โปลิโอ (Poliomyelitis) คือ โรคติดต่อที่เกิดจากไวรัสที่เข้าไปโจมตีระบบประสาท โดยส่วนใหญ่มักพบในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเด็กกลุ่มนี้มีโอกาสติดเชื้อไวรัสได้มากกว่าเด็กวัยอื่น
ข้อมูลจากองค์กรอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า 1 ในผู้ป่วยที่ติดเชื้อโปลิโอจำนวน 200 รายเป็นผู้พิการตลอดชีวิต อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณสถาบันวิจัยโรคโปลิโอที่ได้เริ่มนำวัคซีนโปลิโอมาใช้ในปี 1988 ปัจจุบันประเทศเหล่านี้ได้รับใบอนุญาติให้ใช้วัคซีนโปลิโอฟรี
- ทวีปอเมริกา
- ทวีปยุโรป
- แปซิฟิกตะวันตก
- เอเชียใต้
อาการของโปลิโอเป็นอย่างไร
จากข้อมูลทานสถิติได้ประมาณการณ์ว่า 95-99 เปอร์เซนต์ของผู้ที่ติดโรคโปลิโอไม่มีอาการแสดงออก หรือเรียกว่าการติดเชื้อแบบไม่มีอาการ แม้ว่าจะไม่มีอาการแสดงออกมา ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสยังคงสามารถแพร่กระจายเชื้อไวรัสโปลิโอไปสู่ผู้อื่นได้กลุ่มมีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
สัญญาณและอาการของโรคโปลิโอในกลุ่มมีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ จะพบอาการดังต่อไปนี้อย่างน้อย 1 อย่างภายใน 10 วัน ซึ่งมีอาการคล้ายเป็นไข้ได้แก่ นอกจากนี้กลุ่มมีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบยังสามารถเรียกว่ากลุ่มที่มีอาการแสดงเพียงเล็กน้อยกลุ่มมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง
มีการพบว่า 1 เปอร์เซนต์ของผู้ป่วยด้วยโปลิโออาการของโรคสามารถพัฒนาขึ้นและทำให้ผู้ป่วยมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนเเรงได้ โดยกลุ่มที่มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงทำให้เกิดโรคอัมพาตในกระดูกไขสันหลังและโปลิโอก้านสมองหรือสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในกระดูกสันหลังและก้านสมอง โดยมีอาการเริ่มเเรกคล้ายกับกลุ่มมีอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบแต่เมื่อเวลาผ่านไป 1 สัปดาห์ จะมีอาการรุนเเรงขึ้นซึ่งมีอาการดังต่อไปนี้- สูญเสียความยืดหยุ่นของร่างกาย
- เกิดอาการกล้ามเนื้อบีบเกร็งและเจ็บปวดกล้ามเนื้อ
- ไม่สามารถขยับร่างกายซีกใดซีกหนึ่งได้
- มีอาการอัมพาตชั่วคราวหรือถาวร
- รูปร่างผิดปกติ โดยเฉพาะสะโพก ข้อเท้าและเท้า
อาการหลังจากเกิดโรคโปลิโอ
มีความเป็นไปได้ว่าโรคโปลิโอสามารถกลับมาเกิดขึ้นซ้ำได้อีก แม้ว่ารักษาโรคหายเเล้ว โดยโรคนี้สามารถกลับมาเกิดขึ้นได้อีกหลังจากเวลาผ่านไป 15 ถึง 40 ปี ซึ่งส่วนใหญ่อาการทั่วไปหลังจากเกิดโรคโปลิโอได้แก่- มีอาการเจ็บปวดในกล้ามเนื้อเเละข้อต่ออย่างต่อเนื่อง
- มีอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อรุนเเรงขึ้น
- เหนื่อยง่ายและเกิดอาการอ่อนล้าหมดเเรง
- กล้ามเนื้อลีบหรือฝ่อ
- มีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจเเละการกลืน
- เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับหรือมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจในขณะนอนหลับ
- มีความสามารถอดทนกับอากาศเย็นได้ต่ำ
- เกิดกล้ามเนื้ออ่อนล้าตามส่วนต่างๆของร่างกายไปเรื่อยๆ
- เกิดภาวะซึมเศร้า
- มีปัญหาเกี่ยวกับสมาธิและความจำ
วิธีใช้ชีวิตร่วมกับผู้ที่มีเชื้อไวรัสโปลิโอ
เนื่องจากโรคโปลิโอเกิดจากเชื้อไวรัสที่สามารถเเพร่กระจายได้สูงผ่านการสัมผัสเชื้อที่อยู่ในอุจจาระหรือสิ่งของอย่างเช่นของเล่นที่อยู่ใกล้กับอุจจาระที่มีเชื้อไวรัส ซึ่งทำให้ไวรัสแพร่กระจายได้ นอกจากนี้เชื้อไวรัสโปลิโอยังสามารถแพร่กระจายผ่านการจามเเละการไอได้อีกด้วยเนื่องจากไวรัสสามารถอยู่ในลำคอและลำไส้เล็ก แต่ในกรณีนี้พบได้น้อยกว่า สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำสะอาดจำกัดหรือการระบายของเสียจากห้องน้ำไม่ดีอาจทำให้เกิดการสัมผัสกับเชื้อโปลิโอได้จากการดื่มน้ำที่มีการปนเปื้อนจากการขับถ่ายของเสียของมนุษย์ ข้อมูลจาก Mayo Clinic พบว่าเชื้อไวรัสสามารถเเพร่กระจายสู่ผู้ที่อาศัยอยู่กับผู้ติดเชื้อได้ ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันร่างกายที่อ่อนแอ เช่นผู้ที่มีผลตรวจเชื้อ HIV เป็นบวกและเด็กเล็ก คนเหล่านี้มีโอกาสติดเชื้อไวรัสโปลิโอได้มากที่สุด ถ้าหากคุณยังไม่เคยฉีดวัคซีนโปลิโอ คุณมีโอกาสติดเชื้อโรคโปลิโอได้มากขึ้นเมื่อคุณ…- เดินทางไปยังประเทศที่มีการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโปลิโอ
- ดูแลหรืออาศัยอยู่ร่วมกับผู้ป่วยโรคโปลิโอ
- ทำงานวิจัยอยู่ในห้องปฏิบัติการที่มีตัวอย่างของเชื้อไวรัส
- ผ่าตัดนำต่อมทอนซิลออก
- มีความเครียดสะสมอย่างหนักหรือทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส
แพทย์รักษาโปลิโออย่างไร
แพทย์สามารถรักษาได้เพียงอาการที่เกิดขึ้นเท่านั้น ในขณะที่การติดเชื้อยังสามารถเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากไม่มีการรักษาโรคโปลิโอโดยเฉพาะ ดังนั้นวิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนโปลิโอ โดยส่วนใหญ่การรักษาเพื่อบรรเทาอาการของโรคใช้วิธีดังต่อไปนี้- นอนพัก
- ใช้ยาแก้ปวด
- ยาคลายการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
- ยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการกระเพาะปัสสาวะติดเชื้อ
- ใช้เครื่องช่วยหายใจ
- ทำกายภาพบำบัดหรือสวมใส่อุปกรณ์ช่วยพยุงเดิน
- ในแผ่นเจลร้อนหรือผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อ
- ทำกายภาพบำบัดเพื่อรักษากล้ามเนื้อบริเวณที่มีอาการเจ็บปวด
- ทำกายภาพบำบัดเพื่อระบุปัญหาเกี่ยวกับปอด
- บำบัดเเละฟื้นฟูเพื่อเพิ่มความอดทนของปอด
การป้องกันโปลิโอ
การป้องกันสำหรับโปลิโอเกี่ยวข้องกับการฝึกสุขอนามัยที่ดีและการสร้างภูมิคุ้มกัน มีวัคซีน 2 ชนิด ได้แก่ วัคซีนโปลิโอชนิดรับประทาน (OPV) และวัคซีนโปลิโอชนิดเชื้อตาย (IPV) มาตรการป้องกันโรคโปลิโอที่ดีที่สุดคือการทำให้มั่นใจสุขอนามัยและส่งเสริมการปฏิบัติด้านสุขอนามัยที่ดี แต่การป้องกันโรคโปลิโอเริ่มต้นด้วยการฉีดวัคซีน วัคซีนโปลิโอได้รับการพัฒนา เพื่อต่อต้าน เชื้อไวรัสโปลิโอทั้ง 3 ชนิด และมีประสิทธิภาพอย่างมากในการผลิตแอนติบอดีป้องกันที่กระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสโปลิโอและให้การป้องกันจากโรคโปลิโอที่เป็นอัมพาต วัคซีน 2 ประเภท ที่ป้องกันโรคโปลิโอ:- วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอแบบหยอดปาก (OPV)
- วัคซีนโปลิโอชนิดเชื้อตาย (IPV)
นี่คือแหล่งที่มาของบทความของเรา
- https://www.cdc.gov/polio/what-is-polio/index.htm
- https://www.msdmanuals.com/professional/infectious-diseases/enteroviruses/poliomyelitis
- https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/polio/symptoms-causes/syc-20376512
- https://www.nhs.uk/conditions/polio/
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น