หิด (Scabies) : สาเหตุ อาการ การรักษาด้วยตัวเองที่บ้าน

 
พญ.พรรณิภา สุขสมบูรณ์กิจเรียบเรียงและปรับปรุงข้อมูลทางการแพทย์โดย : พญ. พรรณิภา สุขสมบูรณ์กิจ

โรคหิดคืออะไร

หิด (Scabies) คือโรคผิวหนังที่เกิดจากตัวหิดที่รู้จักกันในชื่อ Sarcoptes scabiei เป็นไรชนิดหนึ่งสามารถมีชีวิตอยู่บนผิวคนได้เป็นเวลาหลายเดือน ตัวหิดนี้สามารถขุดผิวหนังลงไปและวางไข่ ทำให้เกิดผื่นแดงคันบนผิวหนัง หรือกัดกินเซลล์ผิวของคุณทำให้เป็นผื่น (rash)  ผิวมีอาการคัน (itchy skin) และแดงที่ผิวหนัง อาการคันรุนแรงอาจเกิดมาจากการตอบสนองของภูมิคุ้มกันร่างกายที่มีต่อน้ำลายและไข่ของตัวหิด โรคหิดเป็นโรคติดต่อทางผิวหนัง 

สาเหตุของโรคหิด

บางคนอาจจะติดโรคนี้มาจากคนอื่น หรือไรตามที่นอน เมื่อหิดมาอาศัยอยู่บนตัวคนแล้วหิดตัวเมียจะทำการขุดเจาะผิวหนังวางไข่ในวันละ 1-3 ฟอง หิดตัวเมียจะขุดผิวหนังต่อไปเรื่อย ๆ วันละ 2-3 มิลลิเมตร และวางไข่ไปได้เรื่อย ๆ ประมาณ 1-2 เดือนจนกว่าจะหมดวงจรชีวิต หิดจะขุดเฉพาะผิวหนังชั้นบนสุดเท่านั้น และหิดตัวผู้ก็จะมาผสมพันธุ์ หลังจากผสมพันธุ์วงจรชีวิตของหิดตัวผู้จะสิ้นสุดลง ส่วนหิดตัวเมียจะเริ่มวางไข่และเริ่มวงจนชีวิตใหม่ โดยไข่ที่วางจะฟักตัวภายใน 3-4 วัน และหิดจะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่ได้รับการรักษา 

ประเภทของหิด

หิดต้นแบบ (Classic scabies) 

หิดต้นแบบมีลักษณะเป็นตุ่มคัน แดง ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง หรือผื่นที่เกิดจากการเกา (คัน) สำหรับลักษณะของผื่นต่าง ๆ ที่กล่าวมานั้น จะขึ้นกระจายไปทั่วตัว หรือบริเวณที่ผิวมีอุณหภูมิอุ่น เช่น ง่ามนิ้วมือ นิ้วเท้า ข้อมือ ข้อศอก ข้อเท้า รักแร้ รอบหัวนม รอบสะดือ ท้อง ก้น หัวหน่าว อวัยวะเพศชาย ลูกอัณฑะ ขาหนีบ หากเกามาก ๆ อาจติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้

หิดนอร์เวย์ 

หิดนอร์เวย์เป็นการติดเชื้อหิดที่รุนแรง เนื่องจากมีหิดหลายพันตัวอาศัยอยู่บนผิวหนัง หิดทั่วไปสามารถมีอาการรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นหิดนอร์เวย์ได้ หากมีจำนวนหิดเพิ่มขึ้นและไม่ได้รับการรักษา อาจจะลามไปส่วนอื่น ๆ เช่น ศีรษะ คอ และเล็บ หรือทั่วร่างกาย แต่หิดชนิดนี้อาจจะไม่ทำให้เกิดอาการคัน ผู้ป่วยสามารถสังเกตอาการได้โดย ผิวหนังจะมีสะเก็ดนูนหนาขึ้นเพราะมีตัวหิดรวมตัวกัน โดยมักมีลักษณะคล้ายกับโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis-0047/”>Psoriasis ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงเป็นหิดนอร์เวย์

การติดต่อของโรคหิด

  • การแพร่กระจายของไรอาจถูกส่งผ่านเสื้อผ้าผ้าปูที่นอน หรือผ้าขนหนูที่ใช้ร่วมกัน โดยไม่จำเป็นต้องติดต่อจากการอยู่ใกล้กัน 
  • การสัมผัสกันทางผิวหนัง
  • การมีเพศสัมพันธ์

อาการของโรคหิด (Scabies)

อาการของหิดหลังจากได้รับเชื้อหิดในเบื้องต้นอาจใช้เวลาถึงหกสัปดาห์กว่าที่อาการจะปรากฏ อาการมักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในคนที่เคยเป็นหิดมาก่อน โดยผู้ป่วยจะมีอาการดังนี้ 

  • มีอาการคันอย่างรุนแรงที่ผิว อาการของหิดมักจะแย่ลงในช่วงกลางคืน 
  • หากเกาบริเวณที่มีอาการมากไป อาจจะก่อให้เกิดการติดเชื้อทางผิวหนัง 
  • มีผื่นขึ้นบริเวณที่มีตัวหิดฝังตัวอยู่
หิดมักพบมากในบางบริเวณของร่างกาย และสามารถพบได้ในทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยมักพบได้บ่อยบริเวณดังนี้: 
  • ข้อมือ
  • ง่ามนิ้วมือ
  • อวัยวะเพศชาย
  • รักแร้
  • ก้น
  • ข้อศอก
  • ใต้ราวนม
  • เอว

การรักษาโรคหิด

การรักษาหิดนั้นมีหลายวิธี แต่ทั้งนี้ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้ารับการปรึกษาจากแพทย์ก่อน การรักษาหิดสามารถทำได้โดยการทายาที่แพททย์สั่งจ่ายให้ ซึ่งเป็นโลชั่นที่สามารถนำไปใช้โดยตรงกับผิว นอกจากนี้ยังมียาชนิดรับประทานด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วยาทามักจะทาในเวลากลางคืน จึงไม่จำเป็นต้องกังวลในการดำเนินชีวิตประจำวัน  scabies

ยารักษาโรคหิด

ครีมหรือยาทาหิดที่แพทย์มักสั่งจ่ายให้มีดังนี้: 
  • sulfur 10%
  • ครีม crotamiton 10%
  • โลชั่น lindane 1%        
  • โลชั่น benzyl benzoate 25%
  • ครีมเพอร์เมทริน (permethrin) 5%  
ทั้งนี้ผู้ป่วยควรปฎิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัดในการทาครีมหรือโลชั่นเพื่อกำจัดตัวหิด นอกจากนี้แพทย์อาจจะให้ยาอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อช่วยรักษาอาการข้างเคียงที่เกิดจากหิด เช่น :
  • ยาแก้อาการระคายเคืองจำพวก Benadryl (diphenhydramine) หรือโลชั่น pramoxine ที่ช่วยให้ผิวหายจากอาการคัน
  • ครีมจำพวกสเตียรอยด์ ที่ป้องกันอาการ บวม คัน 
  • ยาฆ่าเชื้อ
ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง เป็นหิดทั้งตัว หรือ รักษาด้วยวิธีอื่น ๆ แล้วอาการไม่ดีขึ้น แพทย์อาจจะสั่งยาที่เรียกว่า ivermectin (Stromectol)  ในช่วงสัปดาห์แรกของการรักษา อย่าเป็นกังวลหากอาการเหมือนว่าจะแย่ลง หลังจากหนึ่งสัปดาห์ผ่านไปผู้ป่วยจะสังเกตเห็นว่าอาการคันน้อยลง และจะดีขึ้นหรือหายไปภายในสี่สัปดาห์ หากอาการยังไม่ดีขึ้นหลังจากนั้น ควรกลับไปพบแพทย์ทันที

ทำอย่างไรเมื่อมีคันหิดตอนกลางคืน

เพื่อควบคุมอาการคันโดยเฉพาะตอนกลางคืนยาต้านฮีสตามีนสามารถช่วยได้ ครีมไฮโดรคอร์ติโซนอาจช่วยได้เช่นกัน แต่สามารถเปลี่ยนลักษณะของผื่นหิดได้ ทำให้วินิจฉัยอาการได้ยากขึ้น ควรใช้ครีมนี้หลังจากที่แพทย์ยืนยันการวินิจฉัยแล้วเท่านั้น

หิดมีอาการคันนานแค่ไหน

ยาออกฤทธิ์อย่างรวดเร็วเพื่อฆ่าตัวไร แต่ผื่นคันอาจคงอยู่เป็นเวลาหลายสัปดาห์หลังการรักษา รอยบนผิวหนังจากโรคหิดมักจะหายไปใน 1 ถึง 2 สัปดาห์ แต่บางครั้งอาจใช้เวลา 2-3 เดือนจึงจะหาย Scabies

จะรู้ได้อย่างไรว่าคันจากหิด

อาการหลักของโรคหิดคืออาการคันอย่างรุนแรงและมีผื่นขึ้นตามร่างกายที่มีตัวไรเข้าไปอยู่ อาการคันมักจะแย่ลงในตอนกลางคืนเมื่อผิวของคุณอุ่นขึ้น อาจใช้เวลา 4 ถึง 6 สัปดาห์ก่อนที่อาการคันจะเริ่มขึ้น เพราะนี่คือระยะเวลาที่ร่างกายจะตอบสนองต่อมูลไร

จะรู้ได้อย่างไรว่าหิดใกล้หาย

ในช่วงสัปดาห์แรกของการรักษา อาจดูเหมือนว่าอาการแย่ลง อย่างไรก็ตาม หลังจากสัปดาห์แรก คุณจะสังเกตเห็นอาการคันน้อยลงและคุณควรหายเป็นปกติภายในสัปดาห์ที่ 4 ของการรักษา ผิวหนังที่ยังไม่หายดีภายในหนึ่งเดือนอาจยังมีไรขี้เรื้อนรบกวนอยู่

โรคที่มีอาการคล้ายหิด

ผื่นที่เกิดจากหิดอาจมีลักษณะคล้ายคลึงกับสภาพผิวอื่นๆ เช่น สะเก็ดเงิน กลาก หรือผิวหนังอักเสบจากการสัมผัส ผื่นและอาการคันที่เกิดขึ้นอาจคล้ายกับผื่นที่พบใน:

วิธีรักษาหิดด้วยตัวเองที่บ้าน จากธรรมชาติด้วยสมุนไพรรักษาหิด

ในบางครั้งทางเลือกจากธรรมชาติอาจเป็นวิธีหนึ่งที่หลายคนเลือกใช้ แต่ต้องทำความเข้าใจว่าในบางครั้งวิธีเหล่านี้อาจก่อให้เกิดอาการแสบร้อนหรือระคายเคืองผิวเพียงชั่วขณะ การรักษามีหลากหลายวิธีดังนี้ 

น้ำมันทีทรีออยล์

จากการศึกษาพบว่าน้ำมันทีทรีสามารถรักษาหิดได้ และบรรเทาอาการคัน ช่วยลดผื่น แต่หากหิดฝังตัวลงไปใต้ผิวแล้ว น้ำมันทีทรีอาจจะไม่ได้ผลมากนัก

ว่านหางจระเข้

ว่านหางจระเข้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถรักษาอาการระคายเคืองจากหิดได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ควรเป็นว่านหางจระเข้แท้เท่านั้น

ครีมจากพริก Capsaicin 

แม้ว่ามันจะไม่สามารถฆ่าไรหรือหิดได้ แต่ครีมที่ทำจากแคปไซซิน อาจบรรเทาอาการปวดและอาการคัน มะระขี้นก  มะระขี้นกมีสรรพคุณแก้คัน โดยสามารถใช้ผลแห้งบดเป็นผงแล้วใช้โรย หรือ นำมาบดเป็นขี้ผึ้งทาแผลหิดได้  น้อยหน่า น้อยหน่ามีสรรพคุณช่วยรักษาหิด สามารถนำมาใช้ได้โดยการตำเมล็ดหรือใบสดให้ละเอียด แล้วนำมาทาบริเวณที่เป็นรอยโรควันละ 2-3 ครั้ง จนกว่าจะหาย  ตำลึง  เมล็ดตำลึงสามารถรักษาโรคหิดได้ โดยการนำเมล็ดตำลึงออกจากผลตำลึงที่สุก แล้วนำมาตำให้ละเอียด ผสมกับน้ำมันมะพร้าว และทาบริเวณที่เป็นหิด 3-4 ครั้ง จนกว่าจะดีขึ้น 

วิธีป้องกันการเกิดหิด

  • วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการเกิดหิดคือหลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวหนังหรือใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับคนที่เป็นหิด  
  • หลีกเลี่ยงการใช้เสื้อผ้าหรือนอนที่นอนเดียวกัน และควรซักเครื่องนอนหรือเสื้อผ้าที่ผู้ป่วยหิดสวมใส่ที่ความร้อน 50 องศาขึ้นไปเพื่อฆ่าตัวหิด
  • งดการมีเพศสัมพันธ์และการสัมผัสร่างกายอย่างใกล้ชิด จนกว่าจะรักษาโรคหายดีแล้ว การใส่ถุงยางอนามัยไม่สามารถป้องกันหิดได้
การรักษาหิดให้หายขาดไม่ใช่เรื่องยาก หิดสามารถรักษาหายขาดได้ และไม่ใช่โรคติดต่อร้ายแรงแต่อย่างใด เพียงแต่เชื้อของโรคนี้สามารถติดต่อได้ง่ายผ่านการสัมผัสกับผู้ป่วย ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย การเว้นระยะห่าง ไม่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยหรือผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นหิดจึงเป็นวิธีป้องกันที่ปลอดภัยที่สุด นอกจากนี้ หากคุณมีอาการคัน ระคายเคืองและสงสัยว่าตนเองอาจเป็นหิด ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการและทำการรักษาให้ทันเวลา ก่อนที่เชื้อจะแพร่ไปติดผู้อื่น คุณสามารถติดต่อโรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เช่นโรงพยาบาลสมิติเวช เพื่อปรึกษาพูดคุยกับแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญได้

ลิงค์ด้านล่างนี้เป็นแหล่งข้อมูลของบทความของเรา

  • https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/scabies/symptoms-causes/syc-20377378
  • https://www.nhs.uk/conditions/scabies/
  • https://dermnetnz.org/topics/scabies/
  • https://www.cdc.gov/parasites/scabies/gen_info/faqs.html
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด