอบพืช เช่น เควอซิทิน กรดแกลลิก และเอปิคาเทซิน สารประกอบพืชเหล่านี้มีคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอนุภาพมาก และมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย สารที่มีในมะเฟืองสามารถช่วยลดความเสี่ยงของไขมันพอกตับและคอเลสเตอรอลในหนูได้ และพวกมันก็กำลังถูกศึกษาว่าพวกมันมีความสามารถที่จะป้องกันมะเร็งตับในหนูได้หรือไม่ ยังมีหลักฐานในการศึกษาในสัตว์อีกว่านำ้ตาลในมะเฟืองอาจช่วยลดการอักเสบ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยเพื่อยืนยันประโยชน์เหล่านี้ในมนุษย์ยังมีไม่เพียงพอมะเฟืองสรรพคุณ
- มะเฟืองป้องกันการเกิดโรคเลือดออกตามไรฟัน
- มะเฟืองช่วยทำให้นอนหลับได้สบายขึ้น
- มะเฟืองช่วยขับพยาธิในร่างกาย
- มะเฟืองมีส่วนช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจให้เป็นไปอย่างปกติสม่ำเสมอ
- ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
- ลดอาการเครียด บรรเทาอาการฟุ้งซ่าน
ความปลอดภัยและผลข้างเคียงจากการกินมะเฟือง
การรับประทานมะเฟืองอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงขึ้นกับบางคน เนื่องจากมะเฟืองมีออกซาเลตสูง ดังนั้น ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไตควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะเฟืองและน้ำมะเฟือง หรือควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน สำหรับผู้ที่มีปัญหาไต การรับประทานมะเฟืองเป็นประจำอาจทำให้ไตได้รับความเสียหาย ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาทางระบบประสาทต่าง ๆ เช่น สับสน ชัก หรืออาจเสียชีวิตได้ ผู้ที่รับประทานยาตามแพทย์สั่งก็ควรระมัดระวังในการรับประทานมะเฟืองเช่นกัน เพราะเช่นเดียวกับเกรปฟรุ๊ต มะเฟืองอาจไปเปลี่ยนการแตกตัวของยาและวิธีที่ร่างกายใช้ยามะเฟืองหวานรับประทานอย่างไร
วิธีเหล่านี้คือการรับประทานมะเฟืองที่คุณสามารถทำได้:- มะเฟืองควรเป็นมะเฟืองที่สุก โดยมะเฟืองที่สุกดีจะเป็นสีเหลือง และมีสีเขียวเล็กน้อย
- ล้างมะเฟืองด้วยน้ำ
- ตัดหัวท้าย
- หั่น
- นำเมล็ดออก และรับประทานได้
- รับประทานมะเฟืองเปล่า ๆ
- นำไปใส่ในสลัด
- ใช้ตกแต่งจานอาหาร
- นำไปทำเป็นพายหรือพุดดิ้ง
- นำไปใส่ในแกง เช่น อาหารเอเชียต่าง ๆ หรืออาหารอินเดีย
- นำไปทำอาหารรวมกับอาหารทะเลหรือหอยต่าง ๆ
- นำไปทำแยม เยลลี่ หรือซัทนีย์
- นำไปทำเป็นน้ำมะเฟือง
มะเฟืองทำอะไรได้บ้าง
มะเฟืองสามารถทำอาหารได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวหรือหวาน เช่น- น้ำมะเฟืองปั่น
- มะเฟืองแช่อิ่ม
- ตำหัวปรีใส่มะเฟือง
- มะเฟืองดองหวาน
ต้นกำเนิดของมะเฟือง
มะเฟือง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Chrysophyllum cainito เชื่อกันว่ามีถิ่นกำเนิดในทะเลแคริบเบียน โดยเฉพาะในภูมิภาคเกรตเตอร์แอนทิลลิส ซึ่งรวมถึงประเทศต่างๆ เช่น จาเมกา คิวบา เปอร์โตริโก และสาธารณรัฐโดมินิกัน นอกจากนี้ยังพบในบางส่วนของอเมริกากลาง เช่น ฮอนดูรัส นิการากัว และบางพื้นที่ของอเมริกาใต้ ผลไม้เจริญเติบโตได้ในภูมิอากาศเขตร้อนที่อบอุ่น และปลูกในประเทศต่างๆ ที่มีสภาพที่เหมาะสม ต้นกำเนิดที่แท้จริงของต้นมะเฟืองนั้นไม่ได้รับการบันทึกไว้อย่างแม่นยำ แต่เชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดในภูมิภาคแคริบเบียนและต่อมาได้แพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของเขตร้อน ต้นไม้มีคุณค่าอย่างสูงในด้านคุณสมบัติในการประดับ ความสามารถในการให้ร่มเงา และแน่นอนว่า ผลไม้รูปดาวที่มีรสชาติและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วยใจความสำคัญ
มะเฟืองเป็นผลไม้ที่อร่อย มีพลังงานต่ำ มีวิตามินซี ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระสูง อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไต หรือผู้ที่รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานมะเฟือง สำหรับผู้คนส่วนมาก มะเฟืองเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพและมีรสชาติอร่อยนี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา
- https://www.healthline.com/nutrition/star-fruit-101
- https://www.pulse.ng/lifestyle/food-travel/5-interesting-health-benefits-of-agbalumo-african-star-apple/vrb529q
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น