การจามหรือ (Sneezing) คือการที่ร่างกายพยามกำจัดอนุภาคที่ระคายเคืองออกจากจมูก หรือคอของคุณ การจามนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทันทีโดยไม่มีสัญญาณเตือน แต่อย่างไรก็ตามการจามนั้นไม่ได้ส่งผลร้ายแรงต่อร่างกายแต่อย่างใด
สาเหตุของการจาม
การจามนั้นจะเกิดขึ้นต่อเมื่อโพรงจมูกมีอนุภาคแปลกปลอม โดยเยื่อเมือกของจมูกจะทำการกระตุ้นฮีสทามีนซึ่งจะกระตุ้นให้ฮิสทามีนหลั่ง โดยหลังจากสารนี้ถูกหลั่งออกมาก็จะมีการส่งสัญญาณประสาทไปยังสมองเพื่อกระตุ้นการจาม เพื่อการกำจัดสิ่งแปลกปลอม ฝุ่น และแบคทีเรีย นอกจากนี้แล้วการจามยังมีปัจจัยอื่นได้ด้วยเช่นกัน :อาการแพ้
การจามที่เกิดจากการแพ้นั้นเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยมากในการจาม เนื่องจากร่างกายจะทำปฎิกริยากับสิ่งแปลกปลอม และระบบภูมิคุ้มกันของคุณจะทำการปกป้องร่างกายจากแบคทีเรียและสิ่งแปลกปลอมภายนอก ดังนั้นหากคุณเข้าใกล้หรือรับสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ร่างกายจะกระตุ้นให้เกิดการจามขึ้นทันทีการติดเชื้อ
การติดเชื้อสามารถเกิดขึ้นได้โดยไวรัสต่าง ๆ เช่นไวรัสที่ก่อให้เกิดหวัด ไวรัสชนิดนี้สามารถทำให้คุณเกิดการจามได้ นอกจากนี้ยังมีไวรัสกว่า 200 ชนิด ที่เป็นสาเหตุทำให้คุณเป็นหวัดได้และไวรัสที่ทำให้เกิดหวัดส่วนใหญ่แล้วคือ rhinovirusสาเหตุอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดการจามได้
นอกจากนี้แล้วยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดการจามได้ แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักนัก สาเหตุเหล่านั้นคือ- การบาดเจ็บทางจมูก
- การสูดดมสารบางชนิด เช่นพริกไทย
- อากาศหนาวจัด
- การหยุดใช้ยา opioid
การรักษาอาการจามเองที่บ้าน
คุณควรสำรวจตัวเองเป็นอันดับแรกว่ามีอาการแพ้หรือไม่อย่างไร หากคุณเป็นคนที่มีอาการแพ้ง่ายต่อสิ่งแปลกปลอม ฝุ่น ควัน หรือขนสัตว์ คุณควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเหล่านั้นที่จะทำให้เกิดอาการแพ้ และควรรักษาความสะอาดบ้านของคุณอย่างสม่ำเสมอให้ปราศจากฝุ่นไร ต่าง ๆ รวมถึงระวังละอองเกสรดอกไม้บางชนิด
การป้องกันการจาม
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและภูมิคุ้มกันต่อโรคและไวรัสต่าง ๆ ที่ดี
- หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ก่อให้เกิดการจาม เช่น ฝุ่น ควัน ขนสัตว์
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- รับประทานอาหารและวิตตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำเมื่อมีอาการจาม
การจามเป็นปฏิกิริยาตอบสนองตามธรรมชาติที่ช่วยล้างโพรงจมูกและระบบทางเดินหายใจจากสิ่งระคายเคือง แม้ว่าการจามจะมีประโยชน์ แต่ก็สามารถแพร่เชื้อโรคและการติดเชื้อไปยังผู้อื่นได้หากไม่ปฏิบัติตามมารยาทการจามที่เหมาะสม สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำเมื่อต้องจามมีดังนี้สิ่งที่ต้องทำ:
- ใช้ทิชชู่หรือผ้าเช็ดหน้า: ปิดปากและจมูกของคุณด้วยทิชชู่หรือผ้าเช็ดหน้าทุกครั้งเมื่อคุณจาม สิ่งนี้ช่วยกักเก็บละอองที่ปล่อยออกมาระหว่างการจามและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคไปยังผู้อื่น
- จามใส่ข้อศอก: หากคุณไม่มีกระดาษทิชชู่ ให้จามใส่ข้อพับข้อศอกแทนการจามใส่มือ วิธีนี้ยังช่วยกักเก็บหยดน้ำและทำให้มือของคุณสะอาดขึ้นด้วย
- ทิ้งทิชชู่อย่างถูกต้อง: หากคุณใช้ทิชชู่เพื่อจาม ให้ทิ้งทันทีในถังขยะที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการทิ้งกระดาษทิชชู่ที่ใช้แล้วทิ้งไว้เพราะอาจแพร่เชื้อโรคได้
- ล้างมือ: หลังจากจาม ให้ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำอย่างน้อย 20 วินาที นี่เป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
- ใช้เจลทำความสะอาดมือ: หากไม่มีสบู่และน้ำ ให้ใช้เจลทำความสะอาดมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์อย่างน้อย 60% เพื่อทำความสะอาดมือ
- อยู่ห่างจากผู้อื่น: หากคุณรู้สึกว่ากำลังจาม ให้พยายามออกห่างจากผู้อื่นเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อโรค
ไม่ควรทำ:
- อย่าจามใส่มือ: การจามใส่มือสามารถแพร่เชื้อโรคไปยังวัตถุและพื้นผิวที่คุณสัมผัส ซึ่งนำไปสู่การแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้
- หลีกเลี่ยงการจามอย่างเปิดเผย: อย่าจามอย่างเปิดเผยโดยไม่ปิดปากและจมูก เพราะสิ่งนี้สามารถปล่อยละอองจำนวนมากสู่อากาศ อาจทำให้ผู้อื่นสัมผัสเชื้อโรคได้
- อย่าจามใส่ผู้อื่น: ระวังทิศทางการจามของคุณ หลีกเลี่ยงการจามใส่ผู้อื่นเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรคโดยตรง
- อย่ากลั้นจาม: การกลั้นจามอย่างแรงอาจทำให้รู้สึกไม่สบายและอาจถึงขั้นบาดเจ็บได้ ปล่อยให้การจามเกิดขึ้นตามธรรมชาติในขณะที่ปฏิบัติตามมารยาทการจามที่เหมาะสม
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า: พยายามอย่าสัมผัสใบหน้า โดยเฉพาะตา จมูก และปาก เนื่องจากเชื้อโรคจากการจามสามารถส่งต่อไปยังบริเวณเหล่านี้ได้
นี่คือลิงค์แหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.webmd.com/allergies/features/11-surprising-sneezing-facts#1
- https://www.cdc.gov/healthywater/hygiene/etiquette/coughing_sneezing.html
- https://kidshealth.org/en/kids/sneeze.html
- https://medlineplus.gov/ency/article/003060.htm
Content and expert reviews from Bupa team.
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น