ติดเซ็กส์ (Sex Addiction) คืออะไร

ติดเซ็กส์ (Sex Addiction) – อาการ, การดูแล

21.11.2567

ติด sex คืออะไร

การติดเซ็กส์ คือ การที่คน ๆ หนึ่งมีแรงกระตุ้นที่จะทำกิจกรรมทางเพศเพื่อที่จะได้รับความรู้สึกพึงพอใจและมีความสุข เหมือนกับการที่ผู้ที่ติดแอลกอฮอล์ หรือสารเสพติดอื่น ๆ การติดเซ็กส์นั้นแตกต่างจากความผิดปกติอื่น เช่น โรคใคร่เด็ก (Pedophilia) หรือ การมีเพศสัมพันธ์กับสัตว์ (Bestiality) สำหรับบางคน การติดเซ็กส์อาจเป็นอันตราย และทำให้เกิดความยากลำบากในความสัมพันธ์ เช่นเดียวกับสารเสพติด หรือแอลกอฮอล์ มันทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่ดีต่อร่างกาย และจิตใจของผู้ที่เป็นโรคนี้ รวมไปถึงความสัมพันธ์ คุณภาพชีวิต และความปลอดภัย มีความเชื่อว่าผู้ที่ติดเซ็กส์นั้นจะมีความสัมพันธ์กับคู่นอนหลายคน แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นสัณญาณของโรคนี้เสมอไป ในบางรายงานกล่าวว่า ผู้ที่ติดเซ็กส์จะมีแรงจูงใจที่จะช่วยตัวเอง ดูหนังโป๊ หรืออยู่ในสถานการณ์ที่มีการกระตุ้นทางเพศ ผู้ที่มีอาการติดเซ็กส์จะอาจปรับเปลี่ยนกิจกรรมในชีวิตประจำวันเพื่อที่จะทำกิจกรรมทางเพศ และไม่สามารถที่จะควบคุมพฤติกรรมของตัวเองได้ ซึ่งทำให้เกิดผลเสียตามมา

อาการของคนติดเซ็กส์

ลักษณะหนึ่งที่เป็นพฤติกรรมของคนติดเซ็กส์ คือ พวกเขาสามารถปกปิดอาการติดเซ็กส์ได้เป็นอย่างดีจากคนรัก หรือคนในครอบครัว พวกเขาอาจโกหกในสิ่งที่ทำ หรือทำในที่ ๆ ไม่มีใครพบเห็น บางครั้ง อาการก็เกิดขึ้นได้ และไม่เป็นที่สังเกตเห็น ผู้ที่ติดเซกส์อาจมีอาการดังนี้:

มีความคิด และจินตนาการเกี่ยวกับเซ็กส์เรื้อรัง และหมกมุ่น
มีแรงกระตุ้นที่จะมีความสัมพันธ์กับคู่นอนหลายคน รวมไปถึงคนแปลกหน้า
โกหกเพื่อปิดบังพฤติกรรม
หมกมุ่นกับการมีเพศสัมพันธ์แม้ว่าจะมันจะเป็นการรบกวนชีวิตประจำวัน ประสิทธิภาพในการทำงาน หรืออื่น ๆ
ไม่สามารถหยุด หรือควบคุมพฤติกรรมเหล่านี้ได้
ทำให้ตัวเอง หรือคนอื่นตกอยู่ในอันตรายเนื่องจากพฤติกรรมทางเพศนั้น
รู้สึกผิดหลังจากมีเพศสัมพันธ์
มีผลเสียที่ตามมาหลังจากมีเพศสัมพันธ์

พฤติกรรมบีบบังคับสามารถทำให้เกิดความตึงเครียดในความสัมพันธ์ได้ เช่น การนอกใจ แต่การที่คน ๆ นึงชอบที่จะมีเซ็กส์นั้นไม่ได้หมายความว่าเป็นสัญญาณของการติดเซ็กส์เสมอไป เซ็กส์เป็นกิจกรรมที่ดีต่อสุขภาพของมนุษย์ และการชอบเซ็กส์นั้นเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้ ความแตกต่างในความต้องการทางเพศของคู่รักแต่ละคนก็ไม่ได้หมายความว่าอีกคนจะติดเซ็กส์ด้วย sex addiction

การรักษา

เนื่องจากการวินิจฉัยยังคงเป็นที่โต้แย้ง การรักษาที่มีหลักฐานรับรองจึงยังมีน้อย คำแนะนำให้รักษาการติดเซ็กส์ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

การเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยใน (Inpatient treatment programs)

ศูนย์การรักษาโรคติดเซ็กส์มีมากที่ช่วยรักษาโรคนี้ โดยผู้ที่ติดเซ็กส์จะเข้ารับการรักษาเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน เพื่อให้สามารถควบคุมแรงกระตุ้น การรักษานี้จะเป็นการรักษาทั้งแบบเดี่ยว และแบบกลุ่ม

หลักการ 12 ขั้นตอน (12-step programs)

โปรแกรมการรักษาการติดเซ็กส์จะเหมือนการรักษาการติดแอลกอฮอล์ ซึ่งจะช่วยให้สามารถทำให้เห็นถึงปัญหาการติดเซ็กส์ที่มีได้ สมาชิกไม่จำเป็นต้องหยุดมีเพศสัมพันธ์ไปซะทีเดียว แต่พวกเค้าจะถูกฝึกให้อดทนจากแรงกระตุ้น และพฤติกรรมที่เป็นอันตราย การเข้าไปรวมกลุ่มจะทำให้เกิดความเข้าใจจากผู้ที่มีปัญหาเดียวกัน และสนับสนุนกันให้มีอาการดีขึ้น

การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม (Cognitive behavioral therapy)

การบำบัดนี้สามารถช่วยให้ผู้ที่มีอาการแยกแยะสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดแรงกระตุ้นทางเพศได้ และสอนเกี่ยวกับการเปลี่ยนพฤติกรรม การบำบัดนี้ทำได้โดยรักษาตัวต่อตัวกับนักจิตวิทยาที่มีใบอนุญาต

ยา

ผู้ป่วยบางคนรักษาด้วยยาได้ผล ยาต้านซึมเศร้าบางชนิดสามารถช่วยลดความต้องการลงได้ (ไม่รวมไปถึงผลข้งเคียงจากยาต้านซึมเศร้าที่ช่วยลดความต้องการทางเพศ หรือทำให้ประสบการณ์ทางเพศอื่น ๆ แย่ลง) อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าแพทย์จะสั่งจ่ายยาเพื่อรักษาอาการนี้หรือไม่

กลยุทธ์การช่วยเหลือตนเอง

ระบุตัวกระตุ้น: รับรู้ตัวกระตุ้นหรือสถานการณ์ที่นำไปสู่พฤติกรรมทางเพศแบบบีบบังคับ และพัฒนากลยุทธ์เพื่อหลีกเลี่ยงหรือรับมือกับสิ่งเหล่านั้น
สร้างขอบเขต: กำหนดขอบเขตที่ชัดเจนเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศและกำหนดแนวทางสำหรับการแสดงออกทางเพศที่ดี
ฝึกฝนการดูแลตนเอง: จัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมการดูแลตนเอง เช่น การออกกำลังกาย เทคนิคการผ่อนคลาย งานอดิเรก และการเข้าสังคม เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวมและลดความเครียด
พัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีต่อสุขภาพ: มุ่งเน้นไปที่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและสนับสนุนบนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน ความไว้วางใจ และการสื่อสาร

โดยรวมแล้ว การติดเซ็กส์เป็นภาวะที่ซับซ้อนและท้าทาย ซึ่งอาจส่งผลเสียอย่างมีนัยสำคัญต่อชีวิตและความสัมพันธ์ของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม ด้วยการสนับสนุน การรักษา และกลยุทธ์การรับมือที่ถูกต้อง การฟื้นตัวจากการติดเซ็กส์ก็เป็นไปได้ และแต่ละบุคคลก็สามารถควบคุมความคิด พฤติกรรม และชีวิตของตนเองได้อีกครั้ง