โรคอ้วน (Obesity) : อาการ สาเหตุ การรักษา 

โรคอ้วน (Obesity) คือ ภาวะความผิดปกติจากการมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน เนื่องจากร่างกายมีภาวะไขมันสะสมตามอวัยวะส่วนต่างๆ มากเกินกว่าปกติ
โรคอ้วน

โรคอ้วน

สาเหตุของโรคอ้วนมาจากอะไร 

โรคอ้วนเกิดจากการกินอาหารที่มีแคลอรี่เกินกว่าที่ร่างกายจะสามารถเผาผลาญ หากปล่อยให้ล่วงเลยเวลาไป จะทำให้เกิดการสะสมของแคลอรี่ส่วนเกินและทำให้น้ำหนักเพิ่ม ส่งผลให้เป็นสาเหตุของโรคอ้วน

สาเหตุโดยทั่วไปของโรคอ้วน เช่น :  

  • กินอาหารที่มีไขมันและแคลอรี่สูง
  • การใช้ชีวิตโดยไม่ได้ออกกำลังหรือขยับตัว เพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกินออก 
  • นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและทำให้เกิดความหิวมากกว่าเดิมและอยากทานอาหารที่มีแคลอรี่สูง
  • เกิดจากพันธุกรรม จากการประมวลผลพลังงานของร่างกาย กระบวนที่ร่างกายกักเก็บไขมัน 
  • มีอายุที่มากขึ้นทำให้อัตราการเผาผลาญช้าลง ส่งผลให้น้ำหนักขึ้นได้ง่าย 
  • เกิดจากการตั้งครรภ์ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์ อาจทำให้ลดยากและไขมันอยู่กับตัวนานจนทำให้นำไปสู่โรคอ้วน

กรณีทางการแพทย์ ที่อาจนำไปสู่โรคอ้วนเช่น 

  • Polycystic ovary syndrome (PCOS): ภาวะที่ทำให้เกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนสืบพันธุ์เพศหญิง
  • Prader-Willi syndrome: เป็นภาวะที่ค่อนข้างพบได้ยาก  เกิดในผู้ที่มีภาวะความหิวผิดปกติ 
  • Cushing Syndrome : เกิดจากร่างกายมีระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) สูง
  • hypothyroidism (underactive thyroid): ภาวะพร่องไทรอยด์ทำงานต่ำ (underactive ไทรอยด์): คือภาวะที่ต่อมไทรอยด์ (Thyroid Gland) ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ออกมาไม่เพียงพอ
  • Osteoarthritis : อาการข้อเสื่อม เป็นอาการที่กระดูกอ่อน (Cartilage) ในข้อต่อกระดูกเสื่อมสภาพจากปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เช่น อายุ การใช้งาน เป็นต้น

ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคอ้วน 

การผสมผสานของหลายปัจจัยของการเป็นโรคอ้วน เช่น ทางพันธุกรรม สภาพแวดล้อม หรือสุขภาพจิต  สิ่งเหล่านี้ล้วนมีความเสี่ยงที่มาจากผลกระทบของโรคอ้วน 

พันธุกรรม

บางคนเป็นโรคอ้วน เนื่องมาจากพันธุกรรม ทำให้การลดน้ำหนักค่อนข้างเป็นไปได้ยาก 

สิ่งแวดล้อมและชุมชน

สภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตทั้งในบ้าน หรือที่ทำงาน และในที่ชุมชนอาจส่งผลให้มีอิทธิพลต่อการควบคุมน้ำหนักและการควบคุมอาหารการกิน บางท่านอาจอยู่ในแหล่งที่หาซื้อของกินได้อย่างสะดวก การใช้ชีวิตที่เร่งรีบเลยจำเป็นต้องซื้ออาหารนอกบ้าน ซึ่งการซื้ออาหารสำเร็จรูป หรืออาหารที่วางขายทั่วไป เราอาจไม่รู้วิธีการปรุงอาหาร และการใช้วัตถุดิบในการทำอาหารว่าใช้วัตถุดิบและวิธีการปรุงอาหารที่ปลอดภัย หรือบางทานอาจอยู่ห่างไกลในสถานที่ที่สามารถจะออกกำลังกาย เช่น เดินหรือวิ่งได้ ส่งผลทำให้ร่างกายไม่ได้รับการเบิร์นไขมันหรือแคลอรี่ออกไป  

ปัจจัยทางจิตวิทยาและอื่น ๆ

บางครั้งอาการซึมเศร้าอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ ผู้คนบางส่วนนิยมรับประทานอาหารเพื่อบำบัดอารมณ์ โดยไม่คำนึงถึงคุณค่าทางอาหาร และการใช้ยากล่อมประสาทบางชนิดสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเพิ่มน้ำหนักได้ อีกปัจจัยหนึ่งคือการเลิกสูบบุหรี่ การเลิกสูบบุหรี่เป็นสิ่งที่ดี แต่นั่นอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเน้นเรื่องการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายในขณะที่อยู่ระหว่างการเลิกสูบบุหรี่  ส่วนผู้ที่ใช้ยารักษาโรค เช่น สเตียรอยด์ หรือยาคุมกำเนิดอาจส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเพิ่มน้ำหนักด้วยเช่นกัน 

การวินิจฉัยโรคอ้วน 

โรคอ้วน หมายถึงการมีค่าดัชนีมวลกาย 30 หรือมากกว่าเป็นต้นไป ดัชนีมวลกายเป็นการคำนวณคร่าวๆของน้ำหนักของบุคคลที่เสี่ยงต่อการเข้าสู่ภาวะมีน้ำหนักเกินกว่ากำหนด  วิธีการตรวจที่ได้ผลแม่นยำมากขึ้นเพื่อตรวจการกระจายไขมันในร่างกายและตรวจวัดระดับไขมันในร่างกาย ได้แก่ ความหนาของผิวหนังการเปรียบเทียบรอบเอวถึงสะโพก และการตรวจด้วยวิธีการอัลตร้าซาวด์การคำนวณเอกซ์เรย์แบบคอมพิวเตอร์  แบบ CT สแกน และ MRI (Magnetic Resonance Imaging) คือ เครื่องตรวจร่างกายโดยการสร้างภาพเหมือนจริง ของส่วนต่างๆของร่างกาย โดยใช้สนามแม่เหล็กความเข้มสูง และคลื่นความถี่ในย่านความถี่วิทยุ(Radio Frequency) ด้วยการส่งคลื่นความถี่เข้าสู่ร่างกาย และรับคลื่นสะท้อนกลับ นำมาประมวลผลและสร้างเป็นภาพ ด้วยคอมพิวเตอร์ แพทย์อาจกำหนดวิธีการทดสอบเพื่อช่วยวินิจฉัยโรคอ้วน รวมถึงสอบถามความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน และอาจตรวจเลือดเพื่อตรวจสอบระดับคอเลสเตอรอลและกลูโคส การทดสอบการทำงานของตับ ทดสอบต่อมไทรอยด์และการทดสอบหัวใจด้วยคลื่นไฟฟ้า การวัดไขมันรอบเอวก็สามารถเป็นตัววัดความเสี่ยงต่อโรคอ้วนได้เช่นกัน

ภาวะแทรกซ้อนของโรคอ้วนคืออะไร?

โรคอ้วนนำไปสู่การเพิ่มน้ำหนักได้อย่างง่ายดาย การมีไขมันในร่างกายสูงต่อกล้ามเนื้อ ส่งผลต่อกระดูกและอวัยวะภายในร่างกาย นอกจากนี้ยังเพิ่มการอักเสบในร่างกายซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง โรคอ้วนยังเป็นสาเหตุสำคัญของโรคเบาหวานระยะที่ 2 อีกด้วย โรคแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคอ้วนสามารถเชื่อมโยงกับสุขภาพที่เป็นอันตรายต่อชีวิต ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่เกิดจากโรคอ้วน เช่น :

การใช้ยาลดน้ำหนัก

Obesity

Obesity

การใช้ยาลดน้ำหนักควรอยู่ในการควบคุมของแพทย์ ยาอาจจะถูกกำหนดให้ใช้เฉพาะในกรณีที่วิธีการลดน้ำหนักแบบอื่นแล้วไม่ได้ผล และหากผู้ป่วยมีค่าดัชนีมวลกายเป็น 27 หรือมากกว่านั้น  ยาลดความอ้วนตามใบสั่งของแพทย์จะทำงานเพื่อป้องกันการดูดซึมไขมันหรือระงับความอยากอาหาร ยาเหล่านี้อาจมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ตัวอย่างยา เช่น orlistat (Xenical) ตัวยาประเภทนี้สามารถทำให้ไขมันและก๊าชในลำไส้ค่อยๆเคลื่อนไหว การใช้ยาเหล่านี้ควรอยู่ในความดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด

การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและพฤติกรรม

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการเลือกทานอาหารจะช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักและเป็นวิธีลดความอ้วนได้เป็นอย่างดี ควรรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพที่เหมาะกับร่างกาย และควรจัดวางแผนโปรแกรมการออกกำลังกาย หรือจัดอาหารสำหรับโปรแกรมการลดน้ำหนักในแต่ละวัน หรือต่อสัปดาห์  การออกกำลังกายจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่ง ความอดทน และช่วยการทำงานเมทาบอลิซึมของร่างกายได้ดีขึ้น

การผ่าตัดเพื่อลดน้ำหนัก

การผ่าตัดลดน้ำหนัก (โดยทั่วไปเรียกว่า “ผ่าตัดลดความอ้วน”) ต้องอาศัยความมุ่งมั่นจากผู้ป่วยที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิต การผ่าตัดประเภทนี้จะทำงานโดยการ จำกัด จำนวนอาหารที่ผู้ป่วยต้องรับประทาน เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายดูดซึมอาหารและแคลอรี่ ที่เป็นส่วนเกินเข้าไป การผ่าตัดลดน้ำหนักไม่ใช่วิธีที่สามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว การผ่าตัดอาจมีความเสี่ยงร้ายแรง หลังการผ่าตัดผู้ป่วยจะต้องเปลี่ยนวิธีการรับประทานอาหารและการรับประทานอาหารที่ไม่เสี่ยงต่อการอาการของโรคอ้วนอย่างเคร่งครัด ผู้ที่ต้องการผ่าตัดลดน้ำหนัก จะต้องมีค่าดัชนีมวลกาย 40 หรือมากกว่า หรือมีค่าดัชนีมวลกาย 35-39.9 และมีปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วนอย่างจริงจัง ผู้ป่วยจะต้องควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักก่อนเข้ารับการผ่าตัด นอกจากนี้ผู้ป่วยต้องได้รับการให้คำปรึกษาจากแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าเตรียมพร้อมสำหรับการผ่าตัดและพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิตตามที่ปราถนาเพื่อขจัดโรคอ้วนออกไปได้อย่างแน่นอน 

ตัวเลือกการผ่าตัดรวมถึง:

  • gastric bypass surgery : การผ่าตัดบายพาสกระเพาะอาหาร นำลำไส้ไปต่อกระเพาะอาหารทำให้อาหารไม่ผ่านกระเพาะจะทานอาหารได้น้อยและรู้สึกอิ่มเร็ว
  • laparoscopic adjustable gastric banding (LAGB) : เป็นการนำห่วงรัดที่ปรับได้ไปรัดกระเพาะเพื่อลดปริมาณการทานอาหารต่อครั้งลง
  • gastric sleeve: เป็นการลดขนาดของกระเพาะอาหาร
  • biliopancreatic diversion with duodenal switch:  เป็นวิธีที่ลดน้ำหนักได้มากที่สุด แต่ก็มีผลแทรกซ้อนมากที่สุด ในเรื่องของการดูด ซึมสารอาหาร

โรคอ้วนรักษาได้อย่างไร?

หากคุณเป็นโรคอ้วนและไม่สามารถลดน้ำหนักได้ด้วยตัวเอง หรือหากต้องการปรึกษาแพทย์ แพทย์อาจจะแนะนำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหนักโดยเฉพาะ แพทย์จะให้คำปรึกษาในเรื่องการลดน้ำหนัก สามารถปรึกษานักโภชนาการ หรือเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพทั่วไปได้เช่นกัน  การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นการควบคุมอาหาร การออกกำลังกายเป็นต้น

ป้องกันโรคอ้วนได้อย่างไร?

การป้องกันการการมีน้ำหนักเพิ่ม ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและควรตั้งเป้าออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก เช่นการเดินออกกำลังกาย ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน อย่างน้อย เป็นเวลา 20 ถึง 30 นาทีทุกวัน เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ธัญพืชและโปรตีนลีน กินอาหารที่มีไขมันและแคลอรีในปริมาณที่พอเหมาะ วิธีลดความอ้วนอย่างเร่งด่วน ควรงดอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล ในแต่ละวัน วิธีนี้จะส่งผลให้น้ำหนักลดได้เร็วอย่างเห็นได้ชัด

วิธีการลดไขมันในร่างกาย

  • กินอาหารประเภทโปรตีนกับไขมันให้ครบถ้วนสมดุล
  • ไม่ควรงดอาหารมือเช้า
  • กินอาหารที่มีกากใยทุกมือ
  • ดื่มน้ำมากๆ

แนวโน้มระยะยาวสำหรับโรคอ้วน

โรคอ้วนส่งผลให้มีภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวกับโรคอ้วนได้หลายโรคเลยทีเดียว ปัจจุบันผู้คนเลยให้ความสำคัญกับการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและทำกิจกรรมเพื่อช่วยลดความอ้วนได้อย่างง่ายๆกันมากขึ้น อย่างไรก็ตามการดูแลตัวเองขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบต่อตัวเราเองด้วย เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอย่างถาวร

คำถามที่พบบ่อย

อาหารที่ดีที่สุดสำหรับคนอ้วนคืออะไร  เลือกอาหารที่ผ่านการแปรรูปน้อยที่สุด ทั้งธัญพืช ผัก ผลไม้ ถั่ว แหล่งโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพ (ปลา สัตว์ปีก ถั่ว) และน้ำมันจากพืช จำกัดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ธัญพืชขัดสี มันฝรั่ง เนื้อแดงและเนื้อแปรรูป และอาหารแปรรูปสูงอื่นๆ เช่น อาหารจานด่วน จัดการกับโรคอ้วนได้อย่างไร การลดแคลอรีและฝึกนิสัยการกินที่ดีต่อสุขภาพมีความสำคัญต่อการเอาชนะโรคอ้วน แม้ว่าคุณอาจจะลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็วในตอนแรก แต่การลดน้ำหนักอย่างต่อเนื่องในระยะยาวถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการลดน้ำหนักและเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนักอย่างถาวร  ทำไมกินน้อยแต่ยังอ้วน การเผาผลาญอาหารช้า ร่างกายของคุณจะไม่เปลี่ยนอาหารเป็นพลังงานในปริมาณที่เพียงพอ ดังนั้นอาหารส่วนใหญ่ที่คุณกินจึงถูกเก็บสะสมไว้ในรูปของไขมัน นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้บางคนอ้วนทั้งที่กินไม่เยอะ ผู้ที่เป็นโรคอ้วนมักไม่แข็งแรงเพราะเหตุใด โรคอ้วนหมายถึงการมีไขมันในร่างกายในปริมาณที่ไม่ดีต่อสุขภาพ สิ่งนี้ทำให้สุขภาพของคุณตกอยู่ในอันตราย โรคอ้วนทำให้คุณมีความเสี่ยงมากขึ้นในการเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 โรคหัวใจ ความ ดันโลหิตสูง โรคข้ออักเสบ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ มะเร็งบางชนิด และโรคหลอดเลือดสมอง การรักษาเกี่ยวข้องกับแผนระยะยาวในการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต อาหาร 6 ชนิด ป้องกันโรคอ้วน มีอะไรบ้าง  เน้น ผลไม้ ผัก เมล็ดธัญพืช และนมและผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำหรือไขมันต่ำ รวมถึงอาหารที่มีโปรตีนหลากหลาย เช่น อาหารทะเล เนื้อไม่ติดมันและสัตว์ปีก ไข่ พืชตระกูลถั่ว  ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ถั่ว และเมล็ดพืช วิธีแก้อ้วน มีอะไรบ้าง การเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ( ธัญพืชไม่ขัดสี ผักและผลไม้ แหล่งไขมันและโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพ) และเครื่องดื่ม จำกัดอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ (ธัญพืชขัดสีและขนมหวาน มันฝรั่ง เนื้อแดง เนื้อแปรรูป) และเครื่องดื่ม (เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล) เพิ่มการออกกำลังกาย การจำกัดเวลาโทรทัศน์ เวลาหน้าจอ เดินบ่อย ๆ  โรคอ้วนเป็นพันธุกรรมหรือไม่  โรคอ้วนมักเกิดขึ้นในครอบครัวตามรูปแบบการถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่ชัดเจนซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในยีนเดียว ยีนที่เกี่ยวข้องมากที่สุดคือ MC4R ซึ่งเข้ารหัสตัวรับเมลาโนคอร์ติน 4 เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราอ้วน  ดัชนีมวลกาย สำหรับผู้ใหญ่ส่วนใหญ่: ค่าดัชนีมวลกายระหว่าง 18.5 ถึง 24.9 ถือว่ามีสุขภาพดี ค่าดัชนีมวลกายระหว่าง 25 ถึง 29.9 ถือว่ามีน้ำหนักเกิน ค่าดัชนีมวลกายตั้งแต่ 30 ขึ้นไปถือเป็นโรคอ้วน 3 กุญแจสำคัญในการป้องกันโรคอ้วนคืออะไร กลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดในการป้องกันโรคอ้วนคือพฤติกรรมการกินเพื่อสุขภาพ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และลดกิจกรรมนั่งนิ่ง (เช่น ดูโทรทัศน์และวิดีโอเทป และเล่นเกมคอมพิวเตอร์) กินน้อยเกินไปทำให้อ้วนจริงหรือไม่ สาเหตุหลักประการหนึ่งที่การรับประทานอาหารน้อยเกินไปอาจทำให้น้ำหนักขึ้นได้ก็เพราะการบริโภคแคลอรีน้อยเกินไปอาจทำให้อัตราการเผาผลาญของคุณช้าลง ซึ่งหมายความว่าคุณอาจเผาผลาญแคลอรีน้อยลงตลอดทั้งวัน ไข่ช่วยเผาผลาญไขมันหรือไม่  อาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น ไข่ สามารถช่วยให้คุณเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้นเพื่อรองรับการลดน้ำหนัก อาหารที่มีโปรตีนสูงอาจเพิ่มการเผาผลาญของคุณได้ถึง 80–100 แคลอรี่ต่อวัน เนื่องจากจำเป็นต้องมีพลังงานเพิ่มเติมเพื่อช่วยเผาผลาญโปรตีนในอาหาร เราสามารถลดน้ำหนักโดยไม่ออกกำลังกายได้หรือไม่  พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เรียบง่ายหลายอย่างสามารถช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้  สามารถใช้จานที่เล็กลง กินให้ช้าลง ดื่มน้ำ และหลีกเลี่ยงการกินหน้าทีวีหรือคอมพิวเตอร์ การจัดลำดับความสำคัญของอาหารที่อุดมด้วยโปรตีนและเส้นใยหนืดอาจช่วยได้เช่นกัน กาแฟดีสำหรับการลดน้ำหนักหรือไม่  ใช่ กาแฟสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ กาแฟมีสารอาหาร เช่น ไนอาซิน โพแทสเซียม แมกนีเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถปรับปรุงสุขภาพทางเดินอาหาร สนับสนุนการทำงานของกล้ามเนื้อ และทำให้สุขภาพหัวใจดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีคาเฟอีนซึ่งช่วยเพิ่มการเผาผลาญ เพิ่มพลังงาน และสามารถส่งเสริมการลดน้ำหนัก

ลิ้งค์ด้านล่างเป็นแหล่งข้อมูลบทความของเรา 

  • https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/obesity/symptoms-causes/syc-20375742
  • https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/obesity-and-overweight
  • https://www.nhs.uk/conditions/obesity/ 
  • https://www.cdc.gov/obesity/adult/defining.html 

เนื้อหาและรีวิวมาจากผู้เชี่ยวชาญ โดย Bupa team

แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด