อาการผีอำ ( Sleep Paralysis) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อสูญเสียการทำงานของกล้ามเนื้อ
อาการผีอำมักเกิดขึ้นเมื่อ
- กำลังนอนหลับ
- ง่วงนอนในระยะสั้นๆ
- ขณะกำลังตื่นนอน
สาเหตุของอาการผีอำเกิดจากอะไร
อาการผีอำไม่ใช่อาการที่ต้องได้การรักษาจากทีมแพทย์ฉุกเฉิน การทำความคุ้นเคยกับอาการสามารถช่วยทำให้โล่งใจได้มากขึ้น ลักษณะส่วนใหญ่ของอาการผีอำได้แก่ไม่สามารถขยับตัวได้และพูดไม่ได้ โดยช่วงเวลาของอาการผีอำมักเกิดขึ้นประมาณ 1-2 นาที คุณอาจมีประสบการณ์ดังต่อไปนี้- รู้สึกเหมือนมีบางอย่างกำลังดึงคุณลงไป
- รู้สึกเหมือนมีบางอย่างอยู่ในห้อง
- รู้สึกกลัว
- อาการเห็นภาพเคลิ้มตอนนอนหลับและตอนตื่นนอนหมายถึงอาการเห็นภาพหลอนที่อาจเกิดก่อนหรือหลังนอนหลับ
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของอาการผีอำคืออะไร
เด็กและผู้ใหญ่ไม่ว่าจะมีอายุเท่าไหร่ก็ตามสามารถมีประสบการณ์ผีอำได้ อย่างไรก็ตามมีคนบางกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงกว่าคนกลุ่มอื่นๆ กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงมีอาการผีอำสูงได้แก่กลุ่มคนที่มีอาการดังต่อไปนี้- นอนไม่หลับ
- โรคลมหลับ
- มีความวิตกกังวลผิดปกติ
- โรคซึมเศร้า
- โรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว หรือโรคไบโพลาร์
- โรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง (PTSD)
- ลักษณะการนอนหลับที่ไม่ดีหรือพฤติกรรมการนอนที่ไม่ดีที่จำเป็นต่อการนอนหลับที่มีคุณภาพ
- ความผิดปกติของการนอนหลับเช่นภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ
วิธีรักษาอาการผีอำสามารถทำอย่างไรได้บ้าง
โดยปกติอาการผีอำสามารถหายเองได้ภายในเวลาไม่กี่นาทีและไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายหรือทำให้เกิดความเจ็บปวดใดๆ อย่างไรก็ตามอาการผีอำที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกค่อนข้างไม่สงบและรู้สึกหวาดกลัว อาการผีอำที่เกิดขึ้นเองไม่จำเป็นต้องรักษาแต่สำหรับผู้ที่มีสัญญาณของโรคลมหลับควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ โดยเฉพาะเมื่ออาการง่วงนอนเฉียบพลันที่เกิดขึ้นไปรบกวนการทำงานและชีวิตประจำวัน แพทย์อาจให้ยาบางชนิดเพื่อช่วยป้องกันการเกิดอาการผีอำที่มีสาเหตุเกิดจากโรคลมหลับ โดยทั่วไปส่วนใหญ่แล้วเเพทย์มักให้ยาที่ออกฤทธิ์กระตุ้นและยาต้านเศร้าเอสเอสอาร์ไอ (SSRIs) เช่นยา fluoxetine (Prozac) ที่ช่วยกระตุ้นทำให้รู้สึกตื่นตัว ยาต้านเศร้าเอสเอสอาร์ไอ (SSRIs) สามารถช่วยจัดการกับอาการที่เกี่ยวข้องกับโรคลมหลับได้ นอกจากนี้แพทย์ยังสั่งให้ผู้ป่วยตรวจสอบการนอนหลับเพื่อศึกษาลักษณะการนอนหลับของผู้ป่วยด้วยวิธีตรวจที่เรียกว่าการแปลผลการตรวจการนอนหลับ (polysomnography) ผลจากการศึกษาที่แปลผลการตรวจการนอนหลับช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยว่าคุณมีประสบการณ์เกี่ยวกับภาวะผีอำหรือมีอาการอื่นๆของโรคลมหลับหรือไม่ โดยการตรวจการนอนหลับจำเป็นต้องให้ผู้ป่วยนอนค้างคืนในโรคพยาบาลหรือศูนย์วิจัยเกี่ยวกับการนอนหลับ สำหรับวิธีการตรวจสอบการนอนหลับ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะใช้แผ่นขั้วไฟฟ้าวางไว้บนคาง ศีรษะและรอบของเปลือกตาด้านนอกของคุณ แผ่นขั้วไฟฟ้านี้ช่วยวัดระดับการทำงานคลื่นไฟฟ้าในกล้ามเนื้อรวมถึงคลื่นสมอง นอกจากนี้แพทย์จะทำการตรวจการหายใจและอัตราการเต้นของหัวใจรวมถึงในบางกรณีแพทย์อาจตั้งกล้องถ่ายการเคลื่อนไหวของคุณในขณะนอนหลับอีกด้วย แพทย์หญิงวริญาเชื่อว่าปัจจัยหลักที่ช่วยลดการเกิดอาการผีอำคือการปรับปรุงลักษณะในการนอนหลับด้วยการเข้านอนตรงเวลาเป็นประจำและปฏิบัติตามวิธีดังต่อไปนี้- หลีกเลี่ยงการมองจอภาพที่มีแสงสีน้ำเงินก่อนนอนหลับ
- มั่นใจว่าได้รักษาอุณหภูมิในห้องให้ต่ำอยู่เสมอ
กลยุทธ์เพิ่มเติมในการรับมือกับอาการผีอำ
- รักษาตารางเวลาการนอนให้สม่ำเสมอ:เข้านอนและตื่นนอนเวลาเดิมทุกวันเพื่อควบคุมรูปแบบการนอนของคุณ วิธีนี้สามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับโดยรวมของคุณ และลดโอกาสที่จะเกิดอาการอัมพาตขณะหลับ
- สร้างกิจวัตรก่อนนอนที่ผ่อนคลาย:ทำกิจกรรมที่สงบก่อนนอน เช่น อ่านหนังสือ ทำสมาธิ หรืออาบน้ำอุ่น หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่กระตุ้นหรือเครียดที่อาจรบกวนการนอนของคุณ
- นอนในสภาพแวดล้อมที่สบาย:ตรวจดูให้แน่ใจว่าห้องนอนของคุณเอื้อต่อการนอนโดยทำให้เย็น มืด และเงียบ ลงทุนในที่นอนและหมอนที่นุ่มสบายเพื่อปรับปรุงคุณภาพการนอนของคุณ
- จำกัดคาเฟอีนและสารกระตุ้น:หลีกเลี่ยงการบริโภคคาเฟอีนหรือสารกระตุ้นอื่นๆ ใกล้เวลานอน เนื่องจากอาจรบกวนความสามารถในการหลับของคุณและอาจทำให้การนอนหลับเป็นอัมพาตแย่ลง
- จัดการความเครียดและความวิตกกังวล:ฝึกเทคนิคการลดความเครียด เช่น การฝึกหายใจลึกๆ โยคะ หรือการทำสมาธิเพื่อช่วยผ่อนคลายจิตใจก่อนเข้านอน
- หลีกเลี่ยงการนอนหงาย:บางคนพบว่าการนอนหงายจะเพิ่มโอกาสในการเป็นอัมพาตขณะหลับ ลองนอนตะแคงแทน
- จำกัดเวลาอยู่หน้าจอก่อนนอน:ลดการสัมผัสหน้าจอ (โทรศัพท์ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ ทีวี) ในชั่วโมงก่อนเข้านอน เนื่องจากแสงสีฟ้าที่ปล่อยออกมาจากอุปกรณ์เหล่านี้สามารถรบกวนวงจรการนอนหลับและตื่นของคุณได้
- ระบุความผิดปกติของการนอนที่แฝงอยู่:อาการอัมพาตขณะหลับอาจเกี่ยวข้องกับสภาวะต่างๆ เช่น โรคลมหลับหรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หากคุณสงสัยว่าคุณเป็นโรคการนอนหลับ จำเป็นต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อรับการประเมินและการรักษาที่เหมาะสม
- ขอการสนับสนุนทางสังคม:พูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ของคุณกับเพื่อน ครอบครัว หรือกลุ่มสนับสนุน บางครั้งการแบ่งปันประสบการณ์ของคุณอาจทำให้พวกเขาทุกข์ใจน้อยลง
- การตรวจสอบความเป็นจริงระหว่างตอนต่างๆ:หากคุณพบว่าตัวเองเป็นอัมพาตจากการหลับ ให้พยายามเตือนตัวเองว่าเป็นสภาวะชั่วคราวและคุณจะตื่นเต็มที่ในไม่ช้า การจดจ่อกับการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น นิ้วมือหรือนิ้วเท้า สามารถช่วยบรรเทาอาการอัมพาตได้
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ:หากคุณมีอาการนอนเป็นอัมพาตบ่อยครั้งและส่งผลต่อคุณภาพการนอนหรือชีวิตประจำวันอย่างมาก ให้พิจารณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ พวกเขาสามารถให้คำแนะนำส่วนบุคคลและตัวเลือกการรักษา
นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.webmd.com/sleep-disorders/sleep-paralysis
- https://www.nhs.uk/conditions/sleep-paralysis/
- https://www.healthline.com/health/sleep/isolated-sleep-paralysis
- https://www.livescience.com/50876-sleep-paralysis.html
เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น