โรคมะเร็งผิวหนังชนิดไม่ใช่เมลาโนมา(Nonmelanoma skin cancer)

ผู้เขียน Dr. Sommai Kanchana
0
โรคมะเร็งผิวหนังชนิดไม่ใช่เมลาโนมา
โรคมะเร็งผิวหนังชนิดไม่ใช่เมลาโนมาคือมะเร็งทุกชนิดที่เกิดขึ้นบนผิวหนังทึ่ไม่ใช่เมลาโนมา มะเร็งผิวหนังชนิดไม่ใช่เมลาโนมามีหลายชนิด ส่วนใหญ่ที่พบคือชนิด basal cell carcinoma และ squamous cell carcinoma  การรักษาโรคมะเร็งผิวหนังชนิดไม่ใช่เมลาโนมาจะขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง การรักษามักมีการผ่าตัดเพื่อนำเอาเซลล์มะเร็งออกไป

ชนิดTypes

  1. Angiosarcoma
  2. Basal cell carcinoma
  3. Cutaneous B-cell lymphoma
  4. Cutaneous T-cell lymphoma
  5. Dermatofibrosarcoma protuberans
  6. Merkel cell carcinoma
  7. Sebaceous carcinoma
  8. Squamous cell carcinoma of the skin

ชนิด Angiosarcoma

ชนิด Angiosarcoma คือมะเร็งที่พบได้ยากเกิดขึ้นที่เยื่อบุของหลอดเลือดและท่อน้ำเหลือง ซึ่งท่อน้ำเหลืองเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิต้านทาน สะสมเชื้อไวรัส แบคทีเรียและของเสียจากร่างกาย  มะเร็งชนิด Angiosarcoma สามารถเกิดขึ้นในทุกที่ของร่างกายแต่ส่วนใหญ่มากเกิดขึ้นที่ผิวหนังตามส่วนต่างๆของร่างกาย เช่นที่หน้าอก หรืออาจเกิดขึ้นลึกลงไปในเนื้อเยื่อเช่นที่ตับและที่หัวใจ โรค Angiosarcoma สามารถเกิดขึ้นในบริเวณที่เคยได้รับการรักษาด้วยการฉายแสงมาก่อน การรักษา Angiosarcoma ขึ้นอยู่กับบริเวณที่เกิดมะเร็ง ทางเลือกในการรักษาอาจรวมไปถึงการผ่าตัด รังสีบำบัดและเคมีบำบัด Nonmelanoma skin cancer สัญญานและอาการของโรค Angiosarcoma อาจมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับว่ามะเร็งเกิดขึ้นที่บริเวณไหน

โรค Angiosarcoma ที่ส่งผลต่อผิวหนัง

โรค angiosarcoma มักเกิดขึ้นบนผิวหนังบริเวณศีรษะและคอ โดยเฉพาะที่หนังศีรษะ สัญญานและอาการคือ:
  • ผิวนูนมีสีม่วงดูคล้ายรอยฟกช้ำ
  • มีแผลคล้ายรอยฟกช้ำที่โตขยายขึ้นเรื่อยๆ
  • มีแผลที่มีเลือดออกเมื่อมีรอยขีดข่วนหรือโดนกระแทก
  • มีรอยบวมรอบๆผิว

โรค Angiosarcoma ที่ส่งผลต่ออวัยวะ

โรค Angiosarcoma จะส่งผลต่ออวัยวะเช่น ตับหรือหัวใจ เป็นสาเหตุทำให้เจ็บ ส่วนอาหารอื่นๆขึ้นอยู่กับตำแหน่งของ Angiosarcoma           

สาเหตุ

สาเหตุยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่แพทย์สามารถระบุปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคได้ แพทย์รับรู้ว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นเป็นเพราะเซลล์ที่อยู่ในเยื่อบุหลอดเลือดหรือท่อน้ำเหลืองเกิดการผิดเพี้ยน (กลายพันธุ์)ในรหัสพันธุกรรม การกลายพันธุ์จะสั่งให้เซลล์เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดเซลล์ผิดปกติมากขึ้น และเซลล์ผิดปกตินี้จะยังคงมีชีวิตอยู่เมื่อเซลล์อื่นๆตาย ผลจากการเกิดขึ้นของเซลล์ที่ผิดปกตินี้จะเติบโตส่งผลกระทบต่อหลอดเลือดและท่อน้ำเหลือง  ในเวลาเดียวกันเซลล์ก็จะแตกตัวและกระจาย (การแพร่กระจาย) ไปสู่บริเวณอื่นๆของร่างกาย

ชนิด Basal cell carcinoma

ชนิด Basal cell carcinoma คือมะเร็งผิวหนังชนิดหนึ่งที่เริ่มขึ้นในเบซัลเซลล์-ชนิดของเซลล์ที่อยู่ภายในผิวหนังซึ่งทำหน้าที่สร้างเซลล์ผิวหนังใหม่เมื่อเซลล์เก่าตาย  มะเร็งชนิด Basal cell carcinoma มักเกิดขึ้นเป็นตุ่มใส เกิดขึ้นบริเวณที่ผิวหนังมีการสัมผัสแสงแดด เช่นที่ศีรษะและคอ มะเร็งชนิด basal cell carcinomas ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะการสัมผัสแสงอัลตร้าไวโอเลต (ยูวี) ที่มาจากแสงแดด การหลีกเลี่ยงแสงแดดและใช้ครีมกันแดดสามารถช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งชนิด basal cell carcinoma. ได้

อาการ

  • เกิดตุ่มสีชมพูหรือสีเหมือนสีผิว สีขาวนวล เกิดเส้นเลือดเล็กๆที่มองเห็นได้ มีแผลปรากฏให้เห็นบนในหน้าและหู อาจแตก มีเลือดออกและตกสะเก็ด
  • มีแผลสีม่วงหรือดำ น้ำตาหรือแผลจุดดำ นูนเล็กน้อยมีขอบใส
  • มีรอยเป็นแผ่นแดง เป็นเกล็ด มักพบที่หลังหรือคอ จะขยายใหญ่ขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
  • มีแผลคล้ายแผลเป็น มันวาว สีขาว ไม่มีขอบ

ชนิด Cutaneous B-cell lymphoma

มะเร็งชนิด Cutaneous B-cell lymphoma เกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก มักเริ่มขึ้นในเซลล์เม็ดเลือดขาวและเข้าจู่โจมที่ผิวหนัง มะเร็ง  Cutaneous B-cell lymphoma เกิดขึ้นในบีเซลล์ -เป็นหนึ่งในเซลล์เม็ดเลือดขาวมี่ช่วยต่อสู้กับโรคที่เรียกว่าลิมโฟไซต์ อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ:ลิมโฟไซต์

ชนิด Cutaneous T-cell lymphoma

มะเร็งชนิด Cutaneous T-cell lymphoma (CTCL) เป็นมะเร็งชนิดที่หาได้ยากมักเริ่มต้นในเซลล์เม็ดเลือดขาวที่เรีบกว่า ทีเซลล์ หากเซลล์ชนิดนี้เป็นปกติเซลล์นี้จะช่วยระบบภูมิต้านทานในการต่อสู้กับเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย แต่หากเซลล์นี้เกกิดผิดปกติเซลล์จะเข้าจู่โจมที่ผิวหนัง ชนิด Cutaneous T-cell lymphoma เป็นสาเหตุทำให้ผิวเกิดผื่นแดง นูนเล็กน้อยหรือเป็นแผ่นสะเก็ดกลมที่ผิวหนัง บางครั้งกลายเป็นเนื้องอกผิวหนัง

อาการ

สัญญานและอาการของมะเร็งชนิด cutaneous T-cell lymphoma คือ:
  • ผิวหนังมีแผ่นกลม อาจนูนขึ้นหรือเป็นเกล็ด อาจทำให้คัน
  • แผ่นที่ขึ้นบนผิวหนังจะสีสว่างกว่าผิวบริเวณรอบๆ
  • มีตุ่มน้ำขึ่นบนผิวหนังและอาจแตกได้
  • ต่อมน้ำเหลืองโต
  • ผมร่วง
  • มีผิวหนังหนาที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า
  • ผิวหนังเป็นผื่นแดงทั่วร่างกายและคันมาก

ชนิด Dermatofibrosarcoma protuberans

มะเร็งชนิด Dermatofibrosarcoma protuberans (DFSP) คือชนิดของมะเร็งผิวหนังที่พบได้ยากมาก มะเเร็งมักเริ่มขึ้นที่เซลล์เนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่อยูในชั้นกลางของผิว (ชั้นหนังแท้) มะเร็ง Dermatofibrosarcoma protuberans อาจปรากฏให้เห็นครั้งแรกเป็นรอยฟกช้ำหรือรอยแผลเป็น และเติบโตขึ้นเป็นปุ่มเนื้อที่ผิวหนัง มักเกิดขึ้นที่แขน ขาหรือลำตัว 

ชนิด Merkel cell carcinoma

มะเร็งชนิด Merkel cell carcinoma คือชนิดของมะเร็งผิวหนังที่พบได้ไม่บ่อยนัก มักเป็นตุ่มสีม่วงแดงหรือสีแดงเรื่อๆ มักเกิดขึ้นที่ใบหน้า ศีรษะหรือคอ  มะเร็งชนิด Merkel cell carcinoma มักพบบ่อยในผู้สูงอายุ การสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานานๆหรือระบบภูมิต้านทานอ่อนแออาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งชนิด Merkel cell carcinoma                                                        มะเร็งชนิด Merkel cell carcinoma จะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและแพรกระจายได้ไวสู่ส่วนต่างๆของร่างกาย  

อาการ

สัญญานแรกของมะเร็งชนิด Merkel cell carcinoma มักเกิดก้อนเนื้อที่ไม่เจ็บ เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วบนผิวหนัง ก้อนเนื้อนี้อาจมีสีคล้ายสีเนื้อหรืออาจปรากฏเป็นสีแดง ม่วงหรือเขียว มักปรากฏให้เห็นบนใบหน้า ศีรษะหรือคอ แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่บนร่างกาย แม้แต่กับบริเวณที่ไม่โดนแสงแดดก็ตาม

สาเหตุ

สาเหตุของมะเร็งชนิด Merkel cell carcinoma มักเกิดขึ้นในเซลล์เมอร์เกิล ซึ่งเซลล์เมอร์เกิลนี้พบได้ที่ที่ผิวหนังชั้นนอกสุด (หนังกำพร้า) เซลล์เมอร์เกิลจะต่อกับปลายเส้นประสาทในผิวหนังที่มีหน้าที่เป็นตัวรับความรู้สึกจากการสัมผัส 

ปัจจัยเสี่ยง

ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิด Merkel cell carcinoma คือ:
  • การสัมผัสแสงแดดธรรมชาติหรือแสงแดดเทียม 
  • ระบบภูมิต้านทานอ่อนแอ
  • มีประวัติเป็นโรคมะเร็งผิวหนังชนิดอื่นๆ
  • อายุมากขึ้น
  • ผิวสีสว่างมากขึ้น

ชนิด Sebaceous carcinoma

มะเร็งชนิด Sebaceous carcinoma คือชนิดของมะเร็งที่พบได้ยากมักเริ่มขึ้นที่ต่อมไขมันในร่างกาย มะเร็งชนิด Sebaceous carcinoma มักส่งผลต่อเปลือกตา โรค Sebaceous carcinoma มักเริ่มจากตุ่มไม่เจ็บหรือผิวหนังบนเปลือกตาหนาขึ้น ในขณะที่ตุ่มเติบโตขึ้น มะเร็งอาจทำให้มีเลือดออกหรือไหลซึม มะเร็ง Sebaceous carcinoma สามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัดเอามะเร็งออกไป มะเร็ง Sebaceous carcinoma สามารถกระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกายและอาจยากต่อการรักษา

ชนิด Squamous cell carcinoma หรือ bbc คือ

มะเร็งชนิด Squamous cell carcinoma เป็นมะเร็งผิวหนังที่เกิดขึ้นในเซลล์ความัสเป็นผิวหนังชั้นนอกสุดและชั้นกลาง  มะเร็ง Squamous cell carcinoma ที่ผิวหนังมักไม่เป็นอันตรายถึงเสียชีวิต แต่ก็สามารถลุกลามได้อย่างรวดเร็ว หากไม่ได้รับการรักษามะเร็งชนิดนี้ก็จะเจริญเติบโตใหญ่ขึ้นหรือมีการแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆของร่างกาย อาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ มะเร็ง squamous cell carcinomas ส่วนใหญ่มักเกิดเพราะมีการสัมผัสแสงอัลตร้าไวโอเลต (ยูวี) เป็นเวลานาน ทั้งจากที่โดนแสงแดดหรือจากเตียงหรือโคมไฟอาบแดด การหลีกเลี่ยงแสงยูวีจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง squamous cell carcinoma และโรคมะเร็งผิวหนังอื่นๆ เซลล์ความัส มักพบได้ในหลายๆที่ในร่างกาย มะเร็ง  squamous cell carcinoma สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกๆที่ที่มีเซลล์ความัส 

อาการ

มะเร็งชนิด Squamous cell carcinoma มักเกิดขึ้นตรงบริเวณที่สัมผัสแสงแดดเช่นที่หนังศีรษะ ด้านหลังมือ หูหรือริมฝีปาก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกๆส่วนของร่างกายซึ่งยังรวมไปถึงภายในปาก เท้าและองคชาต สัญญานและอาการของมะเร็งผิวหนังชนิด squamous cell carcinoma คือ:
  • มีก้อนนูนแดง แข็ง
  • มีแผลเจ็บที่มีสะเก็ด
  • แผลเป็นเก่าเกิดเจ็บขึ้นมาใหม่
  • มีแผ่นตกสะเก็ด ขรุขระบนริมฝีปากที่อาจกลายเป็นแผลเปิด
  • มีแผ่นขรุขระหรือแดงเจ็บภายในปาก
  • มีแผลเจ็บตล้ายหูด แดงในหรือบนทวารหนักหรือองคชาต

สาเหตุ

มะเร็งผิวหนังชนิด Squamous cell carcinoma เกิดขึ้นเมื่อเซลล์ความัสที่แบนและบางที่อยู่ในผิวชั้นนอกและชั้นกลางเกิดการเปลี่ยนแปลง (การกลายพันธุ์)ในดีเอ็นเอ  เซลล์ดีเอ็นเอจะบอกเซลล์ว่าควรต้องทำอะไรบ้าง การกลายพันธุ์จะไปบอกเซลล์ความัสให้เจริญเติบโตนอกเหนือการควบคุมและยังคงมีชีวิตเมื่อเซลล์ปกติตาย ดีเอ็นเอที่กลายพันธุ์ส่วนใหญ่ในเซลล์ผิวหนังเกิดขึ้นจากรังสีอัลตร้าไวโอเลต (ยูวี) ของแสงแดดและในการใช่เตียงอาบแดด

การป้องกัน 

การลดการสัมผัสรังสียูวีเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันมะเร็งผิวหนังที่ไม่ใช่มะเร็งผิวหนัง ต่อไปนี้เป็นมาตรการป้องกันบางประการ:
  • ใช้ครีมกันแดด:ทาครีมกันแดดในวงกว้างที่มีค่า SPF 30 หรือสูงกว่าเป็นประจำ แม้ในวันที่มีเมฆมาก
  • หาที่ร่ม:หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในช่วงชั่วโมงที่มีรังสียูวีสูงสุด (10.00 น. ถึง 16.00 น.)
  • สวมชุดป้องกัน:ใช้หมวกปีกกว้าง แว่นกันแดด และเสื้อผ้าที่คลุมแขนและขา
  • หลีกเลี่ยงเตียงอาบแดด:รังสียูวีเทียมจากเตียงอาบแดดเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง

การพยากรณ์โรค 

การพยากรณ์โรคมะเร็งผิวหนังที่ไม่ใช่เนื้องอกโดยทั่วไปจะดีมากหากตรวจพบและรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ BCC และ SCC ไม่ค่อยแพร่กระจาย (แพร่กระจาย) ไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย แต่สามารถบุกรุกเนื้อเยื่อรอบ ๆ ได้หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา การตรวจผิวหนังเป็นประจำและการรักษารอยโรคที่น่าสงสัยอย่างทันท่วงทีสามารถช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนและให้ผลลัพธ์ที่ดี โดยสรุป มะเร็งผิวหนังที่ไม่ใช่เนื้องอก รวมถึงมะเร็งเซลล์ต้นกำเนิดและมะเร็งเซลล์สความัส มีสาเหตุหลักมาจากการสัมผัสรังสี UV และสามารถป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้มาตรการป้องกันแสงแดด การตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ และการรักษาที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการจัดการมะเร็งผิวหนังที่ไม่ใช่มะเร็งผิวหนัง และลดผลกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้ป่วยให้เหลือน้อยที่สุด หากคุณสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงหรือการเจริญเติบโตของผิวหนังที่ผิดปกติ ให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการประเมินและการแทรกแซงอย่างทันท่วงที
แจ้งให้ทราบ
guest
0 ความคิดเห็น
การตอบรับแบบอินไลน์
ดูความคิดเห็นทั้งหมด