9 คุณประโยชน์ภาพของวิตามินบี 6 (Pyridoxine)

วิตามินบี 6 คืออะไร

vitamin b6 หรือที่เรียกว่า pyridoxine คือวิตามินที่ละลายน้ำได้ ร่างกายต้องการเพื่อใช้ในการทำงานหลายประเภท มีความสำคัญต่อการเผาผลาญโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต การสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และสารสื่อประสาท ร่างกายไม่สามารถสร้างวิตามิน B6 ได้เอง ดังนั้นจึงต้องรับมาจากอาหาร หรืออาหารเสริม คนส่วนมากได้รับวิตามิน B6 จากอาหารเพียงพอ แต่ประชากรบางกลุ่มอาจเสี่ยงต่อการขาดวิตามิน การบริโภควิตามินบี 6 ในปริมาณที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพที่ดี และยังป้องกันและรักษาโรคเรื้อรังได้อีกด้วย

ประโยชน์ต่อสุขภาพของวิตามิน b 6

  1. ปรับปรุงอารมณ์และลดอาการซึมเศร้า
วิตามิน b 6 มีบทบาทสำคัญในการควบคุมอารมณ์ เพราะวิตามินชนิดนี้จำเป็นต่อการสร้างสารสื่อประสาทที่ใช้ควบคุมอารมณ์ รวมทั้งเซโรโทนิน โดปามีน และกรดแกมมา-อะมิโนบิวทริก (GABA) วิตามินบี 6 ยังมีบทบาทในการลดระดับกรดอะมิโนโฮโมซิสเทอีนในเลือด ซึ่งสัมพันธ์กับภาวะซึมเศร้าและปัญหาทางจิตเวชอื่น ๆ อาการซึมเศร้าเกี่ยวข้องกับระดับเลือดที่ต่ำ และการได้รับวิตามินบี 6 ที่น้อยเกินไป โดยเฉพาะผู้สูงอายุจะมีความเสี่ยงสูงต่อการขาดวิตามินบีเพิ่มขึ้น ระดับวิตามิน B6 ในเลือดที่ไม่เพียงพอจะเพิ่มโอกาสการเป็นโรคซึมเศร้าได้มากถึง 2 เท่า แต่การใช้วิตามิน บี6 เพื่อป้องกันหรือรักษาอาการซึมเศร้าอาจไม่ได้ผล 2 บำรุงสุขภาพสมอง และลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ วิตามินบี 6 อาจมีบทบาทในการปรับปรุงการทำงานของสมอง และป้องกันโรคอัลไซเมอร์ เพราะวิตามิน B 6 สามารถลดระดับโฮโมซิสเทอีนในเลือด และลดความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์ได้ มีผลการทดลองพบว่าผู้ที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง เมื่อมีปริมาณ B6, B12 และโฟเลตในเลือดสูงจะลดระดับโฮโมซิสเทอีนได้ Pyridoxine
  1. Vitamin B6 ป้องกันและรักษาโรคโลหิตจาง โดยช่วยในกระบวนการผลิตฮีโมโกลบิน
เนื่องจาก vitamin b 6 มีบทบาทในการผลิตฮีโมโกลบิน ดังนั้นวิตามินบี 6 จึงมีประโยชน์ในการป้องกันและรักษาโรคโลหิตจางได้ เฮโมโกลบินเป็นโปรตีนที่ส่งออกซิเจนไปยังเซลล์ของร่างกาย เมื่อร่างกายมีระดับฮีโมโกลบินต่ำ เซลล์ของร่างกายจะไม่ได้รับออกซิเจนเพียงพอ เป็นผลให้เป็นโรคโลหิตจาง และรู้สึกอ่อนแอหรือเหนื่อยง่าย วิตามินบี 6 กับโรคโลหิตจาง มีความสัมพันธ์กันอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในสตรีมีครรภ์และสตรีในวัยเจริญพันธุ์ ภาวะการขาดวิตามิน b6 นั้นพบได้ยากในผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีผลการศึกษาสตรีอายุ 72 ปีที่เป็นโรคโลหิตจาง เนื่องจากเกิดภาวะขาดวิตามินบี 6 สามารถรักษาด้วยวิตามินบี 6 ให้อาการดีขึ้นได้ การรับประทานวิตามินบี 6 ทุกวันในระหว่างที่กำลังตั้งครรภ์ จะช่วยลดอาการของโรคโลหิตจางในสตรีมีครรภ์ ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยธาตุเหล็กได้

แหล่งอาหารและอาหารเสริมที่มีวิตามิน B6

ผู้คนสามารถรับวิตามินบี 6 จากอาหารหรืออาหารเสริมได้ ปริมาณที่แนะนำต่อวัน (RDA) สำหรับ B6 คือ 1.3–1.7 มก. สำหรับผู้ใหญ่ที่มีอายุ 19 ปีขึ้นไป ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีส่วนมากจะรับปริมาณที่เหมาะสมนี้จากอาหารได้ ซึ่งรวมถึงอาหารที่อุดมด้วยวิตามิน b6 เช่น ไก่งวง ถั่วชิกพี ปลาทูน่า ปลาแซลมอน มันฝรั่ง และ กล้วย แต่หากอาหารที่รับประทานมี vitamine b 6 ไม่เพียงพอ จำเป็นต้องทานอาหารเสริมวิตามินบี 6 เพื่อป้องกันหรือแก้ไขปัญหาสุขภาพ สามารถขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพได้

ปริมาณที่แนะนำ

ปริมาณสารอาหารที่แนะนำ (RDA) สำหรับไพริดอกซิจะแตกต่างกันไปตามอายุ เพศ และช่วงชีวิต คำแนะนำทั่วไปมีดังนี้:
  • ทารก (0-12 เดือน) : 0.1-0.3 มก
  • เด็ก (1-8 ปี) : 0.5-0.6 มก
  • วัยรุ่น (9-18 ปี) : 1.0-1.3 มก
  • ผู้ใหญ่ (19-50 ปี) : 1.3 มก
  • ผู้ใหญ่ (อายุ 51 ปีขึ้นไป) : 1.7 มก. สำหรับผู้ชาย, 1.5 มก. สำหรับผู้หญิง
  • สตรีมีครรภ์ : 1.9 มก
  • สตรีให้นมบุตร : 2.0 มก
 

บทสรุป

ไพริดอกซิ (วิตามินบี 6) จำเป็นต่อการทำงานของร่างกายต่างๆ รวมถึงการเผาผลาญ การสังเคราะห์สารสื่อประสาท และการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบริโภคในปริมาณที่เพียงพอผ่านการรับประทานอาหารที่สมดุลหรืออาหารเสริมหากจำเป็น ปรึกษากับผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพเสมอก่อนเริ่มอาหารเสริมใดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังใช้ยาอื่นๆ หรือมีสภาวะสุขภาพที่เป็นอยู่ เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงและการโต้ตอบที่อาจเกิดขึ้น
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด