ยาซิมวาสแตติน (Simvastatin) : วิธีใช้ และผลข้างเคียง

ผู้เขียน Dr. Wikanda Rattanaphan
0
ยาซิมวาสแตติน

Simvastatin คืออะไร 

ซิมวาสแตตินเป็นยาที่จัดอยู่ในกลุ่มของยาที่เรียกว่า HMG CoA Reductase หรือยากลุ่ม “สตาติน”     ซิมวาสแตตินถูกนำมาใช้ในการลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (Low-density lipoprotein หรือ LDL) และช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (High-density lipoprotein หรือ HDL) และยังช่วยลดไตรกลีเซอร์ไลน์ให้ต่ำลง (รูปแบบไขมันชนิดหนึ่งในเลือด)    ซิมวาสแตตินยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจวาย หรืออาการแทรกซ้อนเกี่ยวกับหัวใจอื่นๆในรายที่มีภาวะโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ หรือปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ยาซิมวาสแตตินใช้ในผู้ใหญ่และเด็กที่มีอายุมากกว่า 10 ปีขึ้นไป 

คำเตือนในการใช้ยา  Simvastatin

แม้จะพบได้ไม่บ่อยนักก็ตาม แต่ก็เคยพบว่ายาซิมวาสแตตินก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคที่ส่งผลให้เนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อเสียหาย มีแนวโน้มจะทำให้เกิดภาวะไตวาย ควรรีบปรึกษาแพทย์หากเกิดอาการปวดกล้ามเนื้อโดยไม่ทราบสาเหตุ เกิดอาการกดเจ็บหรืออ่อนแรง โดยเฉพาะหากมีไข้สูงร่วม รู้สึกเหน็ดเหนื่อยผิดปกติและปัสสาวะมีสีเข้มมาก ไม่ควรรับประทานยาซิมวาสแตตินนปริมาณมากหรือเป็นระยะเวลานานกว่าที่แพทย์สั่ง ปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด การรับประทานยาชนิดนี้มากเกินไปอาจเป็นสาเหตุให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงและอาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ก่อนเริ่มรับประทานยาซิมวาสแตติน ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณกำลังหรือเคยมีปัญหาเกี่ยวกับโรคตับหรือโรคไต โรคเบาหวานหรือไทรอยด์เป็นพิษ หากคุณมีเชื้อสายจีน หรือหากมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 2 แก้วต่อวัน ยาซิมวาสแตตินอาจทำให้เกิดอันตรายกับทารกในครรภ์หรือมีความพิการในทารกแรกเกิด ห้ามใช้ยานี้ในหญิงตั้งครรภ์หรือคนที่กำลังวางแผนจะตั้งครรภ์ องุ่นและน้ำองุ่นอาจเกิดปฏิกิริยากับตัวยาซิมวาสแตติน อาจนำไปสู่ผลข้างเคียงที่อันตรายได้ ไม่ควรบริโภคผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับองุ่นขณะรับประทานยานี้ มียาบางชนิดที่อาจเกิดผลข้างเคียงที่อันตรายหรือไม่เป็นที่ต้องการเมื่อใช้ร่วมกับยาซิมวาสแตติน แพทย์อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนการรักษาใหม่หากคุณมีการใช้ยาปฏิชีวนะหรือยาต้านเชื้อรา ยารักษาโรคไวรัสตับอักเสบซี ยาโรคหัวใจ หรือยารักษาโรคเอชไอวี เอดส์ หยุดรับประทานยาและแจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณกำลังตั้งครรภ์

Simvastatin ข้อบ่งใช้

ไม่ควรรับประทานยาซิมวาสแตตินหากคุณแพ้ยาดังกล่าว หรือกำลังตั้งครรภ์ ให้นมบุตรหรือมีภาวะโรคเกี่ยวกับตับอยู่ในขณะนั้น ยาดังต่อไปนี้อาจเป็นตัวเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหากล้ามเนื้ออย่างรุนแรงได้หากรับประทานร่วมกับยาซิมวาสแตติน ยาที่ไม่ควรใช้ร่วมกับยาซิมวาสแตตินคือ:
  • ไซโคลสปอริน
  • ดานาซอล
  • เจมไฟโบรซิล
  • เนฟาโซโดน
  • ยาปฏิชีวนะ – คลาริโทรมัยซิน อิริโทรมัยซิน เทลิโทรมัยซินan
  • ยาต้านเชื้อรา – ไอทราโคนาโซล คีโทโคนาโซล โพซาโคนาโซล โวริโคนาซอล 
  • ยาโรคตับอักเสบซี – โบเชพฟรีเวียร เทลาฟรีเวียร 
  • ยารักษาโรค เอชไอวี เอดส์ – เอทาซานาเวีย โคบิซิสแทต (Stribild, Tybost)  ดารูนาเวียร์  โฟแซมพรีนาเวียร์ อินดินาเวียร์ เนล์ฟนาเวียร์ ริโทนาเวียร์ ซาควินาเวียร์ ทิปรานาเวียร์ 
หากใช้ยาดังกล่าวข้างต้นควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเริ่มต้นใช้ยาซิมวาสแตติน หรือยาอื่นๆอีกเช่น:
  • โลมิทาไพด์ 
  • ยารักษาโรคหัวใจ – อะมิโอดาโรน แอมโลดิปีน ดิลไทอะเซม โดรนิดาโรน ราโนลาซีน เวอราปามิล 
และเพื่อความมั่นใจว่ายาซิมวาสแตตินมีความปลอดภัยในการใช้สำหรับตัวคุณเอง ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเพิ่มเติมด้วยหากเป็นโรคเช่น:
  • เคยมีประวัติเป็นโรคตับมาก่อน
  • เคยมีประวัติเป็นโรคไตมาก่อน
  • โรคเบาหวาน
  • โรคไทรอยด์
  • หากมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 2 แก้วเป็นประจำทุกวัน
ยาซิมวาสแตตินอาจเป็นสาเหตุก่อให้เกิดความเสียหายของเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อ มีแนวโน้มให้เกิดภาวะไตวาย โรคดังกล่าวมีโอกาสเกิดขึ้นในผู้สูงอายุและคนที่เป็นโรคไตหรือในคนที่การควบคุมฮอร์โมนไทรอยด์ทำงานได้ไม่ดี (ภาวะขาดไทรอยด์)ได้มากกว่าคนทั่วไป สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้ให้ยานี้เป็นยาที่ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์หรือสตรีที่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ ยาซิมวาสแตตินอาจทำอันตรายแก่ตัวอ่อนในครรภ์หรืออาจทำห้เกิดความพิการในทารกแรกเกิด ห้ามรับประทานยาซิมวาสแตตินหากกำลังตั้งครรภ์ และแจ้งให้แพทย์ทราบหากกลังเริ่มหรือวางแผนตั้งครรภ์ ควรใช้ยาคุมกำเนิดเพื่อหลีกเลี่ยงการตั้งครรภ์ในขณะรับประทานยาดังกล่าว ยาซิมวาสแตตินอาจถูกส่งต่อผ่านน้ำนมหากมีการให้นมบุตรและอาจเป็นอันตรายต่อทารก ไม่ควรให้นมบุตรหากรับประทานยาดังกล่าว

ยาซิมสแตตินควรรับประทานอย่างไร 

การรับประทานยาซิมวาสแตตินจำเป็นต้องมีใบสั่งแพทย์ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ห้ามรับประทานยามากกว่าในปริมาณที่กำหนด หรือนานกว่าที่แพทย์สั่ง การรับประทานยาดังกล่าวมากเกินไปอาจเป็นสาเหตุให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงและอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ยาซิมวาสแตตินมักรับประทานก่อนนอนหรือมื้อเย็น หากรับประทานยาซิมวาสแตตินมากกว่าหนึ่งครั้งต่อวัน ให้รับประทานพร้อมมื้ออาหาร แพทย์อาจจะปรับเปลี่ยนปริมาณตัวยาเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ในขณะใช้ยาซิมวาสแตติน อาจมีความจำเป็นต้องตรวจเช็คเลือดบ่อยขึ้น คุณอาจมีความจำเป็นต้องรับประทานยาซิมวาสแตตินเป็นระยะเวลายาวเพื่อรักษาคอเลสเตอรอลสูง คุณจึงอาจจำต้องหยุดการใช้ยาในช่วงสั้นๆหากต้องมีการผ่าตัดหรือต้องรักษาโรคฉุกเฉิน ไม่ควรรับประทานยาซิมวาสแตตินยกเว้นแพทย์สั่ง ยาซิมวาสแตตินคือส่วนหนึ่งของโปรแกรมการรักษาเท่านั้น ยังต้องรวมการดูแลอื่นๆร่วมด้วยเช่น โภชนาการ การออกกำลังกาย หรือการควบคุมน้ำหนักตัว ควรติดตามเรื่องโภชนาการ ยา และการออกกำลังกายเป็นประจำอย่างใกล้ชิด เก็บยาไว้ในอุณหภูมิห้องห่างไกลจากความชื้น ความร้อน และแสงแดด

หากรับประทานไม่ครบปริมาณที่กำหนดจะเกิดอะไรขึ้น 

หากลืมรับประทานยาให้รีบรับประทานทันทีที่นึกได้ ข้ามมื้อยามื้อที่ลืมไปได้เลยหากใกล้เวลารับประทานในมื้อถัดไป ห้ามเพิ่มปริมาณยาเพื่อชดเชยมื้อที่ขาดหายไป

หากรับประทานเกินปริมาณที่กำหนดจะเกิดอะไรขึ้น 

โทรฉุกเฉินหรือศูนย์ช่วยเหลือเร่งด่วนที่ 1669Simvastatin

สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง

องุ่นและน้ำองุ่นอาจมีปฏิกิริยากับยาซิมวาสแตตินและอาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ ควรหลีกผลิตภัณฑ์องุ่นในขณะรับประทานยานี้ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันหรือคอเลสเตอรอลสูง ยาซิมวาสแตตินจะไม่ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีนักในการลดคอเลสเตอรอลหากไม่ปฏิบัติตามแผนโภชนาการเพื่อลดคอเลสเตอรอล หลีกเลี่ยงการบริโภคแอลกอฮอล์ เพราะอาจไปเพิ่มระดับของไตรกีเซอร์ไรด์และอาจมีความเสี่ยงให้ตับเสียหายเพิ่มมากขึ้น

ผลข้างเคียงยาซิมวาสแตติน (Simvastatin)  

พบแผนกฉุกเฉินทันทีหากพบว่ามีสัญญานของอาการแพ้ยาซิมวาสแตติน เช่น ขึ้นผื่น หายใจลำบาก ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้นหรือคอบวม แม้จะพบได้ไม่บ่อยก็ตาม แต่ยาวิมวาสแตตินก็อาจเป็นสาเหตุของโรคบางอย่างที่ส่งผลทำให้เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อเกิดความเสียหาย นำไปสู่ภาวะไตวาย ปรึกษาแพทย์หากมีอาการปวดกล้ามเนื้อที่ไม่ทราบสาเหตุ เกิดอาการกดเจ็บหรืออ่อนแรง โดยเฉพาะหากมีไข้สูงร่วม รู้สึกเหน็ดเหนื่อยผิดปกติและปัสสาวะมีสีเข้มมาก ควรปรึกษาแพทย์ทันทีหากมีอาการดังต่อไปนี้:
  • มีสัญญานว่าไตมีปัญหา -ปัสสาวะน้อยลงหรือไม่ปัสสาวะ เท้าหรือข้อเท้าบวม รู้สึกเหนื่อยหรือหายใจสั้นๆ
  • กล้ามเนื้อบริเวณสะโพก หัวไหล่ คอและแผ่นหลังอ่อนแรง
  • มีปัญหาในการยกแขน ในการปีนป่ายหรือลุกขึ้นยืน
  • ตับมีปัญหา- คลื่นไส้ ปวดท้องด้านบน คัน รู้สึกเหนื่อย เบื่ออาหาร ปัสสาวะสีเข้ม อุจจาระมีสีเข้ม มีภาวะดีซ่าน (บริเวณผิวหรือตามีสีเหลือง)
อาการผลข้างเคียงของยาซิมวาสแตตินที่พบได้ทั่วไป:

ยาที่มีผลกระทบกับยาซิมวาสแตตินมีอะไรบ้าง 

มียาหลายตัวที่มีปฏิกิริยากับยาซิมวาสแตติน ซึ่งอาจมีรายชื่อได้ไม่ทั้งหมด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบว่าคุณใช้ยาชนิดใดอยู่ และเริ่มหรือหยุดใช้ยาใดในระหว่างรักษา โดยเฉพาะยาดังต่อไปนี้:
  • ดีลาเวียร์ดีน
  • ฟีโนไฟเบรต
  • ฟลูโคนาโซล
รายชื่อดังกล่าวยังไม่ครอบคลุมทั้งหมดและยังคงมียาอีกหลายตัวที่มีปฏิกิริยาต่อยาซิมวาสแตติน ซึ่งรวมไปถึงยาตามใบสั่งแพทย์และยาที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายยา วิตามินและผลิตภัณฑ์สมุนไพร 

คนที่ไม่สามารถใช้ยาซิมวาสแตติน

ซิมวาสแตตินเป็นยาที่สั่งจ่ายโดยทั่วไปเพื่อช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล โดยเฉพาะคอเลสเตอรอลชนิดไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นต่ำ (LDL) ในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วซิมวาสแตตินจะถือว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับคนจำนวนมาก แต่ก็มีกลุ่มคนบางกลุ่มที่ไม่ควรใช้ยานี้หรือควรใช้ด้วยความระมัดระวัง ต่อไปนี้เป็นบางสถานการณ์ที่การใช้ซิมวาสแตตินอาจถูกจำกัดหรือต้องมีการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด:
  • โรคภูมิแพ้หรือภูมิไวเกิน:บุคคลที่ทราบว่าเป็นโรคภูมิแพ้หรือภูมิไวเกินต่อซิมวาสแตตินหรือส่วนประกอบใด ๆ ของยาไม่ควรใช้ยานี้
  • การตั้งครรภ์และให้นมบุตร:ไม่แนะนำให้ใช้ซิมวาสแตตินในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ยาลดคอเลสเตอรอล เช่น สแตติน อาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์หรือทารกแรกคลอด
  • โรคตับ:ผู้ที่เป็นโรคตับ รวมถึงเอนไซม์ตับสูง ตับอักเสบ หรือโรคตับแข็ง ควรใช้ซิมวาสแตตินด้วยความระมัดระวังและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด อาจมีการตรวจสอบเอนไซม์ตับที่เพิ่มขึ้นก่อนและระหว่างการรักษา
  • ความผิดปกติของกล้ามเนื้อ:ซิมวาสแตตินอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อ รวมถึงโรคกล้ามเนื้อ และในบางกรณีที่พบไม่บ่อย อาจเกิดภาวะร้ายแรงที่เรียกว่า rhabdomyolysis บุคคลที่มีประวัติเป็นโรคกล้ามเนื้อหรือการสลายตัวของกล้ามเนื้อลาย หรือผู้ที่รับประทานยาที่อาจมีปฏิกิริยากับซิมวาสแตติน ควรใช้ยานี้ด้วยความระมัดระวัง
  • ไตบกพร่อง:ผู้ที่มีความบกพร่องทางไตอย่างรุนแรงควรใช้ซิมวาสแตตินด้วยความระมัดระวังและในขนาดที่ต่ำกว่า เนื่องจากยาจะถูกเผาผลาญในตับเป็นหลัก แต่จะถูกขับออกทางไตบางส่วน
  • การโต้ตอบกับยาอื่นๆ:ซิมวาสแตตินสามารถโต้ตอบกับยาอื่นๆ ได้ รวมถึงยาปฏิชีวนะบางชนิด ยาต้านเชื้อรา และยากดภูมิคุ้มกัน ผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณควรประเมินปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดขึ้นอย่างรอบคอบหากคุณกำลังใช้ยาอื่นๆ
  • การใช้แอลกอฮอล์:การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความเสียหายของตับเมื่อรับประทานซิมวาสแตติน บุคคลที่ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปควรปรึกษาเรื่องการใช้กับผู้ให้บริการด้านสุขภาพ
  • อายุและการใช้ยาในเด็ก:โดยทั่วไปไม่แนะนำให้ใช้ซิมวาสแตตินในเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี อาจใช้ด้วยความระมัดระวังในเด็กโต แต่กุมารแพทย์ควรตัดสินใจเรื่องนี้
  • ผู้สูงอายุ:แม้ว่าผู้สูงอายุมักสั่งยาซิมวาสแตติน แต่ก็อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อ การติดตามผลข้างเคียงเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในประชากรสูงอายุ
  • ปัจจัยทางพันธุกรรม:ปัจจัยทางพันธุกรรมสามารถมีอิทธิพลต่อการตอบสนองของแต่ละบุคคลต่อซิมวาสแตตินและความไวต่อผลข้างเคียง บางคนอาจมีความรู้สึกไวต่อยามากกว่า
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรึกษากับผู้ให้บริการด้านการแพทย์ก่อนเริ่มใช้ยาซิมวาสแตติน และแจ้งให้พวกเขาทราบถึงประวัติทางการแพทย์ ยาปัจจุบัน และการเปลี่ยนแปลงสถานะสุขภาพของคุณ แพทย์จะประเมินความเสี่ยงและผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ซิมวาสแตตินในกรณีเฉพาะของคุณ และอาจพิจารณาการรักษาทางเลือกหรือการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตหากจำเป็น การติดตามผลข้างเคียง รวมถึงอาการปวดกล้ามเนื้อหรืออ่อนแรง เป็นส่วนสำคัญในการรับประทานซิมวาสแตติน

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://www.nhs.uk/medicines/simvastatin/
  • https://www.webmd.com/drugs/2/drug-6105/simvastatin-oral/details
  • https://medlineplus.gov/druginfo/meds/a692030.html
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด