ยาโอฟลอกซาซิน (Ofloxacin) คืออะไร
ยาโอฟลอกซาซิน มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Ofloxacin และมีสูตรทางเคมีว่า C18H20FN3O4 ยาโอฟลอกซาซินใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ยาโอฟลอกซาซินอยู่ในกลุ่มยาที่เรียกว่า ยาปฏิชีวนะ ยาโอฟลอกซาซินทำงานโดยหยุดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ยาปฏิชีวนะนี้ออกฤทธิ์ต่อการติดเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น ไม่สามารถใช้ได้กับการติดเชื้อไวรัส (เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่) และการใช้ยาปฏิชีวนะจำเป็นต้องระมัดระวังถึงการดื้อยาในอนาคตคุณสมบัติ และสรรพคุณของยาโอฟลอกซาซิน
ยาโอฟลอกซาซินใช้กันอย่างแพร่หลายในการรักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยปัจจุบันนิยมใช้เฉพาะที่เป็นยาหยอดตา และหู ยาโอฟลอกซาซินเชื่อมโยงกับการบาดเจ็บของเซลล์ตับเฉียบพลันซึ่งเป็นผลข้างเคียงรุนแรงที่พบได้น้อยวิธีการใช้ยาโอฟลอกซาซิน
ใช้ยาโอฟลอกซาซินภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ปกติยาโอฟลอกซาซินจะรับประทานวันละ 2 ครั้ง (ทุก 12 ชั่วโมง) ปริมาณและระยะเวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย และการตอบสนองต่อการรักษา ควรรับประทานน้ำให้มากๆ หลังรับประทานยายาโอฟลอกซาซิน ใช้ยาโอฟลอกซาซินอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนหรือ 2 ชั่วโมงหลังจากรับประทานผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่อาจมีผลกับการทำปฏิกิริยากับยานี้ที่อาจจะทำให้ประสิทธิภาพลดลง ควรรับประทานยาโอฟลอกซาซินให้ตรงตามคำแนะนำอย่างสม่ำเสมอ และไม่ควรหยุดโดยกะทันหัน เพราะอาจจะทำให้กลับมาติดเชื้อได้อีกครั้งผลข้างเคียงในการใช้ยาโอฟลอกซาซิน
ผลข้างเคียงทั่วไปยาโอฟลอกซาซิน ได้แก่- ปวดท้อง
- คลื่นไส้
- ท้องร่วง
- ปวดศีรษะ
- เวียนศีรษะ
- หน้ามืด
- นอนไม่หลับ
ข้อควรระวังในการใช้ยาโอฟลอกซาซิน
ก่อนใช้ยาโอฟลอกซาซิน แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณallergy-0094/”>แพ้ยายาโอฟลอกซาซิน หรือยาปฏิชีวนะอื่นๆ รวมทั้งยาอื่นๆ และแจ้งประวัติการรักษาของคุณ โดยเฉพาะโรคลมชัก ภาวะที่เพิ่มความเสี่ยงต่ออาการชัก (เช่น อาการบาดเจ็บที่สมองหรือศีรษะ เนื้องอกในสมอง) ปัญหาเส้นประสาท (เช่น เส้นประสาทส่วนปลาย) โรคไต โรคตับ ความผิดปกติทางจิตใจ (เช่น ภาวะซึมเศร้า), ปัญหาข้อต่อ หรือเส้นเอ็น (เช่น เอ็นอักเสบ เบอร์ซาอักเสบ), ปัญหาหลอดเลือด (เช่น โป่งพอง หรือการอุดตันของหลอดเลือดแดงใหญ่หรือหลอดเลือดอื่น ๆ การแข็งตัวของหลอดเลือดแดง ) ความดันโลหิตสูง ภาวะทางพันธุกรรม เป็นต้น ยาโอฟลอกซาซินอาจทำให้เกิดภาวะที่ส่งผลต่อจังหวะการเต้นของหัวใจอาจทำให้เต้นแรง หรือผิดปกติ ซึ่งควรไปพบแพทย์โดยทันที ยาโอฟลอกซาซินอาจทำให้น้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลงอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นเบาหวาน ตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดของคุณอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่าระดับน้ำตาลผิดปกติควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษา ยาโอฟลอกซาซินอาจทำให้วัคซีนแบคทีเรียที่มีชีวิต (เช่น วัคซีนไทฟอยด์) ไม่ทำงานเช่นกัน ดังนั้นห้ามฉีดวัคซีน เว้นแต่เป็นการตัดสินใจของแพทย์ ยาโอฟลอกซาซินอาจทำให้เกิดอาการง่วงซึม และไวต่อแสงแดดมากขึ้น รวมทั้งปัญหาของข้อต่อที่พบได้มากในเด็ก และผู้สูงอายุ สำหรับสตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดหากจำเป็นต้องใช้ยาโอฟลอกซาซินหากคุณลืมรับประทานยา
หากคุณลืมรับประทานยา ofloxacin ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำทั่วไปที่ควรปฏิบัติตาม:- ทานยาทันทีที่คุณจำได้ : หากคุณลืมทานยา ofloxacin ให้รับประทานทันทีที่จำได้ อย่างไรก็ตาม หากใกล้ถึงเวลาที่ต้องรับประทานยาครั้งต่อไป ให้ข้ามยาที่ลืมไปและดำเนินการตามตารางการจ่ายยาตามปกติต่อไป อย่าเพิ่มขนาดยาเป็นสองเท่าเพื่อชดเชยการพลาด
- ตั้งการแจ้งเตือน : เพื่อช่วยป้องกันการขาดยาในอนาคต ลองตั้งค่าการแจ้งเตือนบนโทรศัพท์ของคุณ ใช้ที่เก็บยา หรือรวมการใช้ยาเข้ากับกิจวัตรประจำวันของคุณ (เช่น รับประทานพร้อมกับมื้ออาหารหรือก่อนนอน)
- ปฏิบัติตามคำแนะนำ : ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพหรือเภสัชกรเสมอเกี่ยวกับระยะเวลาและปริมาณยาของคุณ หากคุณมีคำถามหรือข้อกังวลเกี่ยวกับตารางการใช้ยา อย่าลังเลที่จะติดต่อขอคำแนะนำจากผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณ
- ติดตามอาการ : หากคุณพลาดยา ofloxacin และมีอาการผิดปกติหรือผลข้างเคียง โปรดติดต่อผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพของคุณเพื่อรับการประเมินและคำแนะนำเพิ่มเติม
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
0 ความคิดเห็น