โรคโลหิตจางที่เป็นอันตราย (Pernicious Anemia) : ขาดวิตามินบี 12

ผู้เขียน Dr. Sommai Kanchana
0
โรคโลหิตจางที่เป็นอันตราย

Pernicious Anemia คืออะไร

 Anemia โลหิตจางหรือเลือดจาง คือภาวะที่มีเม็ดเลือดแดงในเลือดน้อย Pernicious Anemiaเป็นโรคที่เกิดจากการขาดวิตามินบี 12 ซึ่งพบได้ยาก เชื่อว่าเกิดจากภูมิคุ้มกันต่อต้านตนเอง จึงทำให้คนๆนั้นไม่สามารถสร้างสารในกระเพาะอาหารที่ชื่อ Intrinsic Factor ซึ่งทำหน้าที่ดูดซึมวิตามินบี 12 ในลำไส้เล็ก และวิตามินนี้จำเป็นสำหรับการสร้างเม็ดเลือดแดงและหน้าที่อื่นๆในร่างกายเลือดจางชนิดนี้ถูกเรียกว่า “Pernicious”  เพราะในสมัยก่อนจัดว่าเป็นโรคที่เป็นแล้วจะต้องเสียชีวิต เพราะยังไม่มีวิธีรักษา แต่ในปัจจุบันรักษาได้ง่ายเพียงฉีดวิตามินบี12 หรือรับประทาน แต่หากทิ้งไว้ไม่รักษา การขาดวิตามินบี 12 อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงได้                                                                                                    

อาการของโรคขาดวิตามินบี 12

การดำเนินโรคนี้เป็นไปอย่างช้าๆ อาจสังเกตได้ยาก เพราะบางครั้งผู้ป่วยก็จะชินกับการไม่สบาย อาการที่พบ เช่น                                                                                                                               ในรายที่เป็นมากหรือเป็นมานาน มักมีอาการทางระบบประสาท เช่น  และอาการอื่นๆ เช่น

สาเหตุของโรคโลหิตจางจากการขาดวิตามินบี12

  • ขาดอาหารที่มีวิตามินบี 12 ผู้ที่มีเลือดจางจะมีเม็ดเลือดแดงน้อย วิตามินบี 12 ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง ร่างกายจึงต้องการวิตามินบี 12 ให้เพียงพอ อาหารที่มีวิตามินบี 12 คือ เนื้อสัตว์ เนื้อสัตว์ปีก หอย ปู ไข่ ผลิตภัณฑ์จากนม น้ำนมถั่วเหลือง ถั่วและข้าวที่ผสมวิตามิน อาหารเสริมวิตามิน
  • การขาด Intrinsic Factor    ร่างกายคนต้องการโปรตีนที่เรียกว่า Intrinsic Factor (IF) ซึ่งสร้างจากเซลล์ในกระเพาะอาหารทำหน้าที่ดูดซึมวิตามินบี 12 เมื่อคุณกินวิตามินบี 12 มันจะไปที่กระเพาะอาหารและ IF จะจับกับวิตามิน และถูกดูดซึมที่ลำไส้เล็กส่วนปลาย ในผู้ที่เป็นโรคนี้ ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำลายเซลล์ในกระเพาะอาหารที่สร้าง IF  จึงไม่มีการจับกับวิตามินบี 12และไม่มีการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
  • ปัญหาของลำไส้เล็ก โรคที่เกิดในลำไส้เล็ก อาจทำให้เกิดการขาดวิตามินบี 12 ได้ เช่น โรค Celiac โรคโครห์น หรือ  HIV ผู้ที่ถูกตัดลำไส้เล็กส่วน Ileum ออก อาจเกิดการขาดวิตามินบี 12 ได้
การรบกวนแบคทีเรียดีในลำไส้เล็กก็อาจมีผลให้ขาดวิตามินบี 12 ได้ ยาฆ่าเชื้อโรคอาจฆ่าแบคทีเรียดีไปด้วย ซึ่งทำให้การดูดซึมในลำไส้ลดลง แต่การที่มีแบคทีเรียในลำไส้มากเกินไปก็อาจรบกวนการดูดซึมวิตามินได้เช่นกันPernicious Anemia

โลหิตจางจากการขาดวิตามินบี12  กับ Pernicious anemia

บางครั้งภาวะเลือดจางจากการขาดวิตามินบี 12 อื่น ๆ เช่น การรับประทานอาหารไม่เพียงพอ ก็ทำให้สับสนกับโรคนี้ Pernicious Anemia เป็นโรคที่เชื่อว่าเกิดจากภูมิคุ้มกันต่อต้านตนเอง จีงทำให้ เซลล์ Parietal ในกระเพาะอาหารถูกทำลาย จึงผลิต IF ไม่พอที่จะช่วยการดูดซึมของวิตามินบี 12  และโรคนี้อาจเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมด้วยเช่นกัน  Pernicious Anemia และเลือดจางจากการดูดซึมวิตามินบี 12 ไม่ได้ รักษาได้ด้วยการฉีดวิตามินบี 12 เข้ากล้ามเนื้อ หรือกินวิตามินบี 12 ขนาดสูงๆ  ผู้ที่ขาดวิตามินบี 12 เนื่องจากร่างกายดูดซึมไม่ได้ การให้กินวิตามินบี 12 และจัดอาหารที่เหมาะสม เป็นวิธีที่ดีในการรักษา

ความเสี่ยงต่อการขาดวิตามินบี12 

บางคนอาจเสี่ยงเป็น Pernicious Anemia มากกว่าคนอื่น ปัจจัยเสี่ยงเช่น 
  • ประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้
  • มีต้นตระกูลมาจากยุโรปเหนือ หรือแสกนดิเนเวีย
  • เป็นเบาหวานขนิดที่ 1 โรคภูมิแพ้ตนเองหรือโรคลำไส้อื่นๆ 
  • ตัดบางส่วนของกระเพาะอาหารออก
  • อายุ 50 ปีหรือมากกว่านั้น ความเสี่ยงจะมากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น

การวินิจฉัยโรค

แพทย์อาจทำการทดสอบบางอย่างเพื่อวินิจฉัยโรค เช่น
  • การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด เพื่อตรวจว่าเลือดจางหรือไม่ ดูความเข้มของเลือดและโปรตีนที่ลำเลียงออกซิเจน
  • ตรวจระดับวิตามินบี 12 ในเลือด 
  • ตรวจหาแอนติบอดีต่อ IFและ Parietal เซลล์ในกระเพาะอาหาร
ภูมิคุ้มกันที่ปกติ แอนติบอดีจะทำหน้าที่หาไวรัสหรือแบคทีเรีย และเกาะติดและทำลายเชื้อโรคนั้น แต่ถ้าภูมิคุ้มกันผิดปกติ มันจะแยกไม่ถูกระหว่างเนื้อเยื่อที่ปกติกับเชื้อโรค จึงทำลายเซลล์ในกระเพาะอาหารที่สร้าง IF

การรักษาโรคโลหิตจางจากการขาดวิตามินบี 12 

  • ฉีดวิตามินบี 12 ทดแทน
  • ติดตามผลวิตามินบี 12 ในเลือดเป็นระยะ
  • ปรับขนาดวิตามินที่ให้ ตามระดับวิตามินในเลือด
การฉีดวิตามินบี 12 อาจฉีดทุกวันหรือทุกสัปดาห์ จนกว่าระดับวิตามินบี 12 กลับเข้าสู่ปกติหรือใกล้เคียงปกติ ในช่วงสองสามสัปดาห์แรก แพทย์อาจให้งดกิจกรรมทางร่างกาย  หากระดับวิตามินบี 12 ปกติแล้ว อาจฉีดเพียงเดือนละครั้ง หรือเปลี่ยนเป็นยากินแทน แต่ถ้าการขาดวิตามินเป็นเพราะการดูดซึมในลำไส้ไม่ดีพอ อาจต้องฉีดวิตามินไปตลอดก็ได้

ผลข้างเคียง

แพทย์มักต้องดูแลผู้ป่วยระยะยาว เพื่อเฝ้าระวังผลข้างเคียงที่ร้ายแรง เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร และอาจต้องตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ ถ้าจำเป็น และผลข้างเคียงอื่นเช่น 
  • เส้นประสาทส่วนปลายเสียหาย
  • ปัญหาของระบบทางเดินอาหาร
  • ปัญหาเรื่องความจำ สับสน หรือระบบประสาท 
  • ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ
ผลข้างเคียงเหล่านี้ มักเกิดจากโรคเลือดจางPernicious เป็นเวลานาน และอาจเกิดถาวร

อาหารที่มีวิตามินบี 12 

วิตามินบี 12 มีความสำคัญต่อการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง การทำงานของเส้นประสาท และการสังเคราะห์ดีเอ็นเอ พบได้ในอาหารที่ทำจากสัตว์เป็นหลัก จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบุคคลที่รับประทานอาหารมังสวิรัติหรือวีแกนในการพิจารณาอาหารเสริมหรืออาหารเสริม ต่อไปนี้คืออาหารที่เป็นแหล่งวิตามินบี 12 ที่ดี:
  • เนื้อ:
    • เนื้อวัว
    • เนื้อหมู
    • เนื้อแกะ
    • เนื้ออวัยวะ (ตับ, ไต)
  • สัตว์ปีก:
    • ไก่
    • ไก่งวง
  • ปลา:
    • แซลมอน
    • ปลาเทราท์
    • ทูน่า
    • ปลาซาร์ดีน
    • ปลาแมคเคอเรล
    • ปลาแฮดด็อก
  • หอย:
    • หอยกาบ
    • หอยนางรม
    • หอยแมลงภู่
    • ปู
    • กุ้ง
  • ผลิตภัณฑ์นม:
    •  นม
    • โยเกิร์ต
    • ชีส
  • ไข่:
    • ไข่และโดยเฉพาะไข่แดง
  • อาหารเสริม:
    • อาหารจากพืชหลายชนิดไม่ได้อุดมไปด้วยวิตามินบี 12 ตามธรรมชาติ แต่บางชนิดก็มีวิตามินบี 12 เสริมด้วย ตรวจสอบฉลากอาหารเพื่อเพิ่มวิตามินบี 12 ตัวอย่างได้แก่:
      • นมจากพืชเสริม (ถั่วเหลือง อัลมอนด์ มะพร้าว ฯลฯ)
      • ซีเรียลอาหารเช้าเสริม
      • ยีสต์โภชนาการเสริม
      • สารทดแทนเนื้อสัตว์เสริม (เช่น เต้าหู้)
  • อาหารเสริม:
    • อาหารเสริมวิตามินบี 12 มีจำหน่ายหลายรูปแบบ ทั้งแบบเม็ด เม็ดอมใต้ลิ้น และแบบฉีด บุคคลที่มีความบกพร่องหรือผู้ที่รับประทานอาหารจากพืชอาจพิจารณาอาหารเสริมหลังจากปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
โปรดทราบว่าความสามารถของร่างกายในการดูดซึมวิตามินบี 12 จากอาหารจะลดลงตามอายุ และสภาวะทางการแพทย์หรือยาบางอย่างก็อาจส่งผลต่อการดูดซึมได้เช่นกัน ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรวมอาหารที่อุดมด้วยวิตามินบี 12 อย่างเพียงพอในอาหารของคุณหรือทานอาหารเสริมหากจำเป็น สำหรับผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติหรือวีแก้น สิ่งสำคัญคือต้องใส่ใจกับการบริโภควิตามินบี 12 และพิจารณาอาหารเสริมหรืออาหารเสริมเพื่อให้แน่ใจว่ามีวิตามินที่สำคัญนี้ในปริมาณที่เพียงพอ หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับระดับวิตามินบี 12 หรือการเลือกรับประทานอาหาร โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อขอคำแนะนำเฉพาะบุคคล

สุดท้าย

คนส่วนมากที่เป็น Pernicious Anemia ต้องการการรักษา และติดตามผลตลอดชีวิต เพื่อป้องกันความเสียหายระยะยาว ปรึกษาแพทย์หากคุณคิดว่าอาจมีอาการของโรคนี้ การวินิจฉัยแต่เนิ่นๆ การรักษา และดูแลติดตามอย่างใกล้ชิด เป็นสิ่งสำคัญที่จะป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

นี่คือแหล่งที่มาในบทความของเรา

  • https://medlineplus.gov/ency/article/000569.htm
  • https://www.nhlbi.nih.gov/health-topics/pernicious-anemia
  • https://www.nhs.uk/conditions/vitamin-b12-or-folate-deficiency-anaemia/causes/
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด