โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate cancer) คือ โรคร้ายที่พบในเพศชายที่อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป สมาคมศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะแห่งประเทศไทยใพระบรมราชูปถัมภ์ให้ข้อมูลว่า ชายไทยมีโอกาสเสี่ยงที่จะเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งต่อมลูกหมากมากขึ้น โดยมีอุบัติการณ์อยู่ที่ 2.5-3 รายต่อแสนประชากร จากเดิมเป็นมะเร็งชายไทยอันดัน 7-8 ปัจจุบันสูงเป็นอันดับ 4 ของโรคมะเร็งทั่วไปในชายไทย
ต่อมลูกหมากนั้นเป็นต่อมขนาดเล็กที่อยู่ต่ำกว่าหน้าท้องช่วงล่างของเพศชาย ตำแหน่งที่ตั้งอยู่ใต้กระเพาะปัสสาวะและล้อมรอบด้วยท่อปัสสาวะ ต่อมลูกหมากถูกควบคุมโดยฮอร์โมนเทสโทสเทอร์โรน (Testosterone) และเป็นส่วนผลิตของเหลวที่เรียกว่า น้ำอสุจิ
เมื่อเกิดความผิดปกติที่เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตในต่อมลูกหมาก เราจะเรียกว่า โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยเซลล์มะเร็งนี้สามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ในร่างกายได้
ประเภทของเซลมะเร็งต่อมลูกหมาก
โรคมะเร็งต่อมลูกหมากเป็นหนึ่งในโรคมะเร็งที่เกิดขึ้นกับต่อม โดยโรคนี้คือการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในต่อมลูกหมาก มะเร็งต่อมลูกหมากจัดเป็นประเภทต่างๆ โดยความรวดเร็วในการเจริญของเซลล์มะเร็ง โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทดังนี้- มะเร็งต่อมลูกหมากที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
- มะเร็งต่อมลูกหมากที่เจริญเติบโตอย่างช้าๆ
อาการมะเร็งต่อมลูกหมาก
มะเร็งต่อมลูกหมากอาการนั้นบางครั้งไม่ได้ร้ายแรง ดังนั้นผู้ป่วยอาจจะไม่มีอาการใดๆ อย่างไรก็ตามถ้าคุณมีสัญญาณหรืออาการของมะเร็งต่อมลูกหมาก โปรดอย่าลังเลใจที่จะเข้าพบแพทย์ เมื่อคุณได้รับการตรวจสอบ แพทย์จะทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธี อาการของมะเร็งต่อมลูกหมากมีดังนี้ปัญหาเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ
ปัญหาทางเดินปัสสาวะเป็นอาการทั่วไป เพราะต่อมลูกหมากนั้นมีตำแหน่งอยู่ใกล้กับกระเพาะปัสสาวะและล้อมรอบไปด้วยท่อปัสสาวะ เมื่อเนื้องอกหรือเซลล์ในต่อมลูกหมากเจริญเติบโตก็สามารถส่งผลไปเบียดกับกระเพาะปัสสาวะหรือท่อปัสสาวะได้ โดยสามารถมีปัญหาดังนี้:- ปวดปัสสาวะบ่อยครั้ง
- ใช้เวลาปัสสาวะนานกว่าปกติ
- มีเลือดออกปนมากับปัสสาวะ
ปัญหาเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์
หย่อนสมรรถภาพทางเพศอาจเป็นอาการของมะเร็งต่อมลูกหมาก รวมถึงมีเลือดในน้ำอสุจิในการหลั่งระหว่างมีเพศสัมพันธ์ความเจ็บปวด
เซลล์มะเร็งในต่อมลูกหมากสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เมื่อเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากแพร่กระจายปยังกระดูกสามารถทำให้เกิดความเจ็บปวดในบริเวณต่อไปนี้:- กระดูกเชิงกราน
- หลัง
- อก
สาเหตุของมะเร็งต่อมลูกหมาก
มะเร็งต่อมลูกหมากนั้นยังไม่มีสาเหตุที่แท้จริง เช่นเดียวกับมะเร็งอื่นๆ โดยสาเหตุนั้นอาจจะมาจากหลายๆ ปัจจัย อันประกอบด้วย ประวัติผู้ป่วยเป็นมะเร็งในครอบครัวหรือการสัมผัสสารเคมีบางชนิดอย่างไรก็ตามปัจจัยเหล่านี้สามารถนำไปสู่การกลายพันธุ์ของเซลล์และไม่สามารถควบคุมการเจริญเติบโตได้ในต่อมลูกหมากความเสี่ยงโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
มะเร็งต่อมลูกหมากนั้นสามารถพบในชายคนใดก็ได้ ปัจจัยบางประการสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งได้ ประกอบไปด้วย:- อายุที่มากขึ้น
- มีประวัติผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากในครอบครัว
- เชื้อชาติ
- ภาวะน้ำหนักเกิน
- การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม
คำแนะนำเกี่ยวกับการคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากมีดังนี้:
- ช่วงอายุ 40 ปี: ชายที่จะมีความเสี่ยงได้แก่ ผู้ที่มีประวัติสมาชิกในครอบครัวป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
- ช่วงอายุ 45 ปี: ชายที่จะมีความเสี่ยงได้แก่ เชื้อชาติแอฟริกัน เชื้อชาติอเมริกา
- ช่วงอายุ 50 ปี: ชายทุกคนมีความเสี่ยงจะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
เครื่องมือในการวินิจฉัยมะเร็งต่อลูกหมาก
หากคุณและแพทย์ตัดสินใจที่จะคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก สิ่งที่จะทำได้แก่การตรวจสอบร่างกาย และซักถามประวัติด้านสุขภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการวินิจฉัยมีดังนี้:- การตรวจทางทวารหนักแบบดิจิตอล (DRE): แพทย์ของคุณจะใช้นิ้วที่สวมถุงมือเข้าไปในไส้ตรงของผู้ป่วย เพื่อตรวจสอบต่อมลูกหมากของผู้ป่วยว่ามีก้อนเนื้อแข็ง ๆ ที่ต่อมลูกหมากซึ่งอาจเป็นเนื้องอกหรือไม่
- การทดสอบแอนติเจนเฉพาะต่อมลูกหมาก (PSA): การตรวจเลือดนี้จะตรวจสอบระดับ PSA ซึ่งเป็นโปรตีนที่ผลิตโดยต่อมลูกหมาก
- การตรวจชิ้นเนื้อต่อมลูกหมาก: แพทย์จะทำการตรวจชิ้นเนื้อ เพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
- การตรวจสอบอื่นๆ ได้แก่ MRI scan, CT scan หรือ Bone scan.
การรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก
แพทย์จะทำแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับโรคมะเร็งของผู้ป่วย โดยพิจารณาจากอายุ สุขภาพและระยะของมะเร็งต่อมลูกหมากว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะแรก หรือมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย หากเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากที่เจริญเติบโตแบบช้าๆ แพทย์จะยังไม่ทำการรักษา แต่จะนัดตรวจติดตามอาการเป็นระยะ และเมื่อเซลล์มะเร็งเริ่มเจริญเติบโตเร็วขึ้น ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาดังนี้:- ผ่าตัดมะเร็งต่อมลูกหมาก
- รังสีวิทยา
- การบำบัดด้วยความเย็น
- การบำบัดด้วยฮอร์โมน
- การบำบัดด้วยเคมี
- การผ่าตัดด้วยคลื่น
- การบำบัดระบบภูมิคุ้มกัน
การป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก
ความเสี่ยงบางประการที่ทำให้เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ได้แก่ อายุ ซึ่งคุณไม่สามารถจะควบคุมอายุได้ อย่างไรก็ตามยังมีปัจจับอื่นๆ ที่คุณสามารถควบคุมได้ ตัวอย่างเช่น การเลิกสูบบุหรี่ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้ การควบคุมอาหารและการออกกำลังกายก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกันการควบคุมอาหาร
อาหารบางชนิดสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ได้แก่:- มะเขือเทศ
- บร็อคโคลี่ กะหล่ำดอก และคะน้า
- ปลา
- ถั่วเหลือง
- น้ำมันที่มีโอเมก้า 3 เช่น น้ำมันมะกอก
- ผลิตภัณฑ์จากนม
- กรดไขมันอิ่มตัว
- เนื้อแดง
- เนื้อย่าง
การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากได้ เนื่องจากการออกกำลังกายจะช่วยเผาผลาญและลดน้ำหนัก ซึ่งเป็นการลดภาวะน้ำหนักเกินอันเป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก แพทย์แนะนำให้ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที/สัปดาห์อัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก
หากผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากได้รับการวินิจฉัยโดยเร็ว และเซลล์มะเร็งยังไม่ได้แพร่กระจายออกจากต่อมลูกหมากไปยังส่วนอื่นๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี การตรวจหาและการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ในการรักษาที่ดี หากมีอาการของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากคุณควรนัดพบแพทย์ทันที เพราะหากมะเร็งต่อมลูกหมากลุกลามไปนอกต่อมลูกหมากของคุณนั่นจะส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วยอาหารสามารถลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมากได้หรือไม่
คุณอาจเคยได้ยินว่าอาหารบางชนิดอาจช่วยลดความเสี่ยงของคุณ รวมถึงอาหารจากถั่วเหลือง ปลาที่มีน้ำมัน และอาหารที่มี:- ไลโคปีน – เช่น มะเขือเทศและผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศ
- ซีลีเนียม – แร่ธาตุที่พบในอาหาร เช่น ถั่วบราซิล ปลา อาหารทะเล
- วิตามินอี – เช่น ถั่ว เมล็ดพืช โฮลเกรน ผักใบเขียว และอะโวคาโด
อาหารประเภทใดที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
เราไม่ทราบแน่ชัดว่าอาหารใดเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมากหรือไม่ แต่อาหารบางชนิดอาจเพิ่มความเสี่ยงหากคุณกินมากเกินไปอาหารประเภทนม
การรับประทานหรือดื่มผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นม โยเกิร์ต และชีส อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก อาจเป็นเพราะมีแคลเซียม แต่นักวิจัยก็กำลังมองหาสาเหตุอื่นๆ ด้วยเช่นกัน สิ่งสำคัญคือต้องกินอาหารที่ทำจากนมทุกวันเพื่อให้กระดูกแข็งแรง นมทางเลือกที่มีแคลเซียมเสริมเช่นโยเกิร์ตถั่วเหลืองและนมถั่วเหลืองก็นับเช่นกัน เลือกตัวเลือกไขมันต่ำและน้ำตาลต่ำเมื่อทำได้แคลเซียม
การมีแคลเซียมมากเกินไปในอาหารของคุณอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่คุณต้องการประมาณ 700 มก. ต่อวันเพื่อให้กระดูกแข็งแรง คุณสามารถได้รับสิ่งนี้จากการรับประทานอาหารที่สมดุล ตัวอย่างเช่น นม 200 มล. มีแคลเซียมระหว่าง 240-260 มก. และโยเกิร์ตไขมันต่ำ 120 ก. มีแคลเซียมประมาณ 180 มก. คุณยังสามารถได้รับแคลเซียมจากผลิตภัณฑ์นม ปลา ขนมปัง และผักบางชนิดเนื้อแดงและแปรรูป
การรับประทานเนื้อแดงและเนื้อแปรรูปเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งบางชนิด เราไม่รู้ว่ามันเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากหรือไม่ เนื้อแดง ได้แก่ เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อแกะ หรือแพะ เนื้อแปรรูปรวมถึงไส้กรอก เบคอน แฮม ซาลามิ และเนื้อที่ผ่านการบ่มหรือถนอมอาหารอื่นๆ คุณควรพยายามจำกัดปริมาณเนื้อแดงและเนื้อแปรรูปที่คุณกิน พยายามลดให้เหลือไม่เกิน 70 กรัมต่อวันแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งบางชนิด เราไม่รู้ว่ามันเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากหรือไม่ เพื่อสุขภาพโดยรวมของคุณ ให้จำกัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่คุณดื่มไว้ที่ 14 หน่วยต่อสัปดาห์ นี่คือเบียร์ความแรงเฉลี่ยประมาณหกไพนต์หรือไวน์ความแรงต่ำสิบแก้ว (125 มล.) พยายามกระจายสิ่งเหล่านี้ออกไปตลอดทั้งสัปดาห์และมีวันที่ปลอดแอลกอฮอล์นี่คือลิงค์แหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/prostate-cancer/symptoms-causes/syc-20353087
- https://www.urologyhealth.org/urologic-conditions/prostate-cancer
- https://www.nhs.uk/conditions/prostate-cancer/
- https://www.cancer.org/cancer/prostate-cancer.html
เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น